ความเดิมตอนที่แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/30367768 บทนำ
http://ppantip.com/topic/30369696 บทที่ 1 เจ้าชายขี่ม้าขาวกับสาวดำตับเป็ด
http://ppantip.com/topic/30373309 บทที่ 2 แสบอสรพิษ
http://ppantip.com/topic/30376466 บทที่ 3 ดาวดราม่า
http://ppantip.com/topic/30393034 บทที่ 4 ชายปริศนาปรากฎ
http://ppantip.com/topic/30397455 บทที่ 5 นายฝรั่งจิ้ม
http://ppantip.com/topic/30420727 บทที่ 6 ใจละลาย
http://ppantip.com/topic/30437954 บทที่ 7 งูเนื้อคู่
http://ppantip.com/topic/30462369 บทที่ 8 อยากเก็บฝรั่งไว้ดองทั้งสองคน
http://ppantip.com/topic/30489956 บทที่ 9 ลำตัดลัดฟ้า
http://ppantip.com/topic/30490063 บทที่ 10 รักหรอก หรือ หลอกรัก
http://ppantip.com/topic/30492274 บทที่ 11 จดหมายผิดซอง
http://ppantip.com/topic/30505360 บทที่ 12 อเมริกาจ๋า
มาดามดำตับเป็ด
บทที่13
มิตรหมาหมู่
สัญญาณไฟสีแดงเล็กๆที่โทรศัพท์กระพริบตามเวลาที่ทรายนัดหมายไว้ โชคดีที่ก่อนหน้านี้ดาวกดปุ่มปิดเสียงเรียกเข้า มันเลยไม่มีเสียงดังใดๆที่จะทำให้คนแก่ทั้งสองคนตื่น เมื่อดูหน้าจอดิจิตอลว่าเป็นเบอร์ห้องทรายโทรมา เธอก็รีบยกหูโทรศัพท์อย่างเบาที่สุด “ ห้อง712 ห้องสุดท้ายซ้ายมือ รีบมานะคะ” ทรายพูดอย่างรวดเร็วและวางสายไปทันที ดาวชะเง้อหน้าไปดูลาดเลาบนพื้นริมห้องอยู่นานสองนาน เพื่อให้แน่ใจว่าย่าแอ๋วและยายม้วนยังคงนอนหลับอยู่ พอเห็นว่าทางสะดวก เธอก็ย่องออกจากห้องและรีบไปที่ลิฟท์ทันที
พอดาวกดชั้นที่จะขึ้นไป เธอก็ฉุกคิดได้ว่าว่าทำไมต้องไปที่ชั้นเจ็ด ทั้งๆที่ห้องพักทรายอยู่ชั้นห้า และเมื่อลิฟท์มาถึงชั้นเจ็ด เธอก็พบทรายที่มายืนรอเธออยู่หน้าลิฟท์ด้วยท่าทางกระวนกระวาย
“ มาเลยค่ะพี่ดาว มานี่เลยค่ะ เดี๋ยวจะไม่ทันการ ” ทรายรีบพาดาวมาที่ห้องดังกล่าวอย่างลุกลี้ลุกลน พอไขประตูเสร็จ ทรายก็ดันเธอเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว “ เงียบๆนะคะ ทรายไม่แน่ใจว่าพวกเค้ามารึยัง ” ทรายพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อยลง และปิดประตูอย่างเบาที่สุด ดาวเห็นว่ามืด เธอก็เลยจะเอื้อมมือไปเปิดไฟแต่ทรายก็ห้ามไว้ “ ไม่ได้ค่ะ ห้องนี้ใช้คีย์การ์ด แต่อย่าเปิดเลยนะคะ แสงมันลอดไปอีกห้องนึงได้ พี่ดาวไปนั่งหลบตรงข้างโต๊ะนั่นนะคะ”
“ ตกลงมันมีเรื่องอะไรกัน ทำไมเราต้องมาทำลับๆล่อๆเป็นแมวขโมยแบบเนี้ย” ทรายไม่พูดอะไร แต่ส่งอวัจนาภาษาสื่อสารบอกให้ดาวเงียบ ทรายเอาหูไปแนบกับประตูที่ติดอยู่กำแพงข้างห้องและใช้เวลาฟังอยู่ครู่หนึ่ง “ เฮ้อ ดีนะที่ยังไม่มากัน ” ทรายถอนหายใจ และเดินมานั่งตรงดาวด้วยท่าทางที่โล่งอก
“ จะบอกพี่ได้หรือยัง พี่อีดอัดนะเนี้ย ”
“ ขอโทษทีค่ะพี่ดาว ก็พี่ดาวมาช้านิคะ ทรายก็เลยกังวลกลัวว่ามันจะไม่ทัน”
“ แล้วเรามาที่ห้องนี้กันทำไม ” ดาวเริ่มมองสำรวจห้องด้วยตาเปล่าอย่างคร่าวๆ ประตูที่ติดอยู่ฝาผนังของห้องที่ทรายเพิ่งไปแนบหูฟัง มันทำให้เธอพอจะรู้ว่าที่นี้ไม่ใช่ห้องธรรมดาทั่วไป “ เอ๊ะ! อันนี้รู้สึกจะเป็นห้องสูทใช่ไหม ”
“ ค่ะ อันนี้ห้องเล็กติดกับห้องนอน มีประตูเชื่อมหากัน แต่มีห้องใหญ่เท่านั้นที่เปิดประตูมาห้องเล็กได้ เราจึงต้องระวังเป็นพิเศษไงคะ”
“ แล้วห้องสูทนี้เป็นห้องของใคร ”
“ ห้องสูทเนี้ยจริงๆแล้วใช้ประชุมงานค่ะ ไม่ค่อยมีใครมานอนหรอก คีย์การ์ดมันมีสองอัน ทรายมีอยู่อันนึงก็เลยพาพี่เข้ามาได้ไงคะ ”
“ ทรายต้องการให้พี่มาแอบดูใคร ”
“ ถ้าทรายพูดไปพี่ก็คงไม่เชื่อ ทรายก็เลยต้องให้พี่มาเห็นด้วยตา และใช้หูฟังด้วยตัวเองนี่ไง รออีกแปปนะคะ อีกไม่นานก็รู้ ”
ทรายลุกขึ้นไปแง้มม่านที่ริมระเบียงเพื่อเพิ่มแสงสว่างเข้ามาด้านในให้มากขึ้น“ เปิดซะหน่อย เดี๋ยวเผลอไปเตะโดนอะไรเข้าแล้วคนห้องนู้นได้ยิน มีหวังโป๊ะแตกแน่ ”
“ ไม่เห็นจะยากเลย ก็ทำเสียงแมวหมาร้องไปสิ ” ดาวตอบทรายกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่หันหน้าไปหาทรายตอนพูดคำว่า’หมาแมว’เพื่อบอกเป็นนัยยะว่าเธอหมายถึงใคร ทรายทำหน้าตกใจเล็กน้อยและวิ่งทำหน้าบ๊องแบ๊วอย่างไร้เดียงสามาหาดาว “โธ่พี่ดาว แมวหมาที่ไหนจะมาอยู่ชั้นเจ็ดคะ แหมพี่ดาวก็ ฮ่าฮ่าฮ่า ” ทรายหัวเราะแห้งๆ
“ พี่ก็พูดไปอย่างงั้นแหละ ก็นึกว่าพนักงานบริษัทพี่น้อยจะตบตาคนเก่งซะอีก ” ทรายหุบยิ้มลง แต่ก็พยายามมานวดเอาใจและยิ้มให้หวานขึ้นจนปากกว้างเป็นนางงาม เพื่อแสดงความเป็นมิตรกับดาว “ พี่ดาวขา นี่พี่ยังไม่หายโกรธน้องทรายอีกเหรอคะ ที่น้องทรายทำไปเพราะผู้ใหญ่ขอร้องนะคะ ” ทรายก้มหน้าทำตาละห้อยและเริ่มทำเสียงกระซิกสะอื้น
ดาวเอามือมาแตะที่มือทรายเบาๆ “ พี่ไม่ได้โกรธ” ทรายเงยหน้าขี้นยิ้มด้วยความดีใจและกุมมือดาวเสมือนรักใคร่ “แต่พี่ไม่ไว้ใจ ” ดาวปล่อยมือออกจากทรายอย่างเบาเมื่อพูดจบประโยค
“ ทรายกะแล้วว่าพี่ดาวต้องไม่ไว้ใจ งั้นรอดูรอฟังกับสิ่งที่จะเห็นแหละกันนะคะ ” ทรายทำน้ำเสียงตัดพ้อด้วยความน้อยใจ แต่ดาวก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
“ แล้วทรายแน่ใจเหรอ ว่าไอ้ความลับที่จะบอก มันเป็นสิ่งที่พี่อยากรู้ ”
“ ถ้าพี่ไม่อยากรู้ พี่คงไม่แอบมาเจอตามที่นัดหรอกค่ะ ”
“ รู้ได้ยังไงว่าพี่แอบมา”
“ ก็ทรายโทรไปตั้งนานแล้ว พี่ก็ยังไม่มา มันก็แสดงว่าพี่คงต้องใช้เวลาดูลาดเลาก่อนที่จะออกมาใช่ไหมล่ะคะ หรือว่าไม่จริง ”
“ น้องทรายนี่ฉลาดทุกเรื่องเลยนะคะ ไม่รู้ว่ากำลังจะจัดฉากบังเอิญอะไรให้พี่ดูอีกหรือเปล่า ”
“ สิ่งที่พี่ดาวกำลังจะรับรู้ มันไม่ใช่การจัดฉากหรอกค่ะ ใครๆเค้าก็รู้กันทั้งบริษัท แม้กระทั่งความบังเอิญที่พี่ดาวมาแสดงลำตัดที่นี้ พี่ดาวไม่รู้สึกสงสัยเลยเหรอคะ ว่ามันบังเอิ๊ญบังเอิญไปหน่อย”
“ ก็สงสัยนะ มันคงบังเอิญไม่หมดเวรหมดกรรมมั้ง ” ดาวพูดตอกกลับใส่ทรายด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
“ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกค่ะ ทุกอย่างถูกเซ็ทและวางแผนไว้แล้ว”
“ วางแผน! แผนอะไร?”
“ จริงๆแล้วลำตัดมันไม่ใช่สิ่งที่เราตัองการเอามาโชว์เลย เพราะมันเน้นโชว์ร้อง มากกว่าการโชว์รำ พี่ดาวคิดดูสิคะว่าฝรั่งที่ไหนจะฟังลำตัดรู้เรื่อง ”
“ แต่น้าจุ๋มบอกพี่ว่าเค้าต้องการเอามาโชว์ให้คนไทยดูเป็นหลักนะ”
“ ถึงที่นี้จะเป็นไทยทาวน์ แต่คนที่มางานคือฝรั่งนะคะ ไม่ใช่คนไทย”
“ แล้วยังไง พี่ไม่เข้าใจ พี่ไม่เห็นว่าใครจะได้รับผลดีจากการเสียประโยชน์ครั้งนี้สักคน ไม่ว่าจะพี่น้อย น้าจุ๋มหรือว่าใคร คนที่ได้ประโยชน์ล้วนๆก็คือพี่ ได้มาทั้งเที่ยวและได้เงินค่าจ้างด้วย”
“ พี่ได้เงินค่าจ้างหรือยังคะ ”
“ เดี๋ยวน้าจุ๋มจะให้เช็คพี่หลังจบงาน”
“ แล้วค่าใช้จ่ายค่าเครื่องบินนี่ใครออกคะ”
“ พวกพี่ออกกันไปก่อน น้าจุ๋มบอกว่าเดี๋ยวจะทบบวกคืนให้ในเช็คทีหลัง ”
“ นี่ก็เป็นสิ่งที่พี่ต้องระวังไว้นะคะ ”
“ ระวังทำไม น้าจุ๋มคงไม่ทำกับบ้านพี่แบบนั้นหรอก ”
“ ค่ะใช่ คุณจุ๋มไม่ทำกับพี่แบบนั้นแน่ คุณจุ๋มเป็นคนให้บริษัทพี่น้อยมาทำงานก็จริง แต่ผู้ว่าจ้างหลักคือสปอนเซอร์ มันเป็นการทำงานร่วมคนละเจ็ดสิบสามสิบ พี่ดาวก็น่าจะพอเดาออก ว่าใครมีอำนาจมากกว่า คุณจุ๋มไม่ได้ว่าจ้างพี่ดาวโดยตรง เค้าแค่เอาลำตัดมาเสนอกับคนจัดงาน จริงๆแล้วพี่น้อยก็ไม่เห็นชอบด้วยตั้งแต่แรก เพราะว่าลำตัดเป็นอะไรที่สื่อสารได้ยากกับคนต่างชาติ แต่ทางสปอนเซอร์หลักอย่างคุณนายหมีกลับเห็นชอบ ทุกอย่างก็เลยมาบังเอิญอย่างที่เป็นเนี้ยแหละค่ะ”
“ เฮ้อ ความเกลียดชังทำให้มนุษย์เราทำอะไรซับซ้อนจริงเนอะ ถึงเค้าจะไม่จ่ายเงินพี่ พี่ก็ไม่ได้เดือดร้อน พี่จะถือว่าพี่มาเที่ยวล่ะกัน ”
“ พี่ดาวไม่เดือดร้อนเลยเหรอคะ พี่ดาวต้องขายหน้ามากเลยนะคะที่จะไม่มีคนดูลำตัด พี่ดาวไม่โกรธเลยเหรอคะ ”
“ พี่เชื่อว่าคนอย่างพี่น้อยคงไม่ทำให้งานอีเว้นท์ของตัวเองขายหน้าซ้ำสองหรอก เพราะงานทุกครั้งมันก็ต้องเป็นทอล์กออฟเดอะทาวทุกทีนิ มุขแก๊สน้ำตาคงใช้ที่ไม่ได้หรอก เดี๋ยวจะโดนข้อหาก่อการร้ายนะจะบอกให้ ”
“ ทรายก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะว่าพี่น้อยจะจัดการกับลำตัดยังไง แต่ทรายแค่มาเตือนให้พี่ดาวระวังตัว ทุกอย่างที่ทรายบอกไป ก็เพื่อไถ่โทษในสิ่งที่ทรายทำไปครั้งนั้นนะคะ ” ทรายกุมมือดาว ในแววตามีน้ำตาคลอที่เบ้าพร้อมที่จะปล่อยโฮออกมา ดาวใช้มืออีกข้างนึงหยิบผ้ามาเช็ดน้ำตารอบๆดวงตาของทรายก่อนที่มันจะไหล “ ถ้าฝุ่นเข้าตาก็ไปล้างน้ำซะนะ อย่าร้องเลย และทรายก็ไม่ต้องมาทำอะไรไถ่โทษพี่ด้วย แค่คำขอโทษอย่างจริงใจก็พอแล้ว เช็ดน้ำตาเองเสร็จ ก็เอาผ้าไปผึ่งด้วยนะ สงสัยแม่บ้านคงเช็ดโต๊ะแล้วทิ้งไว้ ถ้าหมดเรื่องแล้ว งั้นพี่ขอกลับห้องนะ ”
“ เดี๋ยวก่อนค่ะ ” เสียงเปิดประตูอีกห้องหนึ่งดังขึ้น “ สงสัยมากันแล้ว พี่ดาวมาฟังที่ประตูห้องนี่เร็ว ” ทรายรีบดึงตัวดาวก้มต่ำลงมา แล้วแนบหูฟังไปที่บานประตูผนังห้อง เสียงฝีเท้าของคนสองคนเดินเข้ามาที่ห้องใหญ่ คนทั้งสองกระโดดลงบนเตียงและหัวเราะเสียงดังคิกคักกันอย่างสนุกสนาน ดาวรู้สีกคุ้นหูกับเสียงหัวเราะร่วนเชิงหยอกเย้าของผู้ชายและผู้หญิง
“ จริงๆไม่น่าจะมาห้องนี้นะ ไม่รู้เด็กๆมันจะขึ้นมาทำงานกันอีกหรือเปล่า ” เสียงของผู้หญิงที่ดังขึ้นมาก็คือเสียงของ’พี่น้อย’ ดาวอดใคร่ที่จะรู้ไม่ได้ว่าคนที่อยู่ในห้องกับพี่น้อยอีกคนนั้นคือใคร “ โธ่พี่ ใครๆในบริษัทก็รู้กันหมดแล้ว พี่จะอายทำไมล่ะครับ” เสียงของบุคคลที่สองก็คือเสียงของ’พี่เอก’นั่นเอง ดาวมองหน้าทรายด้วยความตกใจ แต่ทรายก็พยักหน้าบอกว่านี่แหละคือความลับที่อยากให้เธอรู้
“ บางทีพี่ก็อายเด็กมันนะเอก”
“ ผมเช็กแล้วครับ ทีมงานเมาหลับในห้องกันหมดแล้ว ทางสะดวกแน่นอนครับ ”
“ รอบคอบตลอดเลยนะ มิน่าล่ะ เอกปิดอีดำดาวนั่นซะเนียนเชียว ”
“ ผมไม่ได้ปิดนะ แต่อีดำนั่นมันหลงผมหัวปักหัวปำจนตามืดตามัวเอง พี่ไม่น่าให้มันมาที่นี้ด้วยเลย ผมต้องปั้นหน้าหล่อสุภาพบุรุษใส่มันอีก ผมเบื่อแล้วนะพี่ ลูบหัวอีดำทีไรผมต้องล้างมือทุกที หัวอีนั้นทั้งมันและหยิกสากมือผมไปหมด พี่อย่าเพิ่งมาพูดเรื่องนี้สิ ผมไม่ไหวแล้วนะครับ ตั้งแต่มาอยู่เนี้ย ผมไม่มีโอกาสอยู่กับพี่เลย น้องแอ้มติดผมแจเป็นตุ๊กแกเลย ”
“ เอาน่ะ ประจบประแจงตามใจนังแอ้มไปก่อน แล้วก็อย่าลืมหว่านเสน่ห์ใส่อีดำมันด้วย ยังไงมันก็เชื่องกับเอกคนเดียวอยู่แล้ว จำไว้ว่าทำเพื่องาน เออ แล้วแน่ใจหรือเปล่าว่านังแอ้มมันหลับไปแล้ว ”
“ กระดกไวน์ไปหกแก้วหลับสนิทเลยครับ พี่อ่ะ มานี่เลย มาให้ผมกอดหน่อยเร็ว”
“ โอ้ยใจเย็นสิเอก โอ้ย โอ้ย พี่จั๊กกะจี้นะ โอ้ย อ้าา... ”
ดาวเอาหูออกจากฝาประตู เพราะเธอไม่สามารถทนฟังได้อีกต่อไป น้ำตามันไหลพรากออกมาไม่รู้ตัว สิ่งที่ทำให้เธอสะเทือนใจก็คือการถูกหักหลังจากบุคคลที่เธอเคยรักและศรัทธา ทั้งพี่น้อยและพี่เอกให้ความเอ็นดูกับเธอมาตลอด ไม่เคยรังเกียจหรือดูถูกในตัวตนของดาวเลย แต่เมื่อลับหลัง ทั้งสองกลับแสดงธาตุแท้ออกมาไม่ต่างจากคนอื่น
>>>มีต่อด้านล่างค่ะ
มาดามดำตับเป็ด : บทที่ 13 : มิตรหมาหมู่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มาดามดำตับเป็ด
บทที่13
มิตรหมาหมู่
สัญญาณไฟสีแดงเล็กๆที่โทรศัพท์กระพริบตามเวลาที่ทรายนัดหมายไว้ โชคดีที่ก่อนหน้านี้ดาวกดปุ่มปิดเสียงเรียกเข้า มันเลยไม่มีเสียงดังใดๆที่จะทำให้คนแก่ทั้งสองคนตื่น เมื่อดูหน้าจอดิจิตอลว่าเป็นเบอร์ห้องทรายโทรมา เธอก็รีบยกหูโทรศัพท์อย่างเบาที่สุด “ ห้อง712 ห้องสุดท้ายซ้ายมือ รีบมานะคะ” ทรายพูดอย่างรวดเร็วและวางสายไปทันที ดาวชะเง้อหน้าไปดูลาดเลาบนพื้นริมห้องอยู่นานสองนาน เพื่อให้แน่ใจว่าย่าแอ๋วและยายม้วนยังคงนอนหลับอยู่ พอเห็นว่าทางสะดวก เธอก็ย่องออกจากห้องและรีบไปที่ลิฟท์ทันที
พอดาวกดชั้นที่จะขึ้นไป เธอก็ฉุกคิดได้ว่าว่าทำไมต้องไปที่ชั้นเจ็ด ทั้งๆที่ห้องพักทรายอยู่ชั้นห้า และเมื่อลิฟท์มาถึงชั้นเจ็ด เธอก็พบทรายที่มายืนรอเธออยู่หน้าลิฟท์ด้วยท่าทางกระวนกระวาย
“ มาเลยค่ะพี่ดาว มานี่เลยค่ะ เดี๋ยวจะไม่ทันการ ” ทรายรีบพาดาวมาที่ห้องดังกล่าวอย่างลุกลี้ลุกลน พอไขประตูเสร็จ ทรายก็ดันเธอเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว “ เงียบๆนะคะ ทรายไม่แน่ใจว่าพวกเค้ามารึยัง ” ทรายพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อยลง และปิดประตูอย่างเบาที่สุด ดาวเห็นว่ามืด เธอก็เลยจะเอื้อมมือไปเปิดไฟแต่ทรายก็ห้ามไว้ “ ไม่ได้ค่ะ ห้องนี้ใช้คีย์การ์ด แต่อย่าเปิดเลยนะคะ แสงมันลอดไปอีกห้องนึงได้ พี่ดาวไปนั่งหลบตรงข้างโต๊ะนั่นนะคะ”
“ ตกลงมันมีเรื่องอะไรกัน ทำไมเราต้องมาทำลับๆล่อๆเป็นแมวขโมยแบบเนี้ย” ทรายไม่พูดอะไร แต่ส่งอวัจนาภาษาสื่อสารบอกให้ดาวเงียบ ทรายเอาหูไปแนบกับประตูที่ติดอยู่กำแพงข้างห้องและใช้เวลาฟังอยู่ครู่หนึ่ง “ เฮ้อ ดีนะที่ยังไม่มากัน ” ทรายถอนหายใจ และเดินมานั่งตรงดาวด้วยท่าทางที่โล่งอก
“ จะบอกพี่ได้หรือยัง พี่อีดอัดนะเนี้ย ”
“ ขอโทษทีค่ะพี่ดาว ก็พี่ดาวมาช้านิคะ ทรายก็เลยกังวลกลัวว่ามันจะไม่ทัน”
“ แล้วเรามาที่ห้องนี้กันทำไม ” ดาวเริ่มมองสำรวจห้องด้วยตาเปล่าอย่างคร่าวๆ ประตูที่ติดอยู่ฝาผนังของห้องที่ทรายเพิ่งไปแนบหูฟัง มันทำให้เธอพอจะรู้ว่าที่นี้ไม่ใช่ห้องธรรมดาทั่วไป “ เอ๊ะ! อันนี้รู้สึกจะเป็นห้องสูทใช่ไหม ”
“ ค่ะ อันนี้ห้องเล็กติดกับห้องนอน มีประตูเชื่อมหากัน แต่มีห้องใหญ่เท่านั้นที่เปิดประตูมาห้องเล็กได้ เราจึงต้องระวังเป็นพิเศษไงคะ”
“ แล้วห้องสูทนี้เป็นห้องของใคร ”
“ ห้องสูทเนี้ยจริงๆแล้วใช้ประชุมงานค่ะ ไม่ค่อยมีใครมานอนหรอก คีย์การ์ดมันมีสองอัน ทรายมีอยู่อันนึงก็เลยพาพี่เข้ามาได้ไงคะ ”
“ ทรายต้องการให้พี่มาแอบดูใคร ”
“ ถ้าทรายพูดไปพี่ก็คงไม่เชื่อ ทรายก็เลยต้องให้พี่มาเห็นด้วยตา และใช้หูฟังด้วยตัวเองนี่ไง รออีกแปปนะคะ อีกไม่นานก็รู้ ”
ทรายลุกขึ้นไปแง้มม่านที่ริมระเบียงเพื่อเพิ่มแสงสว่างเข้ามาด้านในให้มากขึ้น“ เปิดซะหน่อย เดี๋ยวเผลอไปเตะโดนอะไรเข้าแล้วคนห้องนู้นได้ยิน มีหวังโป๊ะแตกแน่ ”
“ ไม่เห็นจะยากเลย ก็ทำเสียงแมวหมาร้องไปสิ ” ดาวตอบทรายกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่หันหน้าไปหาทรายตอนพูดคำว่า’หมาแมว’เพื่อบอกเป็นนัยยะว่าเธอหมายถึงใคร ทรายทำหน้าตกใจเล็กน้อยและวิ่งทำหน้าบ๊องแบ๊วอย่างไร้เดียงสามาหาดาว “โธ่พี่ดาว แมวหมาที่ไหนจะมาอยู่ชั้นเจ็ดคะ แหมพี่ดาวก็ ฮ่าฮ่าฮ่า ” ทรายหัวเราะแห้งๆ
“ พี่ก็พูดไปอย่างงั้นแหละ ก็นึกว่าพนักงานบริษัทพี่น้อยจะตบตาคนเก่งซะอีก ” ทรายหุบยิ้มลง แต่ก็พยายามมานวดเอาใจและยิ้มให้หวานขึ้นจนปากกว้างเป็นนางงาม เพื่อแสดงความเป็นมิตรกับดาว “ พี่ดาวขา นี่พี่ยังไม่หายโกรธน้องทรายอีกเหรอคะ ที่น้องทรายทำไปเพราะผู้ใหญ่ขอร้องนะคะ ” ทรายก้มหน้าทำตาละห้อยและเริ่มทำเสียงกระซิกสะอื้น
ดาวเอามือมาแตะที่มือทรายเบาๆ “ พี่ไม่ได้โกรธ” ทรายเงยหน้าขี้นยิ้มด้วยความดีใจและกุมมือดาวเสมือนรักใคร่ “แต่พี่ไม่ไว้ใจ ” ดาวปล่อยมือออกจากทรายอย่างเบาเมื่อพูดจบประโยค
“ ทรายกะแล้วว่าพี่ดาวต้องไม่ไว้ใจ งั้นรอดูรอฟังกับสิ่งที่จะเห็นแหละกันนะคะ ” ทรายทำน้ำเสียงตัดพ้อด้วยความน้อยใจ แต่ดาวก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
“ แล้วทรายแน่ใจเหรอ ว่าไอ้ความลับที่จะบอก มันเป็นสิ่งที่พี่อยากรู้ ”
“ ถ้าพี่ไม่อยากรู้ พี่คงไม่แอบมาเจอตามที่นัดหรอกค่ะ ”
“ รู้ได้ยังไงว่าพี่แอบมา”
“ ก็ทรายโทรไปตั้งนานแล้ว พี่ก็ยังไม่มา มันก็แสดงว่าพี่คงต้องใช้เวลาดูลาดเลาก่อนที่จะออกมาใช่ไหมล่ะคะ หรือว่าไม่จริง ”
“ น้องทรายนี่ฉลาดทุกเรื่องเลยนะคะ ไม่รู้ว่ากำลังจะจัดฉากบังเอิญอะไรให้พี่ดูอีกหรือเปล่า ”
“ สิ่งที่พี่ดาวกำลังจะรับรู้ มันไม่ใช่การจัดฉากหรอกค่ะ ใครๆเค้าก็รู้กันทั้งบริษัท แม้กระทั่งความบังเอิญที่พี่ดาวมาแสดงลำตัดที่นี้ พี่ดาวไม่รู้สึกสงสัยเลยเหรอคะ ว่ามันบังเอิ๊ญบังเอิญไปหน่อย”
“ ก็สงสัยนะ มันคงบังเอิญไม่หมดเวรหมดกรรมมั้ง ” ดาวพูดตอกกลับใส่ทรายด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
“ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกค่ะ ทุกอย่างถูกเซ็ทและวางแผนไว้แล้ว”
“ วางแผน! แผนอะไร?”
“ จริงๆแล้วลำตัดมันไม่ใช่สิ่งที่เราตัองการเอามาโชว์เลย เพราะมันเน้นโชว์ร้อง มากกว่าการโชว์รำ พี่ดาวคิดดูสิคะว่าฝรั่งที่ไหนจะฟังลำตัดรู้เรื่อง ”
“ แต่น้าจุ๋มบอกพี่ว่าเค้าต้องการเอามาโชว์ให้คนไทยดูเป็นหลักนะ”
“ ถึงที่นี้จะเป็นไทยทาวน์ แต่คนที่มางานคือฝรั่งนะคะ ไม่ใช่คนไทย”
“ แล้วยังไง พี่ไม่เข้าใจ พี่ไม่เห็นว่าใครจะได้รับผลดีจากการเสียประโยชน์ครั้งนี้สักคน ไม่ว่าจะพี่น้อย น้าจุ๋มหรือว่าใคร คนที่ได้ประโยชน์ล้วนๆก็คือพี่ ได้มาทั้งเที่ยวและได้เงินค่าจ้างด้วย”
“ พี่ได้เงินค่าจ้างหรือยังคะ ”
“ เดี๋ยวน้าจุ๋มจะให้เช็คพี่หลังจบงาน”
“ แล้วค่าใช้จ่ายค่าเครื่องบินนี่ใครออกคะ”
“ พวกพี่ออกกันไปก่อน น้าจุ๋มบอกว่าเดี๋ยวจะทบบวกคืนให้ในเช็คทีหลัง ”
“ นี่ก็เป็นสิ่งที่พี่ต้องระวังไว้นะคะ ”
“ ระวังทำไม น้าจุ๋มคงไม่ทำกับบ้านพี่แบบนั้นหรอก ”
“ ค่ะใช่ คุณจุ๋มไม่ทำกับพี่แบบนั้นแน่ คุณจุ๋มเป็นคนให้บริษัทพี่น้อยมาทำงานก็จริง แต่ผู้ว่าจ้างหลักคือสปอนเซอร์ มันเป็นการทำงานร่วมคนละเจ็ดสิบสามสิบ พี่ดาวก็น่าจะพอเดาออก ว่าใครมีอำนาจมากกว่า คุณจุ๋มไม่ได้ว่าจ้างพี่ดาวโดยตรง เค้าแค่เอาลำตัดมาเสนอกับคนจัดงาน จริงๆแล้วพี่น้อยก็ไม่เห็นชอบด้วยตั้งแต่แรก เพราะว่าลำตัดเป็นอะไรที่สื่อสารได้ยากกับคนต่างชาติ แต่ทางสปอนเซอร์หลักอย่างคุณนายหมีกลับเห็นชอบ ทุกอย่างก็เลยมาบังเอิญอย่างที่เป็นเนี้ยแหละค่ะ”
“ เฮ้อ ความเกลียดชังทำให้มนุษย์เราทำอะไรซับซ้อนจริงเนอะ ถึงเค้าจะไม่จ่ายเงินพี่ พี่ก็ไม่ได้เดือดร้อน พี่จะถือว่าพี่มาเที่ยวล่ะกัน ”
“ พี่ดาวไม่เดือดร้อนเลยเหรอคะ พี่ดาวต้องขายหน้ามากเลยนะคะที่จะไม่มีคนดูลำตัด พี่ดาวไม่โกรธเลยเหรอคะ ”
“ พี่เชื่อว่าคนอย่างพี่น้อยคงไม่ทำให้งานอีเว้นท์ของตัวเองขายหน้าซ้ำสองหรอก เพราะงานทุกครั้งมันก็ต้องเป็นทอล์กออฟเดอะทาวทุกทีนิ มุขแก๊สน้ำตาคงใช้ที่ไม่ได้หรอก เดี๋ยวจะโดนข้อหาก่อการร้ายนะจะบอกให้ ”
“ ทรายก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะว่าพี่น้อยจะจัดการกับลำตัดยังไง แต่ทรายแค่มาเตือนให้พี่ดาวระวังตัว ทุกอย่างที่ทรายบอกไป ก็เพื่อไถ่โทษในสิ่งที่ทรายทำไปครั้งนั้นนะคะ ” ทรายกุมมือดาว ในแววตามีน้ำตาคลอที่เบ้าพร้อมที่จะปล่อยโฮออกมา ดาวใช้มืออีกข้างนึงหยิบผ้ามาเช็ดน้ำตารอบๆดวงตาของทรายก่อนที่มันจะไหล “ ถ้าฝุ่นเข้าตาก็ไปล้างน้ำซะนะ อย่าร้องเลย และทรายก็ไม่ต้องมาทำอะไรไถ่โทษพี่ด้วย แค่คำขอโทษอย่างจริงใจก็พอแล้ว เช็ดน้ำตาเองเสร็จ ก็เอาผ้าไปผึ่งด้วยนะ สงสัยแม่บ้านคงเช็ดโต๊ะแล้วทิ้งไว้ ถ้าหมดเรื่องแล้ว งั้นพี่ขอกลับห้องนะ ”
“ เดี๋ยวก่อนค่ะ ” เสียงเปิดประตูอีกห้องหนึ่งดังขึ้น “ สงสัยมากันแล้ว พี่ดาวมาฟังที่ประตูห้องนี่เร็ว ” ทรายรีบดึงตัวดาวก้มต่ำลงมา แล้วแนบหูฟังไปที่บานประตูผนังห้อง เสียงฝีเท้าของคนสองคนเดินเข้ามาที่ห้องใหญ่ คนทั้งสองกระโดดลงบนเตียงและหัวเราะเสียงดังคิกคักกันอย่างสนุกสนาน ดาวรู้สีกคุ้นหูกับเสียงหัวเราะร่วนเชิงหยอกเย้าของผู้ชายและผู้หญิง
“ จริงๆไม่น่าจะมาห้องนี้นะ ไม่รู้เด็กๆมันจะขึ้นมาทำงานกันอีกหรือเปล่า ” เสียงของผู้หญิงที่ดังขึ้นมาก็คือเสียงของ’พี่น้อย’ ดาวอดใคร่ที่จะรู้ไม่ได้ว่าคนที่อยู่ในห้องกับพี่น้อยอีกคนนั้นคือใคร “ โธ่พี่ ใครๆในบริษัทก็รู้กันหมดแล้ว พี่จะอายทำไมล่ะครับ” เสียงของบุคคลที่สองก็คือเสียงของ’พี่เอก’นั่นเอง ดาวมองหน้าทรายด้วยความตกใจ แต่ทรายก็พยักหน้าบอกว่านี่แหละคือความลับที่อยากให้เธอรู้
“ บางทีพี่ก็อายเด็กมันนะเอก”
“ ผมเช็กแล้วครับ ทีมงานเมาหลับในห้องกันหมดแล้ว ทางสะดวกแน่นอนครับ ”
“ รอบคอบตลอดเลยนะ มิน่าล่ะ เอกปิดอีดำดาวนั่นซะเนียนเชียว ”
“ ผมไม่ได้ปิดนะ แต่อีดำนั่นมันหลงผมหัวปักหัวปำจนตามืดตามัวเอง พี่ไม่น่าให้มันมาที่นี้ด้วยเลย ผมต้องปั้นหน้าหล่อสุภาพบุรุษใส่มันอีก ผมเบื่อแล้วนะพี่ ลูบหัวอีดำทีไรผมต้องล้างมือทุกที หัวอีนั้นทั้งมันและหยิกสากมือผมไปหมด พี่อย่าเพิ่งมาพูดเรื่องนี้สิ ผมไม่ไหวแล้วนะครับ ตั้งแต่มาอยู่เนี้ย ผมไม่มีโอกาสอยู่กับพี่เลย น้องแอ้มติดผมแจเป็นตุ๊กแกเลย ”
“ เอาน่ะ ประจบประแจงตามใจนังแอ้มไปก่อน แล้วก็อย่าลืมหว่านเสน่ห์ใส่อีดำมันด้วย ยังไงมันก็เชื่องกับเอกคนเดียวอยู่แล้ว จำไว้ว่าทำเพื่องาน เออ แล้วแน่ใจหรือเปล่าว่านังแอ้มมันหลับไปแล้ว ”
“ กระดกไวน์ไปหกแก้วหลับสนิทเลยครับ พี่อ่ะ มานี่เลย มาให้ผมกอดหน่อยเร็ว”
“ โอ้ยใจเย็นสิเอก โอ้ย โอ้ย พี่จั๊กกะจี้นะ โอ้ย อ้าา... ”
ดาวเอาหูออกจากฝาประตู เพราะเธอไม่สามารถทนฟังได้อีกต่อไป น้ำตามันไหลพรากออกมาไม่รู้ตัว สิ่งที่ทำให้เธอสะเทือนใจก็คือการถูกหักหลังจากบุคคลที่เธอเคยรักและศรัทธา ทั้งพี่น้อยและพี่เอกให้ความเอ็นดูกับเธอมาตลอด ไม่เคยรังเกียจหรือดูถูกในตัวตนของดาวเลย แต่เมื่อลับหลัง ทั้งสองกลับแสดงธาตุแท้ออกมาไม่ต่างจากคนอื่น
>>>มีต่อด้านล่างค่ะ