ตามความเป็นจริงที่ใครๆก็ต้องยอมรับก็คือ ตำรานั้นเป็นแค่ตัวหนังสือที่ใช้บันทึกเรื่องราวหรือความรู้เอาไว้ เพื่อให้คนอ่านได้นำไปอ่านให้ได้รู้จักเรื่องราวหรือความรู้ที่ตำราได้บันทึกเอาไว้
ตำรานั้นก็มีจุดอ่อนตรงที่ผู้อ่านไม่สามารถสอบถามหรือพูดคุยกับตำราได้ ดังนั้นจึงมีโอกาสเป็นไปได้ว่า ตำรานั้นอาจถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ผิดไปจากต้นกำเนิดหรือต้นฉบับได้ ถ้าผู้อ่านได้รับความรู้มาจากตำราที่ผิด ก็จะทำให้ผู้อ่านเกิดความรู้ผิดขึ้นมาทันทีโดยไม่รู้ตัว
เรื่องนี้พระพุทธเจ้าทรงทราบดีอยู่แล้วว่าตำรานั้นอาจถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ผิดไปจากต้นฉบ้บได้ ดังนั้นพระพุทธองค์จึงได้ทรงวางหลักการเอาใว้เพื่อให้ผู้ที่จะมาศึกษาคำสอนของพระองค์ จะได้พบคำสอนที่ถูกต้องของพระพุทธองค์ด้วยตัวของเขาเองโดยไม่ต้องเชื่อจากตำราหรือแม้จากใครๆก็ตาม
โดยหลักที่จะทำให้ผู้ศึกษาได้ค้นพบคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธองค์ในเรื่องการดับทุกข์ของจิตใจก็สรุปอยู่ที่ "อย่าเชื่อใครแม้แต่ตัวเอง แต่ให้ทดลองปฏิบัติดูก่อน ถ้าได้ผลจริงจึงค่อยเชื่อ แต่ถ้าไม่ได้ผลก็อย่าเชื่อ" โดยการศึกษาก็ให้ศึกษาจากร่างกายและจิตใจของเราเองในปัจจุบันที่ยังไม่ตาย หรือยังมีสติดีอยู่นี้
คือให้เพ่ง(ด้วยสมาธิ)ดูการเกิดและดับของร่างกายและจิตใจของเราเองอย่างจริงจัง ก็จะพบ(เห็น)ความจริงว่า "แท้จริงมันไม่ได้มีสิ่งที่เป็นตัวตนของเราอยู่จริง" ซึ่งก็จะทำให้จิตปล่อยวางความยึดถือ(อุปาทาน)ว่ามีตัวเราลง พร้อมกับความอยาก(ตัณหา)ก็จะหายไป แล้วความทุกข์ของจิตใจก็จะไม่เกิดขึ้น(ที่เรียกว่านิพพาน) เมื่อจิตไม่มีความทุกข์จริง ก็แสดงว่าเราได้ค้นพบวิธีการดับทุกข์ที่ถูกต้องตามที่พระพุทธเจ้าสอนเอาไว้แล้วโดยไม่จำเป็นต้องเชื่อจากตำราหรือจากใครๆแม้จากพระพุทธเจ้าเองก็ตาม
ถ้าตำราสอนผิด คนที่เชื่อก็จะได้รับคำสอนที่ผิด
ตำรานั้นก็มีจุดอ่อนตรงที่ผู้อ่านไม่สามารถสอบถามหรือพูดคุยกับตำราได้ ดังนั้นจึงมีโอกาสเป็นไปได้ว่า ตำรานั้นอาจถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ผิดไปจากต้นกำเนิดหรือต้นฉบับได้ ถ้าผู้อ่านได้รับความรู้มาจากตำราที่ผิด ก็จะทำให้ผู้อ่านเกิดความรู้ผิดขึ้นมาทันทีโดยไม่รู้ตัว
เรื่องนี้พระพุทธเจ้าทรงทราบดีอยู่แล้วว่าตำรานั้นอาจถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ผิดไปจากต้นฉบ้บได้ ดังนั้นพระพุทธองค์จึงได้ทรงวางหลักการเอาใว้เพื่อให้ผู้ที่จะมาศึกษาคำสอนของพระองค์ จะได้พบคำสอนที่ถูกต้องของพระพุทธองค์ด้วยตัวของเขาเองโดยไม่ต้องเชื่อจากตำราหรือแม้จากใครๆก็ตาม
โดยหลักที่จะทำให้ผู้ศึกษาได้ค้นพบคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธองค์ในเรื่องการดับทุกข์ของจิตใจก็สรุปอยู่ที่ "อย่าเชื่อใครแม้แต่ตัวเอง แต่ให้ทดลองปฏิบัติดูก่อน ถ้าได้ผลจริงจึงค่อยเชื่อ แต่ถ้าไม่ได้ผลก็อย่าเชื่อ" โดยการศึกษาก็ให้ศึกษาจากร่างกายและจิตใจของเราเองในปัจจุบันที่ยังไม่ตาย หรือยังมีสติดีอยู่นี้
คือให้เพ่ง(ด้วยสมาธิ)ดูการเกิดและดับของร่างกายและจิตใจของเราเองอย่างจริงจัง ก็จะพบ(เห็น)ความจริงว่า "แท้จริงมันไม่ได้มีสิ่งที่เป็นตัวตนของเราอยู่จริง" ซึ่งก็จะทำให้จิตปล่อยวางความยึดถือ(อุปาทาน)ว่ามีตัวเราลง พร้อมกับความอยาก(ตัณหา)ก็จะหายไป แล้วความทุกข์ของจิตใจก็จะไม่เกิดขึ้น(ที่เรียกว่านิพพาน) เมื่อจิตไม่มีความทุกข์จริง ก็แสดงว่าเราได้ค้นพบวิธีการดับทุกข์ที่ถูกต้องตามที่พระพุทธเจ้าสอนเอาไว้แล้วโดยไม่จำเป็นต้องเชื่อจากตำราหรือจากใครๆแม้จากพระพุทธเจ้าเองก็ตาม