มาจากกระทู้ทวดเอง ที่ผมไปให้ความเห็นไว้ แต่เนื้อหามัน ถ้าเอาจริงต้องโต้กันยาวผมกลัวเสียมารยาท ไปยึดพื้นที่กระทู้คนอื่นเขาจึของแยกมาตั้งกระทู้เองเพื่อจะ ร่ายยาวๆตามประเด็นที่ผมจะโต้ อ.ธีรยุทธ ตามกระทู้นี้ของทวดเอง
http://ppantip.com/topic/31111379/comment42
ความคิดเห็นที่ 42
อ้อครับได้เห็นต้นฉบับ ของอ.ธีรยุทธ แล้วครับในนี้#10
http://ppantip.com/topic/31112054
ครับสรุปสั้นๆ การที่อ. พยายามประดิษฐ "วาทะกรรมเรื่องขี้" ต่อเนื้อหาปาฎาฯนี้ มันมีที่มาที่ไป ในตัวตนที่โยงกิเลสมนุษย์ ที่ทุกคนมีทุกถ้วนทั่วตัวคน ในส่วนดีไม่ดี ทุกคนจึงมีขี้อยู่ในลำไส้ทุกคน การพยายามจะตีความจากตรงนี้(ผมชี้ให้แทนเองว่าน่าจะมีที่มาตรงนี้) แต่ แล้วการไปโฟกัสแค่เรื่องขี้คอรัปฯ แต่ละเลยมองข้าม"ขี้ข้าอำนาจ" นอกระบบหรือการใช้อำนาจร้อนแบบก้อนยาฝิ่น ในการมาออกแบบระบบ ที่ทำให้เกิดการติดประดุมผิด ในการสัดส่วนโครงสร้างอำนาจที่ผิดพลาดมหันต์ในการออกแบบโครงสร้างอำนาจใหม่หลังปฎิวัติ49 จนเกิดปัญหาเชิงโครงสร้างอำนาจโยงมาทุกมิติทั้งพฤติกรรมการใช้อำนาจและความบิดเบี้ยวของดุลอำนาจระบบรัฐสภาฯ มันเรื่องขี้ประติ๋วจริงๆเหรออาจาน???
อ.เคยมองเห็นเรื่องใหญ่ที่สุดแค่ขี้ประติ๋ว แล้วใช้วิธีการ"ขี้ทางปาก" (พ่นอุจาระวาจา) ประดิษฐวาทะกรรมเรื่องขี้นี้ออกมาทางปาก ที่ขาด เนื้อหาในหลายๆมิติที่สำคัญๆ ไปโฟกัสแค่บางเรื่องขี้ประติ๋ว ในลักษณะ คนที่ขี้คาปากหรือขี้ท่วมปาก (ผมเล่นตามไฮไล้ท์ ที่องเปิดตัวเรื่องขี้มาก่อน)
ประเด็นของผมคือ เอาล่ะในเมื่อเรา ทุกคนล้วนมีขี้สิ่งดีไม่ดีในทุกถ้วนทั่วตัวคน? รวมผม? รวมอ. ? แล้วเราจะบริหารจัดการมันอย่างไร ? ให้มันเหมาะสม แล้ว กระทบคนอื่นในทางสร้างสรร หรือครบทุกมิติ ผ่านกระบวนการทางปชต.กว่านี้ เช่น การ "ขี้ทางปาก" (อุจาระวาจา) จนไปกระทบคนที่อ. ไปกล่าวหาเขา มีการตอบโต้ละเลงขี้ใส่กัน มา มากมายเพราะ "อุจาระวาจา" หรือประดิษฐวาทะกรรมออกมาแบบนั้น มันมีทั้งส่วนที่ไม่ใช่ อยู่ในนั้นในการไปกระทบเขา
เนื้อหารวม ของอ. แม้จะพยายามให้หลากหลาย แกะนี่เกาโน้น ไปตามจริต และต้นทุนทางวิชาการและประสปการณ์ที่อ.มี? ที่ผมอ่านแล้ว มันยังไม่เห็นตัวเนื้อหาที่เป็นก้อนเนื้อร้าย ที่เป็นจริงชัดๆ จะจะโดนๆ จริงๆ (แม้จะยกบางประเด็นมาดีระดับหนึ่ง) ตามต้นทุนทางวิชาการ,ประสปการณ์อ.? แล้วอ.เห็น แล้วนำเสนอ วิธีการรักษา อย่างถูกต้องครบตัวตนต้นน้ำของปัญหาจริงๆ แต่ผมอ่านแล้วยังเห็นไม่ชัด แต่การชี้ก็จะประมาณมาแคะๆเกาขี้กลาก เน้นอาการข้างเคียงของโรคแบบทั่วๆไปเบฯๆ ให้คนไทยจั๊กจี้คันๆ เล่นๆ ไม่ได้เน้นจะจะ ชัดๆหาทางออกร่วม ทั้งที่ตัวเนื้อหาที่ว่านั้นเยอะแยะ ? หรือวิธีการรักษาที่ถูกต้อง คืออันดับแรกเลย วินิจฉัยโรค อ.ยังห่างอยู่มาก หรือมันประมาณขี้คาปาก ล้นปากจึงนำเสนอออกมาไม่ได้ทั้งหมด
ประเด็นต้นน้ำของปัญหา ที่ถูกออกแบบใหม่ รวบอำนาจ กลับไปยังกลไกเรือสำเภาฯ ในสัดส่วน80% (ในแบบใส่เสื้อคลุมปชต.ไว้)แล้วทอนเศษให้ฝ่ายเรือยนต์ปชต. เชิงพิธีกรรมแค่20% ในตัวเสื้อคลุมว่าเป็นปชต. แล้วจัดสัดส่วนโครงสร้างอำนาจใหม่ ให้ดุลคานอำนาจของระบบรัฐสภาเสียไป โย้มาหาศาล เนื้อหาการติดกระดุมผิด ปฎิวัติ49 มันมีการรวบอำนาจกลับไปหาอำนาจที่ไม่ใช่ปชต. เกิน80% นี่มันโคม่าทางปชต. แล้วแต่อ.ไม่เห็นอะไร??? ใน"ตุลาก้าน(คอ)ธิปไตย" ที่ถนนทุกสายทุกๆเรื่องต้องไปจบที่ศาล
คือต้นน้ำระดับโคม่า แต่อ.หลับหูหลับตามองไม่เห็น แต่กลับไป เล่นกับปลาสิวปลาสร้อย ปัญหา เรื่องขี้คอรัปฯ แม้จะมีจริงเป็นจริงในทุกๆสังคม และทุกๆรบ. หรือหนีไม่พ้นทุกคนล้วนมีขี้? ประเด็นธรรมภิบาล ที่ยกมาอย่างแผ่วเบา? แต่เนื้อหาสาระจริงๆ จึงต้องพุดลึก ไปถึงเครื่องมือที่ใช้ผ่านระบบ"สุขาภิบาล" (เครื่องมือแบบปชต.ให้ถูกต้อง) ไม่ใช่ ให้ พธม. เอามือไปโกยขี้ จนเหลืองอ๋อยเต็มสนามบิน แล้วส่งไม้ต่อไปให้ทีมงานวิ่งพลัดกี่คูณให้ร้าย ฝ่ายปชต. ปูพรมเหลือง ให้ไม้ต่อไปทหารมาปัสวะ(ปฎิวัติ) ขี้ราดหัวคนไทยเพื่อออกแบบวิธีการบริหารจัดการขี้ใหม่ คือ ใครจะขี้จะตดทุกธุระกรรมทั้งหมดในไทย ต้องส่งตีความให้"ตุลาก้าน(คอ)ธิปไตย"วิจัยขี้ก่อน
หรือเป็นทั้งผู้กำกับเองชงเองเล่นเองมั่วทุกสนาม จนดุลคานอำนาจระบบรัฐสภาฯ มันบิดเบี้ยวสะดุด ทีก็วนชนิดที่กลไกทุกอย่างตะกุกตะกักกึ่งเดินกึ่งกลึ้ง หลุนๆ เพราะติดกระดุมผิดมันเลยรั้ง เดินแบบคนบ้า เพราะเมื่อหาความลงตัวของการติดกระดุมผิดไม่ได้ มันก็จะเอาเม็ดสุดท้ายมาผูกติดไว้กับเชือกรองเท้าท๊อบบู๊ตทหาร (ม.309)แบบนี้ มันโคม่าไหม มันเป็นปชต.ไหม?อาจาน???
มานั่งวิจัยขี้ก่อน ใช่ไหม? "จะอุด อั้นสุขา" (กรณีม.112ข้อความในห้องน้ำ ผมสวนท่านประยุทธฯตอนนั้น) แล้วแขวะ ตุลาการในไทย เนื้อหาโคม่า ทั้งทางงานบริหาร พิกลพิการไปเลย หรือจะขี้จะตดที ต้องทำเรื่องตีความส่งศาลก่อน นี่คือประเด็นปัญหาใหญ่ อาจานไปหลับหูหลับตาอยู่ไหน? หรือถ้าอยากให้ชัด
อาจานเอาบทวิเคราะหนี้ของผม ไปนอนตีลังกาอ่าน ? แบบผมสอนอาจานล่ะเอ้า? ถ้าไม่รู้จริงๆ? (ผมต้องเชื่อตามพฤติกรรมอ.ที่มองไม่เห็นเพราะไม่ชี้ แบบไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนว่าไม่รู้) จึงกะจะชี้ให้เห็นด้วยการพูดแรงตามสไตล์อ.กลับไปว่า ผมสอน หนังสือสังฆราช แล้วกันตามนี้
(จงอางหวงไข่ใครแตะ"รัดซ่ะทำมันนูนปีห้าอสูร"ฉันมันตาย)???
http://2g.ppantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P13053926/P13053926.html
ปล.มีเวลาจะขอตั้งเป็นกระทู้สวนอ.ทุกประเด็น แต่เนื่องจากเนื้อหาหลัก ของอ.ส่วนใหญ่ดีกว่าเดิม จึงไม่อยากอะไรมาก เพราะส่วนใหญ่เป็นคุณกับสังคม แต่ถ้ามาแบบเก่า ผมจะ ทะลวงไส้อาจาน ให้เห็นขี้อ.ข้างในทุกขด ไม่ใช่แค่ในปากแบบ"อุจาระวาจา" ประดิษฐ์วาทะกรรมเรื่องขี้ออกมานำเสนอสังคมแบบนี้ ผมจะสวนกลับให้สังคมเห็นเหมือนกันว่าขี้อาจานเหม็นขนาดไหน???
ถึงอ.ธีรยุทธ บุญมี ในมุมมองความเห็นต่างและชี้ประเด็นต้นน้ำปัญหาที่อ.ละเลยในมาตรฐานนัก???ระดับนี้
http://ppantip.com/topic/31111379/comment42
ความคิดเห็นที่ 42
อ้อครับได้เห็นต้นฉบับ ของอ.ธีรยุทธ แล้วครับในนี้#10
http://ppantip.com/topic/31112054
ครับสรุปสั้นๆ การที่อ. พยายามประดิษฐ "วาทะกรรมเรื่องขี้" ต่อเนื้อหาปาฎาฯนี้ มันมีที่มาที่ไป ในตัวตนที่โยงกิเลสมนุษย์ ที่ทุกคนมีทุกถ้วนทั่วตัวคน ในส่วนดีไม่ดี ทุกคนจึงมีขี้อยู่ในลำไส้ทุกคน การพยายามจะตีความจากตรงนี้(ผมชี้ให้แทนเองว่าน่าจะมีที่มาตรงนี้) แต่ แล้วการไปโฟกัสแค่เรื่องขี้คอรัปฯ แต่ละเลยมองข้าม"ขี้ข้าอำนาจ" นอกระบบหรือการใช้อำนาจร้อนแบบก้อนยาฝิ่น ในการมาออกแบบระบบ ที่ทำให้เกิดการติดประดุมผิด ในการสัดส่วนโครงสร้างอำนาจที่ผิดพลาดมหันต์ในการออกแบบโครงสร้างอำนาจใหม่หลังปฎิวัติ49 จนเกิดปัญหาเชิงโครงสร้างอำนาจโยงมาทุกมิติทั้งพฤติกรรมการใช้อำนาจและความบิดเบี้ยวของดุลอำนาจระบบรัฐสภาฯ มันเรื่องขี้ประติ๋วจริงๆเหรออาจาน???
อ.เคยมองเห็นเรื่องใหญ่ที่สุดแค่ขี้ประติ๋ว แล้วใช้วิธีการ"ขี้ทางปาก" (พ่นอุจาระวาจา) ประดิษฐวาทะกรรมเรื่องขี้นี้ออกมาทางปาก ที่ขาด เนื้อหาในหลายๆมิติที่สำคัญๆ ไปโฟกัสแค่บางเรื่องขี้ประติ๋ว ในลักษณะ คนที่ขี้คาปากหรือขี้ท่วมปาก (ผมเล่นตามไฮไล้ท์ ที่องเปิดตัวเรื่องขี้มาก่อน)
ประเด็นของผมคือ เอาล่ะในเมื่อเรา ทุกคนล้วนมีขี้สิ่งดีไม่ดีในทุกถ้วนทั่วตัวคน? รวมผม? รวมอ. ? แล้วเราจะบริหารจัดการมันอย่างไร ? ให้มันเหมาะสม แล้ว กระทบคนอื่นในทางสร้างสรร หรือครบทุกมิติ ผ่านกระบวนการทางปชต.กว่านี้ เช่น การ "ขี้ทางปาก" (อุจาระวาจา) จนไปกระทบคนที่อ. ไปกล่าวหาเขา มีการตอบโต้ละเลงขี้ใส่กัน มา มากมายเพราะ "อุจาระวาจา" หรือประดิษฐวาทะกรรมออกมาแบบนั้น มันมีทั้งส่วนที่ไม่ใช่ อยู่ในนั้นในการไปกระทบเขา
เนื้อหารวม ของอ. แม้จะพยายามให้หลากหลาย แกะนี่เกาโน้น ไปตามจริต และต้นทุนทางวิชาการและประสปการณ์ที่อ.มี? ที่ผมอ่านแล้ว มันยังไม่เห็นตัวเนื้อหาที่เป็นก้อนเนื้อร้าย ที่เป็นจริงชัดๆ จะจะโดนๆ จริงๆ (แม้จะยกบางประเด็นมาดีระดับหนึ่ง) ตามต้นทุนทางวิชาการ,ประสปการณ์อ.? แล้วอ.เห็น แล้วนำเสนอ วิธีการรักษา อย่างถูกต้องครบตัวตนต้นน้ำของปัญหาจริงๆ แต่ผมอ่านแล้วยังเห็นไม่ชัด แต่การชี้ก็จะประมาณมาแคะๆเกาขี้กลาก เน้นอาการข้างเคียงของโรคแบบทั่วๆไปเบฯๆ ให้คนไทยจั๊กจี้คันๆ เล่นๆ ไม่ได้เน้นจะจะ ชัดๆหาทางออกร่วม ทั้งที่ตัวเนื้อหาที่ว่านั้นเยอะแยะ ? หรือวิธีการรักษาที่ถูกต้อง คืออันดับแรกเลย วินิจฉัยโรค อ.ยังห่างอยู่มาก หรือมันประมาณขี้คาปาก ล้นปากจึงนำเสนอออกมาไม่ได้ทั้งหมด
ประเด็นต้นน้ำของปัญหา ที่ถูกออกแบบใหม่ รวบอำนาจ กลับไปยังกลไกเรือสำเภาฯ ในสัดส่วน80% (ในแบบใส่เสื้อคลุมปชต.ไว้)แล้วทอนเศษให้ฝ่ายเรือยนต์ปชต. เชิงพิธีกรรมแค่20% ในตัวเสื้อคลุมว่าเป็นปชต. แล้วจัดสัดส่วนโครงสร้างอำนาจใหม่ ให้ดุลคานอำนาจของระบบรัฐสภาเสียไป โย้มาหาศาล เนื้อหาการติดกระดุมผิด ปฎิวัติ49 มันมีการรวบอำนาจกลับไปหาอำนาจที่ไม่ใช่ปชต. เกิน80% นี่มันโคม่าทางปชต. แล้วแต่อ.ไม่เห็นอะไร??? ใน"ตุลาก้าน(คอ)ธิปไตย" ที่ถนนทุกสายทุกๆเรื่องต้องไปจบที่ศาล
คือต้นน้ำระดับโคม่า แต่อ.หลับหูหลับตามองไม่เห็น แต่กลับไป เล่นกับปลาสิวปลาสร้อย ปัญหา เรื่องขี้คอรัปฯ แม้จะมีจริงเป็นจริงในทุกๆสังคม และทุกๆรบ. หรือหนีไม่พ้นทุกคนล้วนมีขี้? ประเด็นธรรมภิบาล ที่ยกมาอย่างแผ่วเบา? แต่เนื้อหาสาระจริงๆ จึงต้องพุดลึก ไปถึงเครื่องมือที่ใช้ผ่านระบบ"สุขาภิบาล" (เครื่องมือแบบปชต.ให้ถูกต้อง) ไม่ใช่ ให้ พธม. เอามือไปโกยขี้ จนเหลืองอ๋อยเต็มสนามบิน แล้วส่งไม้ต่อไปให้ทีมงานวิ่งพลัดกี่คูณให้ร้าย ฝ่ายปชต. ปูพรมเหลือง ให้ไม้ต่อไปทหารมาปัสวะ(ปฎิวัติ) ขี้ราดหัวคนไทยเพื่อออกแบบวิธีการบริหารจัดการขี้ใหม่ คือ ใครจะขี้จะตดทุกธุระกรรมทั้งหมดในไทย ต้องส่งตีความให้"ตุลาก้าน(คอ)ธิปไตย"วิจัยขี้ก่อน
หรือเป็นทั้งผู้กำกับเองชงเองเล่นเองมั่วทุกสนาม จนดุลคานอำนาจระบบรัฐสภาฯ มันบิดเบี้ยวสะดุด ทีก็วนชนิดที่กลไกทุกอย่างตะกุกตะกักกึ่งเดินกึ่งกลึ้ง หลุนๆ เพราะติดกระดุมผิดมันเลยรั้ง เดินแบบคนบ้า เพราะเมื่อหาความลงตัวของการติดกระดุมผิดไม่ได้ มันก็จะเอาเม็ดสุดท้ายมาผูกติดไว้กับเชือกรองเท้าท๊อบบู๊ตทหาร (ม.309)แบบนี้ มันโคม่าไหม มันเป็นปชต.ไหม?อาจาน???
มานั่งวิจัยขี้ก่อน ใช่ไหม? "จะอุด อั้นสุขา" (กรณีม.112ข้อความในห้องน้ำ ผมสวนท่านประยุทธฯตอนนั้น) แล้วแขวะ ตุลาการในไทย เนื้อหาโคม่า ทั้งทางงานบริหาร พิกลพิการไปเลย หรือจะขี้จะตดที ต้องทำเรื่องตีความส่งศาลก่อน นี่คือประเด็นปัญหาใหญ่ อาจานไปหลับหูหลับตาอยู่ไหน? หรือถ้าอยากให้ชัด
อาจานเอาบทวิเคราะหนี้ของผม ไปนอนตีลังกาอ่าน ? แบบผมสอนอาจานล่ะเอ้า? ถ้าไม่รู้จริงๆ? (ผมต้องเชื่อตามพฤติกรรมอ.ที่มองไม่เห็นเพราะไม่ชี้ แบบไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนว่าไม่รู้) จึงกะจะชี้ให้เห็นด้วยการพูดแรงตามสไตล์อ.กลับไปว่า ผมสอน หนังสือสังฆราช แล้วกันตามนี้
(จงอางหวงไข่ใครแตะ"รัดซ่ะทำมันนูนปีห้าอสูร"ฉันมันตาย)???
http://2g.ppantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P13053926/P13053926.html
ปล.มีเวลาจะขอตั้งเป็นกระทู้สวนอ.ทุกประเด็น แต่เนื่องจากเนื้อหาหลัก ของอ.ส่วนใหญ่ดีกว่าเดิม จึงไม่อยากอะไรมาก เพราะส่วนใหญ่เป็นคุณกับสังคม แต่ถ้ามาแบบเก่า ผมจะ ทะลวงไส้อาจาน ให้เห็นขี้อ.ข้างในทุกขด ไม่ใช่แค่ในปากแบบ"อุจาระวาจา" ประดิษฐ์วาทะกรรมเรื่องขี้ออกมานำเสนอสังคมแบบนี้ ผมจะสวนกลับให้สังคมเห็นเหมือนกันว่าขี้อาจานเหม็นขนาดไหน???