คือเวทีปฎิรูป ที่มีนายโทนี่แบร์เป็นไฮท์ไล้ท์ แม้เนื้อหา ทั้งวปาฎฯ เขาหรือใครๆ ห่างไกลเนื้อหาที่ผมจะชี้มาก(ผมกล้าฟันธงแบบนั้นเพราะคนไทยไม่มีใครรู้เนื้อหาจริงๆเท่าคนไทย) แบลร์ฯ แต่เข้าใจตามน้ำ หรือรู้เชิงลึกแต่นำเสนอตรงๆจริงๆไม่ได้บนเงื้อนไขแบบไทยๆ สังเกตุจากเนื้อหาทางสาธารณะ ที่เขาพูดผ่านการประชุมนี้มันกระพรี้ของปัญหามาก(ผมไม่เชื่อว่าระดับเขาและฝ่ายจัดจะหาข้อมูลให้เขาจะรู้แค่นี้)
ทั้งที่ผมเชื่อว่าเขารู้ แต่นำเสนอไม่ได้เหมือนคนไทย นักการเมืองฝ่ายค้านฝ่ายรบ. ทุกคนรู้ดี และเชื่อว่ามีคนรู้ดีกว่าแบลร์ฯ หลายคน ไม่ใช่แค่ผม? หรือใครๆ แต่ นำเสนอจริงๆไม่ได้? นั้นคือเงื่อนไขหลักคือสังคมไทยที่"วิ่งหนีความจริง" ทั้งหมดในหน้างานนั้นเท่าที่ฟัง ชี้เนื้อหาระดับต้นน้ำของปัญหาวิกฤติในไทยได้ไม่ถึง10%ทุกคน ไม่ยกเว้นแบลร์
ผมฟังแล้วเสียเวลามาก ในตัวเนื้อหา แต่ในเชิงจิตวิทยา ผมเชื่อว่ามีผลทางสังคมมาก ในการโหมโรงเรื่องนี้ เพราะ เชื่อว่าบรรยากาศแบบนี้ คงคาดหวังในการที่เรา จะเข้าเฟส เนื้อๆน้ำๆยาก เพราะเงื่อนไขแบบไทยๆ (ไหว้ครูนาน เจ้ายศเจ้าอย่าง แต่งตัวหรือพฤติกรรมลิเกบอกเล่าลักษณะไทยได้ชัดมาก)
ดังนั้นการโหมโรงแบบไทยๆต้องแรงและกระตุ้น ให้เฟสต่อไป มีพลัง และกระตุ้นสังคมภาพในภาพนอก(ต่างชาติในการขยายภาพ) ให้ชัด เพราะในไทยเขาปิดประตูตีแมวหรือใส่เสื้อคลุมปชต.ไว้ การเชิญโทนี่แบร์ จึงแหลมคมทางการเมืองมาก(ชมจริงๆ) แม้ไม่หวังผลเชิงเนื้อหา (ทั้งหมดในที่ประชุมไม่เว้นแบร์ยังอนุบาลเชิงเนื้อหาวิกฤติในไทยถ้าเทียบกับของจริง) แต่เราได้ เนื้อหาทางกลยุทธอื่นๆ ในการใช้ต้นทุน แบบแบร์ในเวทีโลก มากระตุ้นอะไรหลายๆอย่าง ในไทยและ ลบภาพเสื้อคลุมทางปชต. ในไทยให้เห็นภาพก่อนนั้น?
นั้นคือเฟสแรก อย่างพึ่งหวังผล แต่เป็นการกระชับพื้นที่ทั้งนอกและใน หรือเปิดพื้นที่ฝ่ายปชตให้กว้าง ได้ ผมถือว่าสำเร็จ นั้นคือเปิดพื้นที่ไว้ เดี๋ยวมีคนจัดหนักเอง? ด้วยบุคคลที่มีต้นทุนทางสังคมมีความน่าเชื่อถือทั้งนอกและใน เพื่อกระต้นการโหมโรงนี้ให้มีพลังไปยังเฟสต่อไป คือถ้าเปิดตัวไม่แรงพอ? มันจะจุดไฟไม่ติด หรือไฟไม่ฟางทันที
แม้เนื้อหาในที่ประชุม(ผมไม่ต้องเข้าฟังก็เดาได้ว่าจะแบบไหน?) และไม่เกินคาด เนื้อหาเขาจะพูดแบบ เกาๆขี้กลาก แบบแกะนั้นแขวะนี้ได้อย่างมาก แต่ลงลึกถึงเนื้อหาระดับ90%ไม่มีใครในที่ประชุมนั้นกล้าชี้ชัดในทางออกปัญหา ได้ตรงข้อเท็จจริงเลยตอนนี้ แม้จะรู้มากกว่าผม เพราะโทนี่แบร์เองยังออกปากว่าไม่ง่าย วิกฤติในไทยคนไทยเท่านั้นที่รู้ดีที่สุด
การมาของเขาให้ผลทางจิตวิทยา เพราะวิธีคิดแบบไทยๆ ตอนนี้ไม่มีใครเชื่อใคร? หรือกระแสหลักโลกเน้นต้นทุนความน่าเชื่อถือทางสังคมรวม ผมถึงชมทีมงานไงครับ มันได้ตรงนี้จริงๆ แต่อย่าไปหวังผลเชิงเนื้อหาในเฟสแรกๆก่อน เราค่อยๆ บีดนวดเค้น และบีบพื้นที่ ด้วยการเปิดไฟทางปัญญาแบบที่กาลิเลโอทำกับลัทธิศาสนาจักรสมัยนั้น
นั้นคือค่อยๆ กระชับแล้วเปิดไฟทางปัญญา ให้ประเทศ ไปเรื่อยๆๆๆ ใครที่ไม่ใช่เขาจะต้องปรับตัวเขาหาสิ่งที่ใช่? หรือความถูกต้องเอง เพราะระบบคิดของตัวเองไปไม่รอดแบบคอมมิวนิสต์ การต่อสู้เชิงการทหาร จิตวิทยาทางสังคมระดับสูงขนาด ในที่สุดจบลงที่วิธีคิดใครไปไม่รอด ??? ไม่ใช่ไม่รอดเพราะการทหาร ดังนั้นเราอย่ามาลองผิดลองถูก ยื้อเวลาแช่แข็งความขัดแย้งให้เป็นมหากาพย์อีกเลย เรื่องนี้ ผมจบได้แบบหลุดพ้นเลยได้ภายในไม่กี่ชม. เพียงแต่ต้องทำตามเงื่อนไขผมเคยว่าไว้เท่านั้น
โทนี่แบร์ แค่ตัวละครประกอบฉากเพื่อประกอบ ฉากทางจิตวิทยามวลชน อุปทานหมู่เท่านั้น? เนื้อหาจริงๆเขาอ่อนมาก ถ้าว่ากันแบบเนื้อๆ เพียงแต่ต้นทุนทาทงสังคมต่างกัน ความน่าเชื่อถือ ในการเปิดใจรับฟังมันต่างกัน ทั้งที่โทนี่แบร์มาทำอะไรได้แค่เกาขี้กากในเนื้อหา แต่จิตวิทยามวลชน กลับจะสร้าง ความน่าเชื่อถือให้สังคมเปิดรับตรงนั้นมากขึ้น
ทั้งเนื้อหานั้นห่างไกลกับต้นน้ำของปัญหา และเนื้อหาเชิงลึกมาก แต่ ถ้าไม่มีใครเปิดใจคนไทยด้วยกันได้ ต่อให้รู้ระดับกึ๋นยิ่งกว่าผมก็ทำอะไร ไม่ได้เพราะเงื่อนไขอคติต่อกัน ไม่มีใครฟังใคร? ถ้าเป็นคนไทยด้วยกัน??? จึงต้องใช้กลยุทธแบบนี้ ทั้งที่แบร์ฯ มันมาพูดแค่แบบเกาขี้กลากปัญหาแค่นั้น(ผมเชื่อว่าเขารู้แต่นำเสนอไม่ได้ มาถึงเมืองไทยใบ้แด๊กทุกราย)
ผมให้คะแนนแบร์ฯ และเวทีนี้ได้ไม่ถึง10% ในทางเนื้อหา ? แต่ในทางจิตวิทยา ผมชมคนจัดครับ ? เขาเป็นตัวช่วยมิติอื่นๆ แล้วแก้โจทยืแบบไทยๆได้ดี ว่าเปิดตัวโหมโรงเรื่องนี้ได้ดี หรือแรง ไปต่อได้ไหม? ผมปรบมือให้คนจัดครับ???
โหมโรงเวทีสานเสวนาหาทางออกประเทศไทย(ผมยังไม่เรียกว่าปฎิรูป) ผมชื่นชมฝ่ายโปรดักชั้นครับ เปิดตัวดี ยกนิ้วให้???
ทั้งที่ผมเชื่อว่าเขารู้ แต่นำเสนอไม่ได้เหมือนคนไทย นักการเมืองฝ่ายค้านฝ่ายรบ. ทุกคนรู้ดี และเชื่อว่ามีคนรู้ดีกว่าแบลร์ฯ หลายคน ไม่ใช่แค่ผม? หรือใครๆ แต่ นำเสนอจริงๆไม่ได้? นั้นคือเงื่อนไขหลักคือสังคมไทยที่"วิ่งหนีความจริง" ทั้งหมดในหน้างานนั้นเท่าที่ฟัง ชี้เนื้อหาระดับต้นน้ำของปัญหาวิกฤติในไทยได้ไม่ถึง10%ทุกคน ไม่ยกเว้นแบลร์
ผมฟังแล้วเสียเวลามาก ในตัวเนื้อหา แต่ในเชิงจิตวิทยา ผมเชื่อว่ามีผลทางสังคมมาก ในการโหมโรงเรื่องนี้ เพราะ เชื่อว่าบรรยากาศแบบนี้ คงคาดหวังในการที่เรา จะเข้าเฟส เนื้อๆน้ำๆยาก เพราะเงื่อนไขแบบไทยๆ (ไหว้ครูนาน เจ้ายศเจ้าอย่าง แต่งตัวหรือพฤติกรรมลิเกบอกเล่าลักษณะไทยได้ชัดมาก)
ดังนั้นการโหมโรงแบบไทยๆต้องแรงและกระตุ้น ให้เฟสต่อไป มีพลัง และกระตุ้นสังคมภาพในภาพนอก(ต่างชาติในการขยายภาพ) ให้ชัด เพราะในไทยเขาปิดประตูตีแมวหรือใส่เสื้อคลุมปชต.ไว้ การเชิญโทนี่แบร์ จึงแหลมคมทางการเมืองมาก(ชมจริงๆ) แม้ไม่หวังผลเชิงเนื้อหา (ทั้งหมดในที่ประชุมไม่เว้นแบร์ยังอนุบาลเชิงเนื้อหาวิกฤติในไทยถ้าเทียบกับของจริง) แต่เราได้ เนื้อหาทางกลยุทธอื่นๆ ในการใช้ต้นทุน แบบแบร์ในเวทีโลก มากระตุ้นอะไรหลายๆอย่าง ในไทยและ ลบภาพเสื้อคลุมทางปชต. ในไทยให้เห็นภาพก่อนนั้น?
นั้นคือเฟสแรก อย่างพึ่งหวังผล แต่เป็นการกระชับพื้นที่ทั้งนอกและใน หรือเปิดพื้นที่ฝ่ายปชตให้กว้าง ได้ ผมถือว่าสำเร็จ นั้นคือเปิดพื้นที่ไว้ เดี๋ยวมีคนจัดหนักเอง? ด้วยบุคคลที่มีต้นทุนทางสังคมมีความน่าเชื่อถือทั้งนอกและใน เพื่อกระต้นการโหมโรงนี้ให้มีพลังไปยังเฟสต่อไป คือถ้าเปิดตัวไม่แรงพอ? มันจะจุดไฟไม่ติด หรือไฟไม่ฟางทันที
แม้เนื้อหาในที่ประชุม(ผมไม่ต้องเข้าฟังก็เดาได้ว่าจะแบบไหน?) และไม่เกินคาด เนื้อหาเขาจะพูดแบบ เกาๆขี้กลาก แบบแกะนั้นแขวะนี้ได้อย่างมาก แต่ลงลึกถึงเนื้อหาระดับ90%ไม่มีใครในที่ประชุมนั้นกล้าชี้ชัดในทางออกปัญหา ได้ตรงข้อเท็จจริงเลยตอนนี้ แม้จะรู้มากกว่าผม เพราะโทนี่แบร์เองยังออกปากว่าไม่ง่าย วิกฤติในไทยคนไทยเท่านั้นที่รู้ดีที่สุด
การมาของเขาให้ผลทางจิตวิทยา เพราะวิธีคิดแบบไทยๆ ตอนนี้ไม่มีใครเชื่อใคร? หรือกระแสหลักโลกเน้นต้นทุนความน่าเชื่อถือทางสังคมรวม ผมถึงชมทีมงานไงครับ มันได้ตรงนี้จริงๆ แต่อย่าไปหวังผลเชิงเนื้อหาในเฟสแรกๆก่อน เราค่อยๆ บีดนวดเค้น และบีบพื้นที่ ด้วยการเปิดไฟทางปัญญาแบบที่กาลิเลโอทำกับลัทธิศาสนาจักรสมัยนั้น
นั้นคือค่อยๆ กระชับแล้วเปิดไฟทางปัญญา ให้ประเทศ ไปเรื่อยๆๆๆ ใครที่ไม่ใช่เขาจะต้องปรับตัวเขาหาสิ่งที่ใช่? หรือความถูกต้องเอง เพราะระบบคิดของตัวเองไปไม่รอดแบบคอมมิวนิสต์ การต่อสู้เชิงการทหาร จิตวิทยาทางสังคมระดับสูงขนาด ในที่สุดจบลงที่วิธีคิดใครไปไม่รอด ??? ไม่ใช่ไม่รอดเพราะการทหาร ดังนั้นเราอย่ามาลองผิดลองถูก ยื้อเวลาแช่แข็งความขัดแย้งให้เป็นมหากาพย์อีกเลย เรื่องนี้ ผมจบได้แบบหลุดพ้นเลยได้ภายในไม่กี่ชม. เพียงแต่ต้องทำตามเงื่อนไขผมเคยว่าไว้เท่านั้น
โทนี่แบร์ แค่ตัวละครประกอบฉากเพื่อประกอบ ฉากทางจิตวิทยามวลชน อุปทานหมู่เท่านั้น? เนื้อหาจริงๆเขาอ่อนมาก ถ้าว่ากันแบบเนื้อๆ เพียงแต่ต้นทุนทาทงสังคมต่างกัน ความน่าเชื่อถือ ในการเปิดใจรับฟังมันต่างกัน ทั้งที่โทนี่แบร์มาทำอะไรได้แค่เกาขี้กากในเนื้อหา แต่จิตวิทยามวลชน กลับจะสร้าง ความน่าเชื่อถือให้สังคมเปิดรับตรงนั้นมากขึ้น
ทั้งเนื้อหานั้นห่างไกลกับต้นน้ำของปัญหา และเนื้อหาเชิงลึกมาก แต่ ถ้าไม่มีใครเปิดใจคนไทยด้วยกันได้ ต่อให้รู้ระดับกึ๋นยิ่งกว่าผมก็ทำอะไร ไม่ได้เพราะเงื่อนไขอคติต่อกัน ไม่มีใครฟังใคร? ถ้าเป็นคนไทยด้วยกัน??? จึงต้องใช้กลยุทธแบบนี้ ทั้งที่แบร์ฯ มันมาพูดแค่แบบเกาขี้กลากปัญหาแค่นั้น(ผมเชื่อว่าเขารู้แต่นำเสนอไม่ได้ มาถึงเมืองไทยใบ้แด๊กทุกราย)
ผมให้คะแนนแบร์ฯ และเวทีนี้ได้ไม่ถึง10% ในทางเนื้อหา ? แต่ในทางจิตวิทยา ผมชมคนจัดครับ ? เขาเป็นตัวช่วยมิติอื่นๆ แล้วแก้โจทยืแบบไทยๆได้ดี ว่าเปิดตัวโหมโรงเรื่องนี้ได้ดี หรือแรง ไปต่อได้ไหม? ผมปรบมือให้คนจัดครับ???