โดย ผู้สื่อข่าวยียวน
ปาฐกถาของ อาจารย์เสกสรรค์ ประเสริฐกุล แซบหลาย
อดีตผู้นำนักศึกษา 14 ตุลาฯ 2516 ไม่ได้มองสถานการณ์บ้านเมืองซับซ้อนอะไร
หากแต่อธิบาย ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย
เกิดการปะทะ ขัดแย้งระหว่างกลุ่มชนชั้นกลางเก่า และใหม่ ผสมเข้ากับทุนใหม่
เลือดใหม่ ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
เกิดการแย่งชิงพื้นที่การเมืองการยื้อยุดกันนี้ เป็นการต่อสู้ดิ้นรนของกลุ่มเก่า เพื่อรักษา
อำนาจและผลประโยชน์อันเคยได้ และกลุ่มใหม่ที่ต้องการเข้ามาแทนที่ โดยมีมวลชน
อันไพศาล ที่คิดเป็น รู้อะไรถูก-ผิด เป็นผู้ลงคะแนนตัดสิน
แต่ไม่จบปะทุเป็นความขัดแย้ง
ไม่เฉพาะอาจารย์เสกสรรค์ วาระ 14 ตุลาฯปีนี้ ยังมี อาจารย์ธีรยุทธ บุญมี มาร่วมวง
จัดหนัก ระดับขึ้นเสียง เฮงซวย
คงไม่ได้ว่าใครคนอื่น
อาจารย์ธีรยุทธมาแปลกกว่าการสวมเสื้อกั๊กครั้งใด ครั้งนี้มาพร้อมกับ ′ขี้′ ล้วนๆ เล่น
คำขี้สารพัด ตบท้ายด้วยการวิพากษ์ทักษิณ ′ขี้ขำ′
แปลว่า อุจจาระที่ค้างคารูทวาร แคะออกลำบาก ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญระดับศาสตราจารย์
หรือไม่ อาจารย์ไม่ได้บอกสูตรแคะไว้
สำหรับ ′ปู-ยิ่งลักษณ์′ นั้น ธีรยุทธมองว่า เป็นนายกฯขี้หย้อง กับ ขี้แบ๊ะ เป็นหญิงสาว
ชอบแต่งตัวสวยงาม ชอบสำรวย สำอาง ไม่ทำอะไรจริงจัง
ออกมาเที่ยวนี้อาจารย์แกบอกว่า ′ถ้าผมจะยังมีความหวังในความฝันอยู่ ผมอยากจะ
หวังอย่างเดียว′ (อย่าเพิ่งเดาว่าขี้)
...คือจากโอกาสที่เสียไป 40 ปี ผมอยากให้ทุกส่วนช่วยกันมองปัญหาให้ถูก จึงจะเป็น
จุดเริ่มต้นที่ถูกได้
นักวิชาการเสื้อกั๊ก ไม่กั๊กละทีนี้ ปล่อยหมดแม็กว่า คิดยังไง การไปไล่ควานหา
′กำเมือง′ - คำท้องถิ่น เหนือ อย่างขี้ขำ-
ขี้หย้อง มาเปรียบเทียบเสี่ยแม้ว-น้องปู ก็น่าจะเดารู้ ดูออกว่า
มองระบอบทักษิณอย่างไร (ฮา)
ต่างจากอาจารย์เสกสรรค์ชัวร์
ไม่กล้าบอกหรอกว่า คล้ายการต่อสู้ระหว่างเก่ากะใหม่ เพราะไม่รู้ใครใหม่
ใครเก่า รู้แต่ว่าแก่พอกัน
อย่างไรก็ตาม การถกเถียงเสนอมุมมองที่มีต่อสถานการณ์บ้านเมืองของ
อดีตปัญญาชนแถวหน้านี้ ถือว่ามีประโยชน์
อย่างน้อยชาวบ้านก็ได้รู้ว่าใครคิดยังไง
ใคร หัวขี้เลื่อย
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1381810544&grpid=&catid=02&subcatid=0200
ชวนเพื่อนมาขำกลิ้งกันค่ะ กับ "หัวขี้เลื่อย จะเป็นใครก็สุดแต่ใจจะไขว่คว้า
"ผู้สื่อข่าวยียวน"เขียน"การเมืองเรื่องอี้ๆ" คอลัมน์ ต้มยำทำข่าว มติชนรายวัน
ปาฐกถาของ อาจารย์เสกสรรค์ ประเสริฐกุล แซบหลาย
อดีตผู้นำนักศึกษา 14 ตุลาฯ 2516 ไม่ได้มองสถานการณ์บ้านเมืองซับซ้อนอะไร
หากแต่อธิบาย ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย
เกิดการปะทะ ขัดแย้งระหว่างกลุ่มชนชั้นกลางเก่า และใหม่ ผสมเข้ากับทุนใหม่
เลือดใหม่ ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
เกิดการแย่งชิงพื้นที่การเมืองการยื้อยุดกันนี้ เป็นการต่อสู้ดิ้นรนของกลุ่มเก่า เพื่อรักษา
อำนาจและผลประโยชน์อันเคยได้ และกลุ่มใหม่ที่ต้องการเข้ามาแทนที่ โดยมีมวลชน
อันไพศาล ที่คิดเป็น รู้อะไรถูก-ผิด เป็นผู้ลงคะแนนตัดสิน
แต่ไม่จบปะทุเป็นความขัดแย้ง
ไม่เฉพาะอาจารย์เสกสรรค์ วาระ 14 ตุลาฯปีนี้ ยังมี อาจารย์ธีรยุทธ บุญมี มาร่วมวง
จัดหนัก ระดับขึ้นเสียง เฮงซวย
คงไม่ได้ว่าใครคนอื่น
อาจารย์ธีรยุทธมาแปลกกว่าการสวมเสื้อกั๊กครั้งใด ครั้งนี้มาพร้อมกับ ′ขี้′ ล้วนๆ เล่น
คำขี้สารพัด ตบท้ายด้วยการวิพากษ์ทักษิณ ′ขี้ขำ′
แปลว่า อุจจาระที่ค้างคารูทวาร แคะออกลำบาก ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญระดับศาสตราจารย์
หรือไม่ อาจารย์ไม่ได้บอกสูตรแคะไว้
สำหรับ ′ปู-ยิ่งลักษณ์′ นั้น ธีรยุทธมองว่า เป็นนายกฯขี้หย้อง กับ ขี้แบ๊ะ เป็นหญิงสาว
ชอบแต่งตัวสวยงาม ชอบสำรวย สำอาง ไม่ทำอะไรจริงจัง
ออกมาเที่ยวนี้อาจารย์แกบอกว่า ′ถ้าผมจะยังมีความหวังในความฝันอยู่ ผมอยากจะ
หวังอย่างเดียว′ (อย่าเพิ่งเดาว่าขี้)
...คือจากโอกาสที่เสียไป 40 ปี ผมอยากให้ทุกส่วนช่วยกันมองปัญหาให้ถูก จึงจะเป็น
จุดเริ่มต้นที่ถูกได้
นักวิชาการเสื้อกั๊ก ไม่กั๊กละทีนี้ ปล่อยหมดแม็กว่า คิดยังไง การไปไล่ควานหา
′กำเมือง′ - คำท้องถิ่น เหนือ อย่างขี้ขำ-
ขี้หย้อง มาเปรียบเทียบเสี่ยแม้ว-น้องปู ก็น่าจะเดารู้ ดูออกว่า
มองระบอบทักษิณอย่างไร (ฮา)
ต่างจากอาจารย์เสกสรรค์ชัวร์
ไม่กล้าบอกหรอกว่า คล้ายการต่อสู้ระหว่างเก่ากะใหม่ เพราะไม่รู้ใครใหม่
ใครเก่า รู้แต่ว่าแก่พอกัน
อย่างไรก็ตาม การถกเถียงเสนอมุมมองที่มีต่อสถานการณ์บ้านเมืองของ
อดีตปัญญาชนแถวหน้านี้ ถือว่ามีประโยชน์
อย่างน้อยชาวบ้านก็ได้รู้ว่าใครคิดยังไง
ใคร หัวขี้เลื่อย
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1381810544&grpid=&catid=02&subcatid=0200
ชวนเพื่อนมาขำกลิ้งกันค่ะ กับ "หัวขี้เลื่อย จะเป็นใครก็สุดแต่ใจจะไขว่คว้า