เพราะเป็นความเข้าใจผิดว่ามีจิตเกิดอยู่ตลอดเวลาทั้งเวลาตื่นและหลับหรือตลอดทั้งวันทั้งคืนโดยไม่หายไปเลยแม้สักวินาทีเดียว ซึ่งนี่ก็คือลักษณะของความเห็นผิดพวกสัสสตทิฎฐิที่เห็นว่ามีสิ่งสืบต่อเอาไว้อยู่ตลอดเวลาอย่างไม่ขาดหาย อันเป็นลักษณะของอัตตาหรือตัวตนที่เป็นอมตะที่มีอยู่ตลอดเวลาโดยไม่สูญหายเลยนั่นเอง (พระพุทธเจ้าสอนว่าทุกสิ่งเป็นอนัตตา คือไม่มีอะไรจะเป็นอัตตาได้)
แม้ความเข้าใจว่า จิตมีการเกิดและดับถี่ยิบอยู่ตลอดเวลาทั้งวันทั้งคืนโดยไม่หยุดเลย แถมยังเมื่อร่างกายตายจิตนี้ก็จะดับที่นี่แล้วยังไปเกิดใหม่ที่อื่นสืบต่อไว้ได้อีก ก็ยังจัดเป็นความเห็นผิดพวกสัสสตทิฎฐิอยู่เหมือนเดิม
ถ้าเห็นว่ามีจิตขณะที่กำลังหลับสนิทโดยไม่ฝัน จะจัดเป็นความเห็นผิดพวกสัสสตทิฎฐิไปทันที
แม้ความเข้าใจว่า จิตมีการเกิดและดับถี่ยิบอยู่ตลอดเวลาทั้งวันทั้งคืนโดยไม่หยุดเลย แถมยังเมื่อร่างกายตายจิตนี้ก็จะดับที่นี่แล้วยังไปเกิดใหม่ที่อื่นสืบต่อไว้ได้อีก ก็ยังจัดเป็นความเห็นผิดพวกสัสสตทิฎฐิอยู่เหมือนเดิม