ฺBehind Her Eyes (Netflix)

ตามไปดูเพราะรีวิวในกลุ่มบอก ว่าหักมุม หักมุมแบบเดาไม่ได้ 
ใส่ไว้เป็น list รายการที่จะดูอยู่แล้ว แต่พอดู trailer คือมันไม่ชวนดูต่อเท่าไร 
และจาก trailer คือคิดว่านางเอกตาบอดด้วย 
แต่ก็ไม่เลย ไม่เคยตาบอด และชื่อเรื่องมันตั้งให้หลงทาง ให้ะคิดไปเอง
อยากจะบอกว่าหนังสยองมาก สยองตอนท้ายสุด 
เพราะเราคิดภาพตัวเองเป็นพระเอก และลูกนางเอกในตอนจบ 
มันเลยสยองสุดๆ ไปเลย
เพี้ยนทุบคอม
 
รีวิวนี้จะว่าสปอยก็สปอย จะว่าไม่สปอยก็ไม่สปอย แต่จะมาชวนคิดต่อเรื่อง Lucid dream
เนื่องจากหนังพาเราไปรู้จักกับการที่นางเอกฝันร้ายแล้วออกจากฝันไม่ได้ 
ต้องตกใจกลัวทุกครั้ง แม้ว่าการฝันของนางเอกจะไม่เหมือน Sleep Paralysis (คนไทยเรียกผีอำ) 
แต่ดูเหมือนฝันร้ายมากกว่า แต่สิ่งที่เหมือนกันของฝันร้ายและผีอำ 
คือคนฝันอยากจะตื่น การจะตื่นคือการที่เราต้องตั้งสติ 
(ตั้งสติในฝัน 555+ แล้วบอกตัวเองว่ากำลังฝัน เราก็จะไม่ตกใจกลัว คราวนี้ความฝันก็ทำอะไรเราไม่ได้แล้ว) 
ในเรื่อง: นางเอกได้สมุดโน๊ตเล่มหนึ่งที่บอกเล่าเรื่องการเปิดประตูที่ถูกต้องในฝัน 
เพื่อออกจากฝันร้าย และสามารถควบคุมฝันตัวเองได้ ไปในที่ๆ อยากไป เจอคนที่อยากเจอ ได้หมดในฝัน 
แต่เราต้องเรียนรู้การควบคุมความฝันหรือที่เรียกว่า Lucid Dream 
(การฝันแบบรู้ตัวว่ากำลังฝันอยู่ เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้โดยธรรมชาติในหลายคน โดยผู้ที่ฝันแบบรู้ตัวบางคนอาจสามารถควบคุมความฝันของตัวเองได้ด้วย บางบทความบอกว่าเป็นการพัฒนาสมองได้ด้วย ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์ แต่ต้องแลกมากับการนอนที่ไม่ได้นอน เพราะตื่นอยู่ในฝันนั่นเอง) 
แต่ก่อนที่จะทำแบบนั้น นางเอกจะทำสมาธิก่อนหลับ เพื่อที่จะมีสติรู้ตัวในฝันร้ายและควบคุมตัวเองได้ 
เพี้ยนรมเสีย
อาการผีอำ: การที่เรานอนไปแล้ว แล้วมีช่วงหนึ่งเห็นภาพตัวเองนอนและพยายามตื่น 
พยายามกรีดร้องขอความช่วยเหลือ พยายามจิตนาการว่าลุกขึ้นแล้ว แต่ก็ไม่ได้ขยับเลย 
รู้สึกเหมือนกายทิพย์เด้งออกไปมองตัวเองอยู่บนเพดาน หรือบางคนก็มีอาการหลอนเห็นได้ทุกอย่าง 
ตั้งแต่ผี ปีศาจ ไปจนถึงมนุษย์ต่างดาว ที่รู้สึกว่าโดนทับก็เพราะช่วงที่เราหลับร่างกายก็สั่งให้เราไม่สามารถควบคุมการหายใจของเราได้ 
เราจะหายใจตื้นขึ้นและถี่ เราเลยหายใจเอา CO2 กลับเข้าไปเลยรู้สึกเหมือนมีคนทับหรือหายใจไม่ออก 
การทำสมาธิของคนโดนผีอำเลยเกิดระหว่างการหลับ ที่จริงๆ แล้วคือเราตื่นก่อนร่างกายตื่น 
เป็นเพราะเราตื่นแล้วเราเลยบอกตัวเองได้ว่าเรากำลังฝัน 
แต่ช่วงที่เราจินตนาการต่อไปสร้างความฝันตัวเองนี่คงมีคำอธิบายที่ลึกลับซับซ้อนกว่านี้ 
ซึ่งการนอนหลับยังมีการศึกษาอยู่เรื่อยๆ ถึงประโยชน์และความจำเป็นของมัน เพื่อไขความลับต่อไป 
เพี้ยนเบลอ
ทั้งนี้เราเองก็ซื้อหนังสือเรื่อง why we sleep? มาแล้ว แต่เพราะซื้อเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษมาที่มันเป็นศัพท์อ่านยากหมดเลย เลยอ่านไม่จบและไม่เข้าใจเท่าไร (แล้วแกจะเล่าทำไม 555)

ทีนี้ในช่วงที่เราโพสกระทู้ตัวเองเรื่องผีอำ ในพันทิปเมื่อปี 2557 ถามถึงวิธีแก้ ก็มีคอมเม้นท์เข้ามาหลากหลาย ไปจนถึงคอมเม้นนี้ที่บอกว่า 
“จะเล่าประสบการณ์ให้ฟังนะครับ
เมื่อก่อนตอนเป็น "อาการผีอำ" ผมก็กลัว งมงาย เครียด เพลียมากครับ
ต่อมา เริ่มหาข้อมูล สำหรับผมเรียกว่า "Rapid eye movement" ภาวะตากระตุกครับ
 
ภาวะนี้ จะเกิดขึ้นหลังจากหลับไป
จากนั้น เมื่อมีสิ่งสะกิดใจ หรือทำให้ตื่น หรือดวงตา หรือจิตแล้วแต่จะเรียก มัน "ตื่น" ครับ
แต่ร่างกายไม่พร้อม เหมือนถูกบล็อคกระดูกสันหลัง
 
"ความรู้สึก รับรู้ได้ทุกอย่าง เห็นทุกอย่าง เหมือนได้ทำทุกอย่าง" แต่แท้จริง "คุณไม่ได้ทำอะไรเลย"
เห็นผีที่ท้ายเตียง ก้มเงย ผมปิดหน้า ทุกอย่างที่คุณกลัว คุณจะได้เห็นเพราะจิตใต้สำนึกและจิตไร้สำนึก จะขุด
เรื่องที่คุณกลัวที่สุด มาให้คุณเห็นในช่วงนี้ อะไรที่ไม่อยากเห็น ไม่อยากเจอ น่ากลัวสุดขีด
ที่คุณจะรับได้ คุณจะได้รับชมที่นี่ที่เดียวครับ
 
เหมือนผม
ฝันเห็นผี เงาตะคุ่มๆ ด้านข้างท้ายๆที่นอนครับ กระดิกตัวไม่ได้ พอกระดิกได้ พัดลมกระเด็นครับ ต้องเดินไปตั้งพัดลมอีกรอบ
 
วิธีแก้ ไว้ทีหลังนะครับ
 
เพราะ ผมเริ่มทำความเข้าใจกับมัน ผมเริ่ม "สนุก" กับมัน จินตนาการในความฝันที่เสมือนจริงสุดๆ
แรกๆ จะยากในการควบคุมให้เป็นไปอย่างใจครับ กลัว สับสน งมงาย เครียด เพลีย โทรม
หลังๆ มันส์มาก เหมือนควบคุมได้ว่า อยากจะเห็นอะไร อยากทำอะไร อยากสนุกจนบางที เสียดาย ไม่อยากตื่น
 
ข้อเสีย เพลียเว่อร์ เหมือนไม่ได้นอนเลย
 
เอาล่ะ มาสู่วิธีแก้ไขครับ
ตั้งสติครับ
 
เมื่อเกิดเหตุการณ์ เห็นภาพหลอนหรืออะไรก็แล้วแต่ ตั้งสติให้ดี บอกตัวเองว่ามันเป็นแค่ "ฝัน"
เริ่มทำแรกๆ จะได้ ผลดี หรือ ไม่ดี ขึ้นอยู่กับแต่ละคนครับ
 
สำหรับผม "มันได้ผล"
 
**เมื่อคุณฝัน คุณจะไม่ใช่ผู้สร้างทางเลือก ฝันจะดำเนินต่อตามแต่ฝัน และจินตนาการ จิตไร้สำนึกของคุณ
**** เมื่อคุณฝัน แล้วคุณสร้างทางเลือก เลือกในฝัน บังคับฝัน คุณจะ "ตื่น" ครับ
 
นานเข้าอาจจะไม่ได้ผล
ทำเหมือนเดิม บอกตัวเองว่า "ฝัน" จากนั้น เริ่มกระดิกนิ้วที่เล็กที่สุดนั่นคือ "นิ้วก้อย" มือหรือเท้าแล้วแต่ถนัด
พยายามหน่อย ไม่ยาก แล้วจะ "ตื่น" ครับ
 
ขอโทษ ที่ผม "แปลก"
เป็นแค่ประสบการณ์ส่วนตัว
 
อาจจะขัดกับหลักการ เชิงวิชาการ แต่ผมทำได้จริง
ตรงนี้สำคัญครับ พอทำได้แล้ว คุณเริ่ม สนุกกับมันแล้ว มันก็จะหายไปเองครับ
 
สำคัญสุดๆๆๆๆ ดูแลสุขภาพให้ดี ที่นอนไม่ถูกสุขลักษณะนะครับ”

เหมือนในหนังเป๊ะเลยที่ไปสนุกโดยการสร้างฝัน แต่มันล้ำไปถึงขั้นที่หักมุมนั้น 
ก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้นะ หรือถ้าใครจะทำได้ มันต้องมีโอกาสเท่าไรที่จะเจอคนที่ทำได้เหมือนกัน แล้วถ้าเป็นอย่างนั้น มันสยองไปนะ

ส่วนตัวเราตั้งแต่รู้ว่าสิ่งนี้คือ Sleep Paralysis เป็นเหตุการณ์ทางวิทยาศาสตร์ก็หายเลย 
คือจากพยายามจะลุกขึ้น พยายามเรียกแม่ ตกใจในฝัน มันก็ใช้ระยะเวลาสั้นลงๆ ในความกลัวในฝันนั้น 
และบอกตัวเองในฝันว่า อ๋อ เรากำลังฝัน มันคืออาการ Sleep Paralysis จนนานหลายปีแล้วที่ไม่มีสิ่งนี้เกิดขึ้นเลย 

จะว่าสปอยหนังก็ไม่ใช่ซะทีเดียว แต่เชิญชวนคนที่มี Lucid Dream มาเล่าให้ฟังหน่อยละกัน ว่าทำได้จริงไหม
ส่วนตัวไม่เคยลองเลย หยุดอยู่แค่ออกจากอาการ paralyze 
ส่วนตัวอยากจะหลับยาวๆ แล้วนอนเต็มตื่นมากกว่า 

แต่ว่าสุดท้ายแล้วอาการพวกนี้คือสิ่งที่หมอบอกว่ามันคืออาการของโรค Insomnia, Shift Work, Narcolepsy, PTSD, Anxiety, Stress และPanic Disorder  
หมอบอกว่ามีวิธีการแก้หลายอย่าง ทั้งนอนหลับให้เพียงพอ นอนตรงเวลา ออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่ดื่มกาแฟก่อนนอน 
แต่อันหนึ่งที่แปลกใจคือ อย่านอนหงาย ใครรู้ก็เข้ามาแชร์กันหน่อยนะ 

ไหนใครโดนหลอกมาอ่านเพราะคิดว่ารีวิวหนังบ้าง? 
เพี้ยนขำหนักมาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่