เทฺววาจิก เตวาจิก และสรณคมน์


             เทฺววาจิก (มีวาจาสอง) อ่านว่า ทะ-เว-วา-จิก แปลว่า ผู้ถึงสรณะ ๒

             ในสมัยก่อนที่ท่านพระอัญญาโกณฑัญญะจะได้ดวงตาเห็นธรรม ขอบรรพชาอุปสมบทเป็นปฐมสาวกของพระพุทธเจ้า
             มีพาณิช ๒ คน คือ ตปุสสะ และภัลลิกะ เป็นผู้กล่าววาจาถึงสรณะสอง คือ พระพุทธและพระธรรม
             เพราะว่าขณะนั้นยังไม่มีพระสงฆ์

             เทียบ เตวาจิก

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

             ในวันเพ็ญเดือนแปด เมื่อท่านพระอัญญาโกณฑัญญะตั้งอยู่ในโสดาปัตติผลแล้ว
             พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ท่านจงเป็นภิกษุมาเถิด ดังนี้ได้เป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทารูปแรก

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


             ไตรสรณคมน์ การถึงสรณะสาม, การถึงรัตนะสาม คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง

             สรณคมน์มี ๒ อย่าง คือ โลกุตตรสรณคมน์และโลกิยสรณคมน์

             ๑. โลกุตตรสรณคมน์ คือไตรสรณคมน์ของพระอริยสาวก มีนิพพานเป็นอารมณ์ มีสามัญญผล ๔ เป็นวิบากผล
             มีความสิ้นไปแห่งทุกข์ทั้งปวงเป็นอานิสงส์
             สรณคมน์ที่เป็นโลกุตตระไม่มีความเศร้าหมอง ไ้ม่แตกเป็นมีโทษเพราะพระอริยสาวกไม่อุทิศศาสดาอื่นแม้ในระหว่างภพ

             ๒. โลกิยสรณคมน์ คือไตรสรณคมน์ของปุถุชน มีพระพุทธคุณเป็นต้น เป็นอารมณ์ มี ๒ อย่าง คือ
             ๒.๑ แตกไป เพราะไปนับถือผู้อื่น เป็นศาสดา อันนี้มีโทษ มีผลไม่น่าปรารถนา
             ๒.๒ แตกไป เพราะตาย อันนี้ถือว่า ไม่มีโทษ เพราะมรณะห้ามไม่ได้ ไม่เป็นวิบาก

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


             พระอริยสาวกไม่อุทิศศาสดาอื่นแม้ในระหว่างภพ

             รัตนสูตร [บางส่วน]
             สักกายทิฐิและวิจิกิจฉา หรือแม้สีลัพพตปรามาส อันใดอันหนึ่งยังมีอยู่
             ธรรมเหล่านั้นอันพระอริยบุคคลนั้นละได้แล้ว พร้อมด้วยความถึงพร้อม
             แห่งการเห็น (นิพพาน) ทีเดียว
             อนึ่งพระอริยบุคคลเป็นผู้พ้นแล้วจากอบายทั้ง ๔ ทั้งไม่ควรเพื่อทำอภิฐานทั้ง ๖
             (คือ อนันตริยกรรม ๕ และการเข้ารีด)
             สังฆรัตนะแม้นี้ เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยสัจจวาจานี้
             ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=25&A=7662&Z=7746

             พหุธาตุกสูตร [บางส่วน]
             (๙) ย่อมรู้ชัดว่า ข้อที่มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส คือ บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฐิ
             จะพึงมุ่งหมายศาสดาอื่น นั่นไม่ใช่ฐานะที่มีได้ และรู้ชัดว่า ข้อที่เป็นฐานะมีได้แล
             คือ ปุถุชนจะพึงมุ่งหมายศาสดาอื่นได้ นั่นเป็นฐานะที่มีได้ ฯ
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_line.php?B=14&A=3432

             มาตริสูตร
http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=22&A=10326&Z=10333
             คำว่า อภิฐาน
http://84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=อภิฐาน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่