คือ เราอยากหาพื้นที่ ที่จะระบายความรู้สึกบางอย่างที่เรารู้สึกอัดอั้นตันใจมาเป็นเวลาหลายๆ ปี แล้ว มีเพียงเรา กับน้องชายเท่านั้นที่จะสามารถสื่อสารกันได้เข้าใจ คือ เรื่องมันมีอยู่ว่า ครอบครัวของเรามีอยู่ด้วยกัน 4 คน คือ พ่อ แม่ น้อง และ เรา ตอนนี้เราอายุ 32 ปีแล้ว ตอนเด็กๆ แม่ จะเป็นคนบังคับให้เราทำเรื่องนั้น เรื่องนี้ ไปหมดทุกเรื่อง จนเราเองไม่กล้าทำอะไรด้วยตัวเอง ต้องมาถามแม่ก่อน เมื่อก่อนตอนเป็นเด็กเราจะไม่เถียง ไม่ว่า พ่อแม่เลย จนเราโตขึ้น เราอยากมีชีวิตที่เป็นของเราเองบ้าง เที่ยวกับเพื่อนบ้าง ไปเที่ยวบ้านเพื่อนบ้าง ไปสยาม ไปห้างบ้าง แต่จะไปไหนก็ต้องเอาแม่ไปตลอด แม่ต้องบอกว่าเรื่องนั้นไม่ดี เรื่องนี้ไม่ดี คือ อยากบอกว่าแม่เราเค้าไม่ค่อยมีเพื่อนนะคะ อยู่กับบ้าน มีความหวังก็เฉพาะกับเรา น้องชายเรา ตอนนี้ น้องชายเราก็เป็นทหาร อยู่ภาคใต้ เราก็อยู่กับ พ่อ แม่ 3 คน ทุกวันนี้ เราทำงานก็ไม่มีความสุขเท่าไหร่ เพราะเราเป็นคนเหมือนคนเงียบ เก็บกด ไม่สุงสิงกับใคร ใครๆ ก็มองว่าเราเป็นคนเก็บกด จริง ๆอย่างที่เค้าคิดกันแหละคะ เราเป็นคนไม่มีเพื่อนเลย มีเพื่อนคนเดียวที่ทำงานก็คุยกันได้ แต่เราไม่อยากเล่าเรื่องที่บ้านให้เขาฟัง เกรงว่าเขาจะคิดว่า เราเป็นโรคจิต ประสาทอ่อน ๆหรือเปล่า หรือมองเราว่าเราเป็นคนมีปัญหา ตอนนี้เราสัมผัสได้ว่าเราเป็นคนที่ใครๆ ไม่อยากอยู่ด้วย เพราะเราเป็นคนเหมือนคนไม่มีความสุข ไม่สามารถมอบความสุขให้กับใครได้ เหมือนคนแบกโลกไว้ทั้งโลก เราพยายามทำตัวสดใส ไม่คิดมากแล้ว แต่ก็ไม่ได้จริง ๆ
เราอยากกลับไปเล่าถึงสาเหตุ ให้ฟังอย่างกระจ่างชัดนะคะ คือ แม่เราเค้าไม่อยากคบใครในสังคม ไม่มีสังคมเลย ไม่มีญาติมาก เค้าอยู่บ้านก็มีแต่ พ่อ กับลูกเท่านั้น ที่เค้าคิดว่า มีแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว เวลามีเรื่องอะไรเค้าจะมองว่า กลัวไปหมด ไม่เอาดีกว่า เค้าหัวโบราณมาก เรื่องสมัยใหม่ก็ไม่เอาเลย แม่จะตินั่น ตินี่ตลอด (เหมือนในเรื่อง ปีกมาร) เลยคะ เป็นอย่างนั้นเลย เราอยากให้เค้าเปลี่ยนความคิดบ้าง บางครั้งเราก็คิดว่าอยู่กับแม่แล้วเหมือนประสาทจะรับประทาน ตอนนี้เราไม่มีใครเลย แฟนก็ไม่มี เพื่อนในวัยเดียวกันแบบฮาฮาก็ไม่มี คือ เค้ามองเราว่าเราเป็นคนเครียด อยู่แล้วไม่สนุก เสาร์ อาทิตย์ อยู่บ้านตลอดเลย ไม่เคยไปไหน ออกต่างจังหวัดก็ไม่เคย เราเบื่อโลกมากๆ
เราทะเลาะกับแม่หลายๆ เรื่องจนเสียงดัง ทุกวัน ๆ จนเราเริ่มเบื่อ อยากหนีออกจากบ้านแล้ว อยากไปทำงานที่แบบว่า นานๆ ค่อยกลับ แต่ว่าเราก็หันกลับมาคิดอีกทีหนึ่ง แม่ก็ต้องเป็นห่วงมาก ถึงขั้นโทรไปตามเบอร์เพื่อน ๆ โทรไปที่ที่ทำงาน แล้วเรื่องมันจะบานปลายไปกันใหญ่ แต่แล้วเราก็ทำไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องทนอยู่ร่วมกันกับเขา เป็นอยู่อย่างนี จะ 10 ปีแล้ว
อยากให้มีใครได้อ่านและเข้าใจความรู้สึกของเราบ้าง ก็พอใจแล้วคะ
อยากบอกว่า ก็รักแม่มากนะคะ ไม่ได้เกลียดแม่ หรือโกรธแม่เลย แต่ว่า แม่เค้าบางครั้งเหมือนรักลูกมากเกินไป จนเป็นการทำร้ายลูก ไม่ให้ต่อสู้กับสังคม ทุกวันนี้อยู่ในสังคมอย่างโดดเดียว
แม่ชอบมองโลกในแง่ร้าย ทำให้ทะเลาะกันบ่อย
เราอยากกลับไปเล่าถึงสาเหตุ ให้ฟังอย่างกระจ่างชัดนะคะ คือ แม่เราเค้าไม่อยากคบใครในสังคม ไม่มีสังคมเลย ไม่มีญาติมาก เค้าอยู่บ้านก็มีแต่ พ่อ กับลูกเท่านั้น ที่เค้าคิดว่า มีแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว เวลามีเรื่องอะไรเค้าจะมองว่า กลัวไปหมด ไม่เอาดีกว่า เค้าหัวโบราณมาก เรื่องสมัยใหม่ก็ไม่เอาเลย แม่จะตินั่น ตินี่ตลอด (เหมือนในเรื่อง ปีกมาร) เลยคะ เป็นอย่างนั้นเลย เราอยากให้เค้าเปลี่ยนความคิดบ้าง บางครั้งเราก็คิดว่าอยู่กับแม่แล้วเหมือนประสาทจะรับประทาน ตอนนี้เราไม่มีใครเลย แฟนก็ไม่มี เพื่อนในวัยเดียวกันแบบฮาฮาก็ไม่มี คือ เค้ามองเราว่าเราเป็นคนเครียด อยู่แล้วไม่สนุก เสาร์ อาทิตย์ อยู่บ้านตลอดเลย ไม่เคยไปไหน ออกต่างจังหวัดก็ไม่เคย เราเบื่อโลกมากๆ
เราทะเลาะกับแม่หลายๆ เรื่องจนเสียงดัง ทุกวัน ๆ จนเราเริ่มเบื่อ อยากหนีออกจากบ้านแล้ว อยากไปทำงานที่แบบว่า นานๆ ค่อยกลับ แต่ว่าเราก็หันกลับมาคิดอีกทีหนึ่ง แม่ก็ต้องเป็นห่วงมาก ถึงขั้นโทรไปตามเบอร์เพื่อน ๆ โทรไปที่ที่ทำงาน แล้วเรื่องมันจะบานปลายไปกันใหญ่ แต่แล้วเราก็ทำไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องทนอยู่ร่วมกันกับเขา เป็นอยู่อย่างนี จะ 10 ปีแล้ว
อยากให้มีใครได้อ่านและเข้าใจความรู้สึกของเราบ้าง ก็พอใจแล้วคะ
อยากบอกว่า ก็รักแม่มากนะคะ ไม่ได้เกลียดแม่ หรือโกรธแม่เลย แต่ว่า แม่เค้าบางครั้งเหมือนรักลูกมากเกินไป จนเป็นการทำร้ายลูก ไม่ให้ต่อสู้กับสังคม ทุกวันนี้อยู่ในสังคมอย่างโดดเดียว