ภิกษุ ท.! ตลอดกาลเพียงใด ที่ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ยังไม่
บังเกิดขึ้นในโลก; ความปรากฏแห่งแสงสว่างอันใหญ่หลวง ความส่องสว่าง
อันใหญ่หลวง ก็ยังไม่มี ตลอดกาลเพียงนั้น. ในกาลนั้น มีอยู่แต่ความมืด
เป็นความมืดซึ่งกระทำความบอด. กลางคืนกลางวัน ก็ยังไม่ปรากฏ, เดือนหรือ
กึ่งเดือน ก็ไม่ปรากฏ, ฤดูหรือปี ก็ไม่ปรากฏ, ก่อน. ภิกษุ ท.! แต่ว่า
ในกาลใด ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์บังเกิดขึ้นในโลก; ในกาลนั้น ความปรากฏ
แห่งแสงสว่างอันใหญ่หลวง ความส่องสว่างอันใหญ่หลวง ย่อมมี. ในกาลนั้น
ย่อมไม่มีความมืด อันเป็นความมืดซึ่งกระทำความบอด.ลำดับนั้น กลางคืน
กลางวัน ย่อมปรากฏ. เดือนหรือกึ่งเดือน ย่อมปรากฏ., ฤดูหรือปี ย่อมปรากฏ,
นี้ฉันใด;
ภิกษุ ท.! ข้อนี้ ก็ฉันนั้น : ตลอดกาลเพียงใด ที่ตถาคตผู้อรหันต-
สัมมาสัมพุทธะ ยังไม่บังเกิดขึ้นในโลก; ความปรากฏแห่งแสงสว่างอันใหญ่หลวง
ความส่องสว่างอันใหญ่หลวง ก็ยังไม่มี ตลอดกาลเพียงนั้น. ในกาลนั้น มีอยู่
แต่ความมืด เป็นความมืดซึ่งกระทำความบอด. การบอก การแสดง การบัญญัติ
การแต่งตั้ง การเปิดเผย การจำแนกแจกแจง การกระทำให้เข้าใจได้ง่าย ซึ่ง
อริยสัจทั้งสี่ ก็ยังไม่มีก่อน. ภิกษุ ท.! แต่ว่า ในกาลใดแล ตถาคตผู้อรหันต-
สัมมาสัมพุทธะ บังเกิดขึ้นโลก; ในกาลนั้น ความปรากฏแห่งแสงสว่าง
อันใหญ่หลวง ย่อมมี. ในกาลนั้น ย่อมไม่มีความมืด อันเป็นความมืดซึ่ง
กระทำความบอด. ลำดับนั้น ย่อมมีการบอก การแสดง การบัญญัติ การ
แต่งตั้ง การเปิดเผย การจำแนกแจกแจง การกระทำให้เข้าใจได้ง่าย ซึ่งอริยสัจ
ทั้งสี่. ซึ่งอริยสัจทั้งสี่อย่างไรเล่า ? คือซึ่งทุกขอริยสัจ ทุกขสมุทยอริยสัจ
ทุกขนิโรธอริยสัจ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ.
ภิกษุ ท.! เพราะเหตุนั้น ในกรณีนี้ พวกเธอพึง กระทำโยคกรรม
เพื่อให้รู้ว่า "นี้ ทุกข์, นี้ ทุกขสมุทัย, นี้ ทุกขนิโรธ, นี้ ทุกขนิโรธคามินี-
ปฏิปทา" ดังนี้เถิด.
- มหาวาร. ส์. ๑๙/๕๕๓/๑๗๒๑.
ความมืดบอดของโลก มีตลอดเวลาที่ตถาคตยังไม่เกิดขึ้น
บังเกิดขึ้นในโลก; ความปรากฏแห่งแสงสว่างอันใหญ่หลวง ความส่องสว่าง
อันใหญ่หลวง ก็ยังไม่มี ตลอดกาลเพียงนั้น. ในกาลนั้น มีอยู่แต่ความมืด
เป็นความมืดซึ่งกระทำความบอด. กลางคืนกลางวัน ก็ยังไม่ปรากฏ, เดือนหรือ
กึ่งเดือน ก็ไม่ปรากฏ, ฤดูหรือปี ก็ไม่ปรากฏ, ก่อน. ภิกษุ ท.! แต่ว่า
ในกาลใด ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์บังเกิดขึ้นในโลก; ในกาลนั้น ความปรากฏ
แห่งแสงสว่างอันใหญ่หลวง ความส่องสว่างอันใหญ่หลวง ย่อมมี. ในกาลนั้น
ย่อมไม่มีความมืด อันเป็นความมืดซึ่งกระทำความบอด.ลำดับนั้น กลางคืน
กลางวัน ย่อมปรากฏ. เดือนหรือกึ่งเดือน ย่อมปรากฏ., ฤดูหรือปี ย่อมปรากฏ,
นี้ฉันใด;
ภิกษุ ท.! ข้อนี้ ก็ฉันนั้น : ตลอดกาลเพียงใด ที่ตถาคตผู้อรหันต-
สัมมาสัมพุทธะ ยังไม่บังเกิดขึ้นในโลก; ความปรากฏแห่งแสงสว่างอันใหญ่หลวง
ความส่องสว่างอันใหญ่หลวง ก็ยังไม่มี ตลอดกาลเพียงนั้น. ในกาลนั้น มีอยู่
แต่ความมืด เป็นความมืดซึ่งกระทำความบอด. การบอก การแสดง การบัญญัติ
การแต่งตั้ง การเปิดเผย การจำแนกแจกแจง การกระทำให้เข้าใจได้ง่าย ซึ่ง
อริยสัจทั้งสี่ ก็ยังไม่มีก่อน. ภิกษุ ท.! แต่ว่า ในกาลใดแล ตถาคตผู้อรหันต-
สัมมาสัมพุทธะ บังเกิดขึ้นโลก; ในกาลนั้น ความปรากฏแห่งแสงสว่าง
อันใหญ่หลวง ย่อมมี. ในกาลนั้น ย่อมไม่มีความมืด อันเป็นความมืดซึ่ง
กระทำความบอด. ลำดับนั้น ย่อมมีการบอก การแสดง การบัญญัติ การ
แต่งตั้ง การเปิดเผย การจำแนกแจกแจง การกระทำให้เข้าใจได้ง่าย ซึ่งอริยสัจ
ทั้งสี่. ซึ่งอริยสัจทั้งสี่อย่างไรเล่า ? คือซึ่งทุกขอริยสัจ ทุกขสมุทยอริยสัจ
ทุกขนิโรธอริยสัจ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ.
ภิกษุ ท.! เพราะเหตุนั้น ในกรณีนี้ พวกเธอพึง กระทำโยคกรรม
เพื่อให้รู้ว่า "นี้ ทุกข์, นี้ ทุกขสมุทัย, นี้ ทุกขนิโรธ, นี้ ทุกขนิโรธคามินี-
ปฏิปทา" ดังนี้เถิด.
- มหาวาร. ส์. ๑๙/๕๕๓/๑๗๒๑.