คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
เราพิมพ์เล่าเรื่องเพื่อน ในอีกกระทู้หนึ่ง แต่ตัดสินใจลบออกค่ะ
พอมาเจอกระทู้ของคุณ อยากพิมพ์ใหม่ 555+
เราอ่านแล้วโดนใจมากอ่ะ ^0^
เราคล้ายๆคุณ แฟนเราก็คล้ายๆแฟนคุณด้วย
แต่บ้านเราไม่ได้รวยแบบบ้านคุณ บ้านเราจะพอมีฐานะหน่อย สมัยเรียนเราจะมีรถขับคนเดียวในกลุ่ม แล้วเราเป็นคนเรียนเก่งที่สุดในกลุ่ม และนิสัยออกห้าวๆ ไม่เคยมีแฟน เวลาไปเที่ยวบ้านเพื่อน พ่อกับแม่เพื่อนจะรักเรามาก และจะชอบฝากฝังลูกสาวเขากับเรา (เรามีแต่เพื่อนผู้หญิงอ่ะ)
ส่วนพ่อกับแม่เรา จะตำหนิเราเรื่องนี้ตลอด บอกว่าเราทำเพื่อเพื่อนมากเกินไปนะ เช่น เวลาเพื่อนคนไหนโทรมาชวนไปไหน เราก็จะโอเค ไปได้ แล้วก็ขับรถไปรับเพื่อนที่บ้าน แล้วก็ไปกัน
หรือเวลาเพื่อนมีปัญหา ยืมเงิน เขาก็คิดถึงเราคนแรก เราก็ให้ยืม แต่เขายืมไม่มากหรอก หลักพัน ยืมก็คืนทุกครั้งไม่เคยมีปัญหากันหรอก ^^ เวลาไปเที่ยวไหนเป็นกลุ่ม ก็เรานี่แหละ อาสาขับรถไป พาไป น้ำมันฟรี เราออกเอง
คือเราสปอร์ตมาก อาจเพราะดูหนังจีนมาก เราชอบประโยคที่ว่า "มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน" เรารักเพื่อนๆทุกคนมากนะ
จนวันที่เราฟองสบู่แตก (มีปัญหาเรื่องเงิน) เพื่อนหายหมดเลย ^0^ ไม่มีใครอยากพบ ไม่มีใครอยากคุยด้วย
แต่เราโชคดีตรงที่ว่า เราได้พบกับแฟนเราในช่วงที่ชีวิตเรากำลังแย่พอดี แล้วแฟนเรานี่แหละ เป็นเพื่อนแท้ของเราเลย เราพูดได้เต็มปากเต็มคำเลย เขาอยู่เคียงข้างเรา ไม่ทิ้งเรา คอยให้กำลังใจเรา ให้ความช่วยเหลือเรา ในขณะที่เพื่อนๆที่คบกันมาหลายปีพากันหายหัวหมดเลย (เพราะกลัวเรายืมเงิน)
จนชีวิตเราเริ่มกลับมาดีขึ้น เราไม่ได้สมัครทำงานประจำ แต่เราตัดสินใจทำธุรกิจ (แฟนเราก็เป็นนักธุรกิจ แล้วเขาก็สอนเรา ให้เราทำธุรกิจ มีธุรกิจเป็นของตัวเอง)
พอเราทำธุรกิจได้เงิน เริ่มไปเที่ยวต่างประเทศ เพื่อนๆก็เริ่มกลับมา เริ่มมาทักทาย พูดคุย เหมือนเดิม
แต่ความรู้สึกเราตอนนี้ เราให้พวกเขาได้แค่คำว่า "เพื่อน"
แต่คำว่า "มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน" เราให้แฟนเรา เพื่อนเราไม่ได้รับความรู้สึกนี้จากเราอีกต่อไป
และปัจจุบันเราก็ไม่ได้ทุ่มเททำอะไรเพื่อเพื่อนอีกต่อไป
ก็แค่ว่างๆก็นัดกัน เม้าท์กัน คุยกัน ชวนกันไปกิน ไปเที่ยว แค่นั้นแหละ แต่พอมีปัญหากลับมีแต่คนในครอบครัวเรา ที่อยู่เคียงข้างเรา แล้วก็แฟนเราอีกคน
แฟนเรานี่ คล้ายๆแฟนจขกท.นะ เป็นคนมีสังคมเยอะ เขาจะเป็นผู้นำมาตั้งแต่เด็ก นึกภาพออกไหม คนที่เวลามีกิจกรรมอะไร จะได้เป็นหัวหน้ากลุ่ม เป็นหัวหน้าห้อง เป็นตัวแทนโรงเรียนไปทำนั่นนี่ แล้วเขาชอบทำกิจกรรมเพื่อสังคม เขาจะเป็นคนที่มีคนรู้จักเยอะมาก
ในทางตรงกันข้าม เราจะเป็นคนเงียบๆ เพื่อนๆเราที่สนิทมากๆไม่เกิน 2-3 คน (หลังผ่านเหตุการณ์ต่างๆ เราคิดว่าเรามีเพื่อนสนิทแค่ 2-3 คนนี้ล่ะ) แล้วทั้ง 3 คน อยู่ต่างประเทศหมดเลย ที่เมืองไทยเราไม่มีเพื่อนสนิทที่พูดคุยได้เลย เราก็จะอยู่เงียบๆของเรา
แต่แฟนเราไม่เคยถามเราเรื่องนี้นะ เขาชอบด้วยซ้ำ เขาบอกว่าชีวิตประจำวันเขาเจอผู้คนเยอะแยะมากมาย แต่พอเขามาเจอเรา เขาได้อยู่กับเรา สองคน สองต่อสอง 5555+ ไม่มีเพื่อนๆเรามาเดินไปไหนมาไหนด้วย เขาบอกเขาชอบ เพราะเวลาอยู่กับเราเขาชอบอยู่กันสองคน ไม่ต้องมีคนมารบกวนหรอก
เรากับแฟนก็ต่างกันมาก เหมือนจขกท.กับแฟนแหละ เราก็เงียบๆเหมือนกัน เราเล่น pantip บ่อย เพราะวันหนึ่งๆเรามีเวลาว่างมาก (แต่บางช่วงก็ยุ่งจนแทบไม่มีเวลาหายใจเลยล่ะ --')
เพื่อนๆสนิท 3 คน เราก็คุยผ่านเฟสบุ๊คนะ ผ่าน line (เป็นไง เหมือนจขกท.เปี๊ยบเลย 5555+ ^0^)
ส่วนเพื่อนๆที่เป็นตัวคน ที่อยู่เมืองไทยเนี่ย หลังผ่านวิกฤติชีวิต เราก็ไม่อยากจะสนิทหรือสุงสิงมาก ก็มีนัดพบบ้าง นานๆที ส่วนใหญ่ถ้ามีเวลาว่างเราจะไปไหนมาไหนกับแฟนมากกว่า เพราะแฟนเราไม่ค่อยว่าง ถ้าว่างก็ไปกัน บางทีก็ไปเที่ยวกับครอบครัว ไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนกับเพื่อนแล้วล่ะ เพื่อนที่สนิทและอยากจะไปไหนมาไหนด้วยกันจริงๆก็ดันอยู่ต่างประเทศหมด
พอมาเจอกระทู้ของคุณ อยากพิมพ์ใหม่ 555+
เราอ่านแล้วโดนใจมากอ่ะ ^0^
เราคล้ายๆคุณ แฟนเราก็คล้ายๆแฟนคุณด้วย
แต่บ้านเราไม่ได้รวยแบบบ้านคุณ บ้านเราจะพอมีฐานะหน่อย สมัยเรียนเราจะมีรถขับคนเดียวในกลุ่ม แล้วเราเป็นคนเรียนเก่งที่สุดในกลุ่ม และนิสัยออกห้าวๆ ไม่เคยมีแฟน เวลาไปเที่ยวบ้านเพื่อน พ่อกับแม่เพื่อนจะรักเรามาก และจะชอบฝากฝังลูกสาวเขากับเรา (เรามีแต่เพื่อนผู้หญิงอ่ะ)
ส่วนพ่อกับแม่เรา จะตำหนิเราเรื่องนี้ตลอด บอกว่าเราทำเพื่อเพื่อนมากเกินไปนะ เช่น เวลาเพื่อนคนไหนโทรมาชวนไปไหน เราก็จะโอเค ไปได้ แล้วก็ขับรถไปรับเพื่อนที่บ้าน แล้วก็ไปกัน
หรือเวลาเพื่อนมีปัญหา ยืมเงิน เขาก็คิดถึงเราคนแรก เราก็ให้ยืม แต่เขายืมไม่มากหรอก หลักพัน ยืมก็คืนทุกครั้งไม่เคยมีปัญหากันหรอก ^^ เวลาไปเที่ยวไหนเป็นกลุ่ม ก็เรานี่แหละ อาสาขับรถไป พาไป น้ำมันฟรี เราออกเอง
คือเราสปอร์ตมาก อาจเพราะดูหนังจีนมาก เราชอบประโยคที่ว่า "มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน" เรารักเพื่อนๆทุกคนมากนะ
จนวันที่เราฟองสบู่แตก (มีปัญหาเรื่องเงิน) เพื่อนหายหมดเลย ^0^ ไม่มีใครอยากพบ ไม่มีใครอยากคุยด้วย
แต่เราโชคดีตรงที่ว่า เราได้พบกับแฟนเราในช่วงที่ชีวิตเรากำลังแย่พอดี แล้วแฟนเรานี่แหละ เป็นเพื่อนแท้ของเราเลย เราพูดได้เต็มปากเต็มคำเลย เขาอยู่เคียงข้างเรา ไม่ทิ้งเรา คอยให้กำลังใจเรา ให้ความช่วยเหลือเรา ในขณะที่เพื่อนๆที่คบกันมาหลายปีพากันหายหัวหมดเลย (เพราะกลัวเรายืมเงิน)
จนชีวิตเราเริ่มกลับมาดีขึ้น เราไม่ได้สมัครทำงานประจำ แต่เราตัดสินใจทำธุรกิจ (แฟนเราก็เป็นนักธุรกิจ แล้วเขาก็สอนเรา ให้เราทำธุรกิจ มีธุรกิจเป็นของตัวเอง)
พอเราทำธุรกิจได้เงิน เริ่มไปเที่ยวต่างประเทศ เพื่อนๆก็เริ่มกลับมา เริ่มมาทักทาย พูดคุย เหมือนเดิม
แต่ความรู้สึกเราตอนนี้ เราให้พวกเขาได้แค่คำว่า "เพื่อน"
แต่คำว่า "มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน" เราให้แฟนเรา เพื่อนเราไม่ได้รับความรู้สึกนี้จากเราอีกต่อไป
และปัจจุบันเราก็ไม่ได้ทุ่มเททำอะไรเพื่อเพื่อนอีกต่อไป
ก็แค่ว่างๆก็นัดกัน เม้าท์กัน คุยกัน ชวนกันไปกิน ไปเที่ยว แค่นั้นแหละ แต่พอมีปัญหากลับมีแต่คนในครอบครัวเรา ที่อยู่เคียงข้างเรา แล้วก็แฟนเราอีกคน
แฟนเรานี่ คล้ายๆแฟนจขกท.นะ เป็นคนมีสังคมเยอะ เขาจะเป็นผู้นำมาตั้งแต่เด็ก นึกภาพออกไหม คนที่เวลามีกิจกรรมอะไร จะได้เป็นหัวหน้ากลุ่ม เป็นหัวหน้าห้อง เป็นตัวแทนโรงเรียนไปทำนั่นนี่ แล้วเขาชอบทำกิจกรรมเพื่อสังคม เขาจะเป็นคนที่มีคนรู้จักเยอะมาก
ในทางตรงกันข้าม เราจะเป็นคนเงียบๆ เพื่อนๆเราที่สนิทมากๆไม่เกิน 2-3 คน (หลังผ่านเหตุการณ์ต่างๆ เราคิดว่าเรามีเพื่อนสนิทแค่ 2-3 คนนี้ล่ะ) แล้วทั้ง 3 คน อยู่ต่างประเทศหมดเลย ที่เมืองไทยเราไม่มีเพื่อนสนิทที่พูดคุยได้เลย เราก็จะอยู่เงียบๆของเรา
แต่แฟนเราไม่เคยถามเราเรื่องนี้นะ เขาชอบด้วยซ้ำ เขาบอกว่าชีวิตประจำวันเขาเจอผู้คนเยอะแยะมากมาย แต่พอเขามาเจอเรา เขาได้อยู่กับเรา สองคน สองต่อสอง 5555+ ไม่มีเพื่อนๆเรามาเดินไปไหนมาไหนด้วย เขาบอกเขาชอบ เพราะเวลาอยู่กับเราเขาชอบอยู่กันสองคน ไม่ต้องมีคนมารบกวนหรอก
เรากับแฟนก็ต่างกันมาก เหมือนจขกท.กับแฟนแหละ เราก็เงียบๆเหมือนกัน เราเล่น pantip บ่อย เพราะวันหนึ่งๆเรามีเวลาว่างมาก (แต่บางช่วงก็ยุ่งจนแทบไม่มีเวลาหายใจเลยล่ะ --')
เพื่อนๆสนิท 3 คน เราก็คุยผ่านเฟสบุ๊คนะ ผ่าน line (เป็นไง เหมือนจขกท.เปี๊ยบเลย 5555+ ^0^)
ส่วนเพื่อนๆที่เป็นตัวคน ที่อยู่เมืองไทยเนี่ย หลังผ่านวิกฤติชีวิต เราก็ไม่อยากจะสนิทหรือสุงสิงมาก ก็มีนัดพบบ้าง นานๆที ส่วนใหญ่ถ้ามีเวลาว่างเราจะไปไหนมาไหนกับแฟนมากกว่า เพราะแฟนเราไม่ค่อยว่าง ถ้าว่างก็ไปกัน บางทีก็ไปเที่ยวกับครอบครัว ไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนกับเพื่อนแล้วล่ะ เพื่อนที่สนิทและอยากจะไปไหนมาไหนด้วยกันจริงๆก็ดันอยู่ต่างประเทศหมด
แสดงความคิดเห็น
เราเป็นคนไม่มีสังคมเลย รู้สึกเหมือนตัวเองแปลกแยกยังไงก็ไม่รู้ ขอคำแนะนำที
แต่หลังจากนั้นมา ได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่ง ประมาณศึกษาดูใจกันหล่ะ เขามีเพื่อนเยอะมาก
มีหลายกลุ่ม มีทั้งเพื่อนที่ทำงาน เพื่อนจากงานอดิเรก เพื่อนสมัยเรียน ไปโน้นไปนี่ตลอด
เขาบอกว่าเขาเป็นคนมีสังคมเยอะ ซึ่งแตกต่างจากเรามาก ที่เราไม่มีใคร มีสังคมกับแค่เพื่อนที่ทำงาน
คือไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน นอกรอบก็ไม่ได้ไปไหนกัน แล้วเราก็มีเพื่อนสมัยเรียนที่อยู่ห่างไกลกันมาก
ก็ได้แต่คุยเฟสบุก หากันอะไรประมาณนี้ แล้วนิสัยเราค่อนข้างโลกส่วนตัวสูง เก็บตัว รักสันโดษ ชอบคิดทำอะไรคนเดียว
แก้ปัญหาเอง พอเรามาคบกับคนนี้มันเลยเริ่มเปรียบเทียบกันอ่ะคะ เหมือนเราแปลกประหลาดจากคนทั่วไปไหมคะ
เวลาไปกับเขา เพื่อนเขาจะชอบถามหาเพื่อนเราที่ยังโสดๆ เราก็กระอักกระอ่วนไม่รู้จะตอบไงดี เพราะเราไม่มีเพื่อนอ่ะคะ
ถามว่า ทำไมไม่ลองเปิดใจคบใคร เราเคยลองหลายครั้งแล้ว แต่เหมือนคำว่าเพื่อนในปัจจุบัน คือมีผลประโยชน์ร่วมกันป่ะคะ
แบบว่าต่างคนต่างได้ประโยชน์อะไรสักอย่างที่ก่อให้เกิดความพึงพอใจร่วมกัน ไม่ให้ตนเองเสียผลประโยชน์
ไม่เหมือนเพื่อนในอุดมคติของเราหรือเปล่าประมาณเพื่อน จริงใจ ไว้ใจ ซื่อสัตย์ อยู่เคียงข้างเราเวลามีปัญหา
ปัจจุบัน พอเพื่อนมีความสุขก็อยู่กับแฟน เวลาทะเลาะกันก็มาหาเรา มาปรึกษาเรา อะไรแบบนี้คะ
พอคืนดีกัน ก็ทิ้งเราไปหาแฟน พอเราเจอแบบนี้ เราก็จะพยายามห่างๆ นิ่งๆ ออกไปคะ เหมือนคบเราเพราะเราให้คำปรึกษาที่ดีได้
อะไรประมาณนี้นะคะ แล้วอย่างเราเนี่ย คือแบบแปลกประหลาดหรือเปล่า แล้วทำยังไงถึงจะมีเพื่อนดีๆ สังคมดีๆ คะ
ปล. เรามีปมในใจตอนเด็ก คือบ้านเรารวยมาก เรามีเพื่อนเยอะ ที่บ้านก็มีคนแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนบ่อยมาก
แต่พอฟองสบู่แตก ไม่มีใครมาบ้านเราเลย ญาติก็กลัวว่าทางบ้านเราจะไปยืมเงิน หลังจากที่รู้กำพืดของคนอื่น
เราก็เลยเริ่มเก็บตัวเงียบคะ ไม่ค่อยมีสังคมเท่าไร