--รู้จักประเทศนิวซีแลนด์คร่าวๆ พอเป็นสังเขปค่ะ


  ลักษณะภูมิประเทศ..... มีพื้นที่หลากหลาย ตั้งแต่
ท้องทุ่งหญ้ากว้างใหญ่เขียวขจี  ภูเขาเขียวชอุ่ม
ภูเขาไฟ   ทะเลทราย     หาดทรายเหยียดยาวที่ติดกับมหาสมุทร
และหรือภูเขาสูงที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนสุดสายตา


  พื้นที่ประเทศ.......แบ่งออกเป็นสองเกาะใหญ่ คือ

เกาะเหนือ (north island)   มีเมืองสำคัญๆ ที่รู้จักกันแพร่หลาย เช่น
wellington (เมืองหลวงของประเทศ)     auckland (เมืองที่ใหญ่ที่สุด) และ  hamilton

เกาะใต้ (south island)   เมืองสำคัญเช่น  christchurch   dunedin และ  queenstown

*(นอกจากสองเกาะใหญ่นี้แล้ว  ยังมีเกาะเล็กๆห้อยเป็นติ่งอยู่ทางใต้ของประเทศอีก 1 เกาะ)



  ฤดูกาล ........ มี 4 ฤดู  คือ  ฤดูร้อน  -  ฤดูใบไม้ร่วง  -  ฤดูหนาว  และฤดูใบไม้ผลิ
แต่มีวลีที่เกี่ยวกับฤดูในประเทศนี้ว่า  4  ฤดูใน 1 วัน   อันหมายถึงฤดูฝนค่ะ  แปลกดี


  ภัยธรรมชาติ........ที่เกิดจากภูเขาไฟประทุ  และแผ่นดินไหว
เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก  แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดที่เกิดในไคร้ส์เชิร์ช เมื่อปี 2001
ร่องรอยความเสียหายของอาคารต่างๆ โดยเฉพาะโบสถ์ใหญ่เก่าแก่อันมีชื่อเสียงนั้น  
ยังมีอยู่ให้เห็นในปัจจุบัน  การบูรณะซ่อมแซมยังมีการดำเนินการอยู่หลายๆแห่ง ในเมืองนั้น

ภัยธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดในประเทศนี้ คือหินถล่มจากภูเขาค่ะ
เจได้ยินเรื่องนี้หลายหนแล้ว  และทริปที่เจไปเที่ยวมานี่ ก็เจอแจ็คพ็อต
เรื่องอุบัติเหตุนี้เข้าเต็มๆ  เนื่องเพราะฝนตกมาก ตกบ่อย ตกหนัก ผสมผสาน
เข้ากับลมที่พัดแรงจัด  ทำให้ดินบ้าง หินบ้างบนภูเขา ถล่มทลายลงมา
ขวางทางบนถนนแคบๆ อยู่บ่อยๆ  หินแต่ละก้อน ใหญ่เกือบเท่ารถเก๋งคันเล็กๆ
ทับรถเก๋งบี้แบน  มีผู้เสียชีวิตด้วย  (แล้วเจจะเล่าเรื่องนี้ ในตอนที่เกี่ยวข้องนะคะ)


  
  รายได้ของประเทศ ........เนื่องจากเป็นประเทศเกษตรกรรม  รายได้หลัก
จึงมาจากปศุสัตว์  อันเป็นแหล่งกำเนิดผลิตภัณฑ์ประเภท นม เนย เนื้อสัตว์ และขนสัตว์
อีกทั้งพืชผักผลไม้เลิศรส ต่างๆ

หากเป็นเมืองที่อยู่ติดทะเล  ก็ทำรายได้จากพวกสัตว์ทะเล เช่นทำฟาร์มหอยแมลงภู่
ฟาร์มปลาแซลมอน  ปลาเทร้าต์............โรงงานอุตสาหกรรม เท่าที่เห็นก็เกี่ยวเนื่อง
ด้วยพวกผลิตภัณฑ์ทั้งปวงที่กล่าวมานี้  เครื่องจักร เครื่องกลประเภทอื่นไม่เห็นค่ะ

*(ถึงตอนนี้  คส.ที่น่ารัก  มีข้อมูลมาเพิ่มเติมให้อีกนิดค่ะ  คือ เมื่อ คศ. 1950  -  1960
นิวซีแลนด์มี  highest  standard of living  เพราะการขายสินค้าเกษตรให้แก่อังกฤษ
และเมกา บูมมาก  (NZ พัฒนาเรือห้องเย็นใหม่ ทำให้สินค้ามีคุณภาพดีขึ้น)
ต่อมาเศรษฐกิจด้านนี้ลดลงจนถึงขั้นย่ำแย่ เมื่อ คศ. 1970  -  1990  เพราะ
น้ำมันขึ้นราคา  และอังกฤษเข้าร่วมกับ ยูโรโซน)*

และจากทรัพยากรทั้งบนดิน ในน้ำ และใต้ดิน  รวมทั้งธรรมชาติของภูมิประเทศ
อันสวยงามแปลกตาของ NZ   แน่นอนว่า รายได้หลักอีกส่วนหนึ่งย่อมต้องมาจาก
นักท่องเที่ยว   ที่นั่น มีการเล่นผาดโผน กระโดด โจนทะยาน ให้ได้ผจญภัยมากมาย
เข้าไปอยู่ในลูกบอลกลมๆลูกเบ้อเริ่ม แล้วกลิ้งลงมาจากเนินเขา ก็สนุกแบบเบาๆ
หรือจะผูกตัวเองติดเข้ากับนักเหินเวหา  แล้วพากันดิ่งพสุธาลงมาจากเครื่องบิน
ก็น่าลุ้นมาก (เจเสียดายที่เกิดเหตุขัดข้องจากหินถล่ม ไม่งั้นได้ลองแล้ว ติดตามนะคะ)

และที่ยังฮิตอยู่สม่ำเสมอ ก็กระโดดบันจี้จัมพ์ไงคะ  ที่นี่เป็นแหล่งกำเนิดแห่งแรกเลยนะ
อ่านเจอว่า หะแรก พวกชนพื้นเมืองก็เล่นกระโดดกันเองแหละ  นานเข้าคงเบื่อ มั้ง
ก็มีคนหัวใส  จัดการเปิดให้คนไปเที่ยวได้เสียวบ้าง  แทนที่ตัวเองจะโดดเหย็งๆ ก็นั่งนับเงินสบายแฮค่ะ


  ประชากร........ประมาณ 4 ล้านคน
ที่อ๊อคแลนด์   ราวๆ 4 แสนคน..........ที่ไคร้สท์เชิร์ช ราวๆ  1 ล้าน 4 แสนคน
นอกนั้นก็กระจัดกระจายกันไปตามเมืองต่างๆ.....ประชากรน้อยดีจริงเลยเนาะ
ทรัพยากรเยอะมาก  ส่งออกสินค้ากัน รับทรัพย์ทั่วหน้า  อยากไปอยู่ด้วยคนจริงๆนะ




  ศาสนา........ส่วนมากนับถือศาสนาคริสต์  นิกายโปรแตสแตนท์


  ภาษา.........ภาษาอังกฤษเป็นหลัก  แต่ก็ไม่ทิ้งภาษาเมารีของชนพื้นเมือง
ชื่อของสถานที่ต่างๆ เป็นภาษาเมารีแทบทั้งหมด  (เมื่อหาข้อมูลทีแรกๆ  -
เจอ่านชื่อที่เที่ยวแล้ว  ออกเสียงยาก จำลำบาก  แต่พอได้ไปออกเสียงกับเขา
เข้าจริงๆ  กลับมองว่าเป็นชื่อที่มีเสน่ห์  คงคล้ายๆกับ ชื่อตำบล อำเภอ ทาง
ชนบทของบ้านเรามังคะ)

ภาษาเมารีไม่มีตัวเขียน  ชื่อของสถานที่ต่างๆจึงใช้ภาษาอังกฤษทับศัพท์
เมารีเรียกประเทศนิวซีแลนด์ ว่า AOTEAROA  (เอาเตอะรัว)  แปลว่า
ดินแดนแห่งเมฆขาว

*