ตอนแรกเห็นข่าวออกมาว่า "จา พนม" จะเป็นดาราไทยคนแรกได้เล่นหนังต่อสู้ฟอร์มยักษ์ของ Hollywood อย่าง Fast & Furious 7 ดีใจมากๆ





ขนาด IMDb ลงข่าวแล้ว นึกว่าชัวร์แน่ๆ



แต่ต่อมามีข่าวเสี่ยเจียงบอกว่าจะ "ฟ้องจาและผู้สร้าง Fast 7" ถ้าจาไปเล่น !! เพราะเพิ่งต่อสัญญาไป 10 ปี !!



พอมาดูสัญญาที่เสี่ยอ้างว่า จา "ได้ต่อสัญญาไปเรียบร้อยแล้ว" เนื้อหาน่าสงสารจามากๆ

10 ปีที่แล้ว (2546-2556) .. เงินเดือน 50,000 บ/ด .. สัญญาที่เสี่ยอ้างว่าจะต่ออีก 10 ปี (2556-2566) เงินเดือนจาก็ยังคง "เท่าเดิม" !!

(ส่วนแบ่งที่จะได้ ก็ไม่บอกว่าแบ่งยังไง? แบ่งเท่าไหร่? แบ่งเมื่อไหร่?)

แถมสัญญาฉบับนี้ยังเป็นการต่อสัญญาแบบ "อัตโนมัติ" เสียด้วยทั้งๆที่จา ไม่มีความประสงค์จะต่อสัญญาออกไป









.
.

ยิ่งอ่านจตหมายของจา ยิงอยากให้จาได้ไปทำตามความฝันของเค้า ได้ไปเผยแพร่ศิลปะมวยไทยให้ชาวโลกได้รู้จักมากยิ่งขึ้น









.
.



อยากให้เสี่ยได้เห็นใจ จา บ้างครับ

จริงอยู่ .. เสี่ยเป็นคนค้นพบและเจียรนัย จา ให้เป็น เพชรเม็ดงาม แห่งวงการหนังไทยที่ไปขายระดับโลกได้

ไม่มีเสีย .. ไม่มีจา วันนี้แน่ๆครับ

แต่เมื่อวันนี้ .. จา .. ได้หมดสัญญา 10 ปี กับเสี่ยลงแล้ว เค้าปฏิบัติตามสัญญามาตลอด 10 ปี

ขอให้เค้าได้เลือกอนาคตตัวเองเถอะครับ .. 10 ปี มาแล้ว .. ที่ จา ใช้ศิลปะการต่อสู้ ใช้เลือดเนื้อและแรงกาย สร้างเม็ดเงินให้กับเสี่ย

บทบาทจา จากเรื่องแรก จนถึงต้มยำกุ้ง ก็ยังเหมือนเดิมคือ"ตามหาช้าง" !!! .. ไม่มีการพัฒนาบทบาทการแสดงเค้าเลย ทั้งๆที่เค้าน่าจะได้พัฒนาฝีมือการแสดงได้มากกว่านี้

เสี่ยเป็นคนเก่ง .. เสี่ยสร้างสหมงคลฟีลม์ขึ้นมา

เสี่ยทำความฝันของเสี่ยให้เป็นจริง .. ณ วันนี้ อยากให้ เสี่ยเห็นใจ จา บ้าง

การปล่อย จา ไป เสี่ยจะทำให้ "ความฝันของคนไทย" อีกเป็นจำนวนมากได้เป็นจริง โดยการเห็นดาราไทย ไปเล่นหนังแอคชั่นฟอร์มยักษ์ของฮอลี่วูด

เสียจะได้ชื่อว่าเป็นคนทีทำชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอย่างมากคนหนึ่ง .. เชื่อว่าหากเสี่ยปล่อยจาไป หากเค้ามีคิวว่าง เสี่ยเรียกมาเล่นหนังให้ ผมว่าจาเค้าก็ยินดีมานะครับ

ได้โปรดเถอะครับ เสี่ย ถ้าเสี่ยรัก "จาเหมือนลูกชาย" คนนึงจริง .. ปล่อยเค้าไปเถอะครับ




ส่วนครอบครัวของจา .. ยิ่งฟังยิ่งเหนื่อยแทนจาครับ