ต่อจากตอนที่แล้ว ลุงชิม่อนมอบภาระกิจให้รินและทีมกระต่ายไปเก็บกู้ข้อมูลจากยานของ Wulgaru ที่ตกยังดาวอังคาร
มีพูดถึง Star Rose เล็กน้อยว่าชั้นป้องกันนั้นมีภายนอก 2 ชั้นซึ่งระหว่างกลางเป็นน้ำทะเลซึ่งก็ได้เอาปลาไปเลี้ยงเป็นอาหารไปด้วย
สองหนุ่มสะพานเรือเริ่มปฏิบัติการน้องเหมียวสู้ๆ กัน
เริ่มปฏิบัติการในวันต่อมา อิซุรุและอาซากินั้นเอาไปแต่ Core เพราะต้องเข้าไปภายในยานที่กำลังย่อยสลาย
การเอาเกราะไปด้วยนั้นอาจทำให้ยานเป้าหมายพังก่อนที่จะได้ข้อมูลออกมาได้ ดานีลเองมาร่วมด้วยเป็นกรณีพิเศษเพื่อทำหน้าที่ในการเก็บกู้ข้อมูล
เมื่อไปถึงก็เจอศัตรูเล็กน้อยแต่ว่าศัตรูนั้นไม่อยู่ในสภาพที่รบได้ซักเท่าไหรนัก ร่วงเองก็มี บินนิ่งๆ มาให้ยิงก็มี
เนื่องจากสภาพอากาศบนดาวอังคารที่มีพายุทราย อิซุรุจึงต้องใช้เสาทวนสัญญาช่วยกระจายสัญญาสื่อสารด้วย
สภาพภายในยานเหมือนกับสิ่งมีชีวิตมีโครงสร้างเชิงชีวะภาพซึ่งน่าจะรวมไปถึงหุ่นรบด้วยเช่นกัน
เมื่อสำรวจต่อไปก็พบซากเหล่าทหาร Wulgaru ที่เดี้ยงหมดสภาพอยู่ทั่วไป ซึ่งทหารเหล่านี้ต้องรับสารบางอย่างอยู่เป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้เซลร่างกายเสื่อมสลาย จุดนี้น่าจะกวนใจอาซากิและอิซุรุพอสมควรเพราะตัวเองนั้นก็คล้ายๆ กับทหารโคลนนิ่งพวกนี้ที่เกิดมาเพื่อรบอย่างเดียว
แต่ยังดีที่เคย์ไม่เข้ามาด้วยไม่งั้นอาจมีจิตตกกันได้
สำรวจไปเรื่อยๆ ยานก็เริ่มทรุดตัวถล่มลงอย่างช้าๆ ว่าแต่อาซากิตกใจจนกระโดดเลยเหรอ
ตัดไปทางยาน Godinion รินรินเกิดสงสัยขึ้นมาว่าทำไม 2 หนุ่มไม่เรียกชื่อทามากิตรงๆ
ซึ่งทั้งสองนั้นได้รับคำแนะนำจากหัวหน้าแพทย์ว่าเรียกแบบนี้จะช่วยเพิ่ม Harmonic ได้สำหรับกรณีของทามากิ
ว่าแล้วก็ขึ้นกันต่อหน้าต่อตาเลยทีเดียว
ทางอิซุรุที่เข้าไปถึงสะพานยานได้แล้ว ดานีลเริ่มกระบวนการเก็บกู้ข้อมูลแต่ระหว่างนั้นยานก็ทรุดตัวถล่มลงปิดทางเข้าออก
อิซุรุติดต่อทีมกระต่ายขอให้ช่วยยิงเปิดทางแต่ทว่าบีมนั้นกลับไม่สามารถยิงฝ่าพายุทรายที่รุนแรงขึ้นมากจากตอนแรกไปยังยานได้
ทามากิเลยจัดการบินควงสว่านสร้าง Tornado เปิดช่องให้สุรุกะยิงลอดผ่านไป
แต่ว่าการเสียดสีด้วยความเร็วสูงกับพายุทรายที่สามารถป้องกันบีมได้นั้นก็ทำให้หุ่นของทามากิเกิดความร้อนสูงมาก
จากนั้นทุกคนก็ออกจากดาวอังคารมาโดยสวัสดิภาพ อาซากินั้นยังคงคิดถึงเรื่องทหารโคลนของพวก Wulgaru กับตัวเองอยู่
ซึ่งอิซุรุเองก็ยังมองโลกในแง่ดีช่วยรักษา Morale ไม่ให้ตกลงไปมาก
แต่ทางทามากินั้นกำลังร้อนเดือดเลยทีเดียว ทีมช่างต้องช่วยกันหล่อเย็นหุ่นเป็นการด่วนเนื่องจากตัว Core นั้นไม่สามารถปลดออกมาได้
แต่ในที่สุดอัศวินมาขาวก็เปิด Cockpit ออกยื่นมือมารับทามากิ ส่วนใครนั้นดูจากหน้าทามากิได้เลยครับ
ถึงกระนั้นน้องเหมียวทามากิก็ไม่ลืมที่จะขอบคุณทีมช่างทุกคนที่ได้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้
ด้านลุงชิม่อนเองก็ลุ้นตัวโก่งกับข้อมูลที่เก็บกู้ได้มาว่าจะมีสิ่งที่แกต้องการหรือไม่
จบไปอีกตอนซึ่งตอนนี้ผมสปอย์ได้เนิบๆ มาเลยฮาๆ (คนเขียนเองยังรู้สึกเลย)
เจอกันตอนหน้า เน้นภาพสวยๆ ยามว่างของนะครับ (เนื้อเรื่องมันไม่ค่อยมีอะไร)
[วิเคราะห์เก็บตกหลังดูจบเรื่อง] Ginga Kikoutai Majestic Prince ตอนที่ 11
มีพูดถึง Star Rose เล็กน้อยว่าชั้นป้องกันนั้นมีภายนอก 2 ชั้นซึ่งระหว่างกลางเป็นน้ำทะเลซึ่งก็ได้เอาปลาไปเลี้ยงเป็นอาหารไปด้วย
สองหนุ่มสะพานเรือเริ่มปฏิบัติการน้องเหมียวสู้ๆ กัน
เริ่มปฏิบัติการในวันต่อมา อิซุรุและอาซากินั้นเอาไปแต่ Core เพราะต้องเข้าไปภายในยานที่กำลังย่อยสลาย
การเอาเกราะไปด้วยนั้นอาจทำให้ยานเป้าหมายพังก่อนที่จะได้ข้อมูลออกมาได้ ดานีลเองมาร่วมด้วยเป็นกรณีพิเศษเพื่อทำหน้าที่ในการเก็บกู้ข้อมูล
เมื่อไปถึงก็เจอศัตรูเล็กน้อยแต่ว่าศัตรูนั้นไม่อยู่ในสภาพที่รบได้ซักเท่าไหรนัก ร่วงเองก็มี บินนิ่งๆ มาให้ยิงก็มี
เนื่องจากสภาพอากาศบนดาวอังคารที่มีพายุทราย อิซุรุจึงต้องใช้เสาทวนสัญญาช่วยกระจายสัญญาสื่อสารด้วย
สภาพภายในยานเหมือนกับสิ่งมีชีวิตมีโครงสร้างเชิงชีวะภาพซึ่งน่าจะรวมไปถึงหุ่นรบด้วยเช่นกัน
เมื่อสำรวจต่อไปก็พบซากเหล่าทหาร Wulgaru ที่เดี้ยงหมดสภาพอยู่ทั่วไป ซึ่งทหารเหล่านี้ต้องรับสารบางอย่างอยู่เป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้เซลร่างกายเสื่อมสลาย จุดนี้น่าจะกวนใจอาซากิและอิซุรุพอสมควรเพราะตัวเองนั้นก็คล้ายๆ กับทหารโคลนนิ่งพวกนี้ที่เกิดมาเพื่อรบอย่างเดียว
แต่ยังดีที่เคย์ไม่เข้ามาด้วยไม่งั้นอาจมีจิตตกกันได้
สำรวจไปเรื่อยๆ ยานก็เริ่มทรุดตัวถล่มลงอย่างช้าๆ ว่าแต่อาซากิตกใจจนกระโดดเลยเหรอ
ตัดไปทางยาน Godinion รินรินเกิดสงสัยขึ้นมาว่าทำไม 2 หนุ่มไม่เรียกชื่อทามากิตรงๆ
ซึ่งทั้งสองนั้นได้รับคำแนะนำจากหัวหน้าแพทย์ว่าเรียกแบบนี้จะช่วยเพิ่ม Harmonic ได้สำหรับกรณีของทามากิ
ว่าแล้วก็ขึ้นกันต่อหน้าต่อตาเลยทีเดียว
ทางอิซุรุที่เข้าไปถึงสะพานยานได้แล้ว ดานีลเริ่มกระบวนการเก็บกู้ข้อมูลแต่ระหว่างนั้นยานก็ทรุดตัวถล่มลงปิดทางเข้าออก
อิซุรุติดต่อทีมกระต่ายขอให้ช่วยยิงเปิดทางแต่ทว่าบีมนั้นกลับไม่สามารถยิงฝ่าพายุทรายที่รุนแรงขึ้นมากจากตอนแรกไปยังยานได้
ทามากิเลยจัดการบินควงสว่านสร้าง Tornado เปิดช่องให้สุรุกะยิงลอดผ่านไป
แต่ว่าการเสียดสีด้วยความเร็วสูงกับพายุทรายที่สามารถป้องกันบีมได้นั้นก็ทำให้หุ่นของทามากิเกิดความร้อนสูงมาก
จากนั้นทุกคนก็ออกจากดาวอังคารมาโดยสวัสดิภาพ อาซากินั้นยังคงคิดถึงเรื่องทหารโคลนของพวก Wulgaru กับตัวเองอยู่
ซึ่งอิซุรุเองก็ยังมองโลกในแง่ดีช่วยรักษา Morale ไม่ให้ตกลงไปมาก
แต่ทางทามากินั้นกำลังร้อนเดือดเลยทีเดียว ทีมช่างต้องช่วยกันหล่อเย็นหุ่นเป็นการด่วนเนื่องจากตัว Core นั้นไม่สามารถปลดออกมาได้
แต่ในที่สุดอัศวินมาขาวก็เปิด Cockpit ออกยื่นมือมารับทามากิ ส่วนใครนั้นดูจากหน้าทามากิได้เลยครับ
ถึงกระนั้นน้องเหมียวทามากิก็ไม่ลืมที่จะขอบคุณทีมช่างทุกคนที่ได้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้
ด้านลุงชิม่อนเองก็ลุ้นตัวโก่งกับข้อมูลที่เก็บกู้ได้มาว่าจะมีสิ่งที่แกต้องการหรือไม่
จบไปอีกตอนซึ่งตอนนี้ผมสปอย์ได้เนิบๆ มาเลยฮาๆ (คนเขียนเองยังรู้สึกเลย)
เจอกันตอนหน้า เน้นภาพสวยๆ ยามว่างของนะครับ (เนื้อเรื่องมันไม่ค่อยมีอะไร)