ตอบคำถามโดย ชัยคฺ ดร. ยูซุฟ อัล กอรอฏอวียฺ อุมมุ ฟิดาอฺ แปลและเรียบเรียง
คำถาม
ฉันอยากจะทราบถึงทัศนะของอิสลามเกี่ยวกับการปะปนระหว่างชายกับหญิง ซึ่งหลายคนบอกว่ามันเป็นสิ่งต้องห้ามในขณะที่อีกมากมายกลับละเลยในคำสอนข้อนี้ ?
คำตอบ
โดยหลักการแล้ว การพบปะกันระหว่างชายหญิงมิได้เป็นสิ่งถูกห้ามโดยสิ้นเชิง โดยข้อเสนอแนะนี้ยังสามารถใช้ได้ตราบเท่าที่เจตนาของการพบปะกัน เป็นไปด้วยกับจุดประสงค์แห่งความดีงามเช่น เพื่อการได้มาซึ่งความรู้อันเป็นประโยชน์ การงานที่ดีการทำโครงการเพื่อการกุศล ภาระหน้าที่แห่งการญิฮาด และการกระทำอื่นๆอีกมาก ซึ่งต้องการความร่วมมือและการทำงานร่วมกันจากทั้งสองเพศ
อย่างไรก็ตาม ในการพบปะกันนั้นจะต้องอยู่ในขอบเขตและต้องไม่ลืมถึงธรรมชาติทั้งสองเพศ พวกเขาทั้งชายและหญิงจำเป็นต้องดำรงอยู่ในคำสอนของอิสลาม ซึ่งเรียกร้องให้การติดต่อสัมพันธ์กันระหว่างชายหญิงนั้นอยู่บนพื้นฐานแห่งความดีงาม และจำเป็นต้องเคร่งครัดในการปฏิบัติตามคำสอนของศาสนา
ต่อไปนี้เป็นเงื่อนไขที่จะถูกนำมาใช้เมื่อมีการติดต่อพบปะกันระหว่างชายหญิง
1. ทั้งสองฝ่ายจะต้องปฏิบัติตัวภายใต้กฎเกณฑ์ที่ว่าด้วยการระงับการใช้สายตาจ้องมอง แบบยาวนานและต้องไม่มีการมองดูกันด้วยสายตาที่สื่อถึงความใคร่ อัลลอฮฺ ตะอาลา ผู้ทรงยิ่งใหญ่ตรัสว่า
“จง กล่าวเถิดมุฮัมมัด แก่บรรดามุอ์มิน ให้พวกเขาลดสายตาของพวกเขาลงต่ำ และให้พวกเขารักษาทวารของพวกเขา นั่นเป็นการบริสุทธิ์ยิ่งแก่พวกเขา แท้จริงอัลลอฮ์ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเขากระทำ, และจงกล่าวเถิดมุฮัมมัดแก่บรรดามุอ์มินะฮ์ให้พวกเธอลดสายตาของพวกเธอลงต่ำ และให้พวกเธอรักษาอวัยวะเพศของพวกเธอ และอย่าเปิดเผยเครื่องประดับของพวกเธอ เว้นแต่สิ่งที่พึงเปิดเผยได้” อันนูร30-31
2. สตรีมุสลิมต้องใส่ชุดตามบทบัญญัติอิสลาม(ฮิญาบ)โดยชุดแต่งกายสำหรับผู้หญิง ดังที่รู้จักกันดีนั่นคือ ชุดซึ่งปกปิดทุกส่วนของร่างกายเว้นใบหน้าและฝ่ามือ เป็นชุดซึ่งไม่รัดรูปและไม่บางจนทำให้เห็นถึงรูปร่างของผู้สวมใส่
3. มารยาทอันดีงามที่ต้องยึดถือปฏิบัติสำหรับสตรีนั่นคือ การที่พวกหล่อนต้องให้ความสำคัญกับรูปแบบของการพูดคุยและท่วงท่าในการเดิน ให้เป็นไปในลักษณะที่ดีและมีเกียรติ พึงระลึกไว้เสมอว่าเหล่ามารร้ายย่อมคอยกระซิบกระซาบบรรดาหนุ่มสาวให้กระทำในสิ่งที่ผิดศีลธรรม
นอกจากนี้แล้วสตรียังถูกห้ามมิให้ใช้น้ำหอมเมื่อยามออกจากบ้าน ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวไว้ว่า “สตรีใดที่ใช้เครื่องหอม แล้วเดินผ่านที่ชุมนุม(เพื่อให้เขาเหล่านั้นดมกลิ่นหอมดังกล่าว)แน่แท้นางทำซินา(ผิดประเวณี)” เศาะฮีฮฺ อัตติรมีซียฺ
4. ไม่อนุญาตให้ชายหญิงอยู่ด้วยกันตามลำพังในสถานที่ที่ไม่มีใครอื่นอยู่ด้วย ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวไว้ว่า
“ใครก็ตามที่ศรัทธาในอัลลอฮฺและวันสุดท้าย จะต้องไม่อยู่ตามลำพังกับหญิง โดยไม่มีมะหฺร็อมของนางอยู่ด้วย แท้จริงชัยฏอนจะเป็นบุคคลที่สาม” รายงานโดย อิมาม อะหฺมัด
ทั้งนี้รวมถึงการอยู่ตามลำพังกับญาติสนิทของภรรยา(หรือญาติสนิทของสามี) ดังที่ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวไว้ว่า
“พวกท่านพึงระวังการเข้าหาผู้หญิง” ชายคนหนึ่งจากชาวอันศอรฺถามว่า “โอ้ ท่านเราะซูลของอัลลอฮฺ แล้วท่านเห็นเช่นไรกับผู้ที่เป็นเขย” ท่านเราะซูลกล่าวตอบว่า “ผู้ที่เป็นเขยคือความตาย” อิมาม บุคอรียฺ
นั่นเป็นเพราะว่าผู้ที่เป็นเขยนั้นสามารถอยู่ด้วยกันได้เป็นเวลายาวนาน ซึ่งจะเป็นเหตุให้เกิดการกระทำบาปที่ใหญ่ขึ้นได้
5. สุดท้ายนี้ เราต้องการเรียกร้องให้ทุกๆ การพบปะกันนั้นไม่เป็นไปโดยละเลยต่อคำสอนแห่งอิสลาม พวกเขาจะต้องระลึกไว้เสมอถึงความต้องการ และเหตุผลในการพบปะกัน กรณีการพบปะกับผู้ชายนั้น จะต้องไม่ทำให้ผู้หญิงมุสลิมหลงลืมธรรมชาติและบทบาทในฐานะที่เธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง รวมทั้งบทบาทในฐานะครูผู้อบรมมุสลิมทั้งหมด (หมายถึงแม่-ผู้แปล)
http://www.fityah.com/index.php?option=com_content&task=view&id=489&Itemid=31
การปะปนระหว่างชายหญิง ทรรศนะอิสลามว่าอย่างไร?
คำถาม
ฉันอยากจะทราบถึงทัศนะของอิสลามเกี่ยวกับการปะปนระหว่างชายกับหญิง ซึ่งหลายคนบอกว่ามันเป็นสิ่งต้องห้ามในขณะที่อีกมากมายกลับละเลยในคำสอนข้อนี้ ?
คำตอบ
โดยหลักการแล้ว การพบปะกันระหว่างชายหญิงมิได้เป็นสิ่งถูกห้ามโดยสิ้นเชิง โดยข้อเสนอแนะนี้ยังสามารถใช้ได้ตราบเท่าที่เจตนาของการพบปะกัน เป็นไปด้วยกับจุดประสงค์แห่งความดีงามเช่น เพื่อการได้มาซึ่งความรู้อันเป็นประโยชน์ การงานที่ดีการทำโครงการเพื่อการกุศล ภาระหน้าที่แห่งการญิฮาด และการกระทำอื่นๆอีกมาก ซึ่งต้องการความร่วมมือและการทำงานร่วมกันจากทั้งสองเพศ
อย่างไรก็ตาม ในการพบปะกันนั้นจะต้องอยู่ในขอบเขตและต้องไม่ลืมถึงธรรมชาติทั้งสองเพศ พวกเขาทั้งชายและหญิงจำเป็นต้องดำรงอยู่ในคำสอนของอิสลาม ซึ่งเรียกร้องให้การติดต่อสัมพันธ์กันระหว่างชายหญิงนั้นอยู่บนพื้นฐานแห่งความดีงาม และจำเป็นต้องเคร่งครัดในการปฏิบัติตามคำสอนของศาสนา
ต่อไปนี้เป็นเงื่อนไขที่จะถูกนำมาใช้เมื่อมีการติดต่อพบปะกันระหว่างชายหญิง
1. ทั้งสองฝ่ายจะต้องปฏิบัติตัวภายใต้กฎเกณฑ์ที่ว่าด้วยการระงับการใช้สายตาจ้องมอง แบบยาวนานและต้องไม่มีการมองดูกันด้วยสายตาที่สื่อถึงความใคร่ อัลลอฮฺ ตะอาลา ผู้ทรงยิ่งใหญ่ตรัสว่า
“จง กล่าวเถิดมุฮัมมัด แก่บรรดามุอ์มิน ให้พวกเขาลดสายตาของพวกเขาลงต่ำ และให้พวกเขารักษาทวารของพวกเขา นั่นเป็นการบริสุทธิ์ยิ่งแก่พวกเขา แท้จริงอัลลอฮ์ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเขากระทำ, และจงกล่าวเถิดมุฮัมมัดแก่บรรดามุอ์มินะฮ์ให้พวกเธอลดสายตาของพวกเธอลงต่ำ และให้พวกเธอรักษาอวัยวะเพศของพวกเธอ และอย่าเปิดเผยเครื่องประดับของพวกเธอ เว้นแต่สิ่งที่พึงเปิดเผยได้” อันนูร30-31
2. สตรีมุสลิมต้องใส่ชุดตามบทบัญญัติอิสลาม(ฮิญาบ)โดยชุดแต่งกายสำหรับผู้หญิง ดังที่รู้จักกันดีนั่นคือ ชุดซึ่งปกปิดทุกส่วนของร่างกายเว้นใบหน้าและฝ่ามือ เป็นชุดซึ่งไม่รัดรูปและไม่บางจนทำให้เห็นถึงรูปร่างของผู้สวมใส่
3. มารยาทอันดีงามที่ต้องยึดถือปฏิบัติสำหรับสตรีนั่นคือ การที่พวกหล่อนต้องให้ความสำคัญกับรูปแบบของการพูดคุยและท่วงท่าในการเดิน ให้เป็นไปในลักษณะที่ดีและมีเกียรติ พึงระลึกไว้เสมอว่าเหล่ามารร้ายย่อมคอยกระซิบกระซาบบรรดาหนุ่มสาวให้กระทำในสิ่งที่ผิดศีลธรรม
นอกจากนี้แล้วสตรียังถูกห้ามมิให้ใช้น้ำหอมเมื่อยามออกจากบ้าน ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวไว้ว่า “สตรีใดที่ใช้เครื่องหอม แล้วเดินผ่านที่ชุมนุม(เพื่อให้เขาเหล่านั้นดมกลิ่นหอมดังกล่าว)แน่แท้นางทำซินา(ผิดประเวณี)” เศาะฮีฮฺ อัตติรมีซียฺ
4. ไม่อนุญาตให้ชายหญิงอยู่ด้วยกันตามลำพังในสถานที่ที่ไม่มีใครอื่นอยู่ด้วย ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวไว้ว่า
“ใครก็ตามที่ศรัทธาในอัลลอฮฺและวันสุดท้าย จะต้องไม่อยู่ตามลำพังกับหญิง โดยไม่มีมะหฺร็อมของนางอยู่ด้วย แท้จริงชัยฏอนจะเป็นบุคคลที่สาม” รายงานโดย อิมาม อะหฺมัด
ทั้งนี้รวมถึงการอยู่ตามลำพังกับญาติสนิทของภรรยา(หรือญาติสนิทของสามี) ดังที่ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม กล่าวไว้ว่า
“พวกท่านพึงระวังการเข้าหาผู้หญิง” ชายคนหนึ่งจากชาวอันศอรฺถามว่า “โอ้ ท่านเราะซูลของอัลลอฮฺ แล้วท่านเห็นเช่นไรกับผู้ที่เป็นเขย” ท่านเราะซูลกล่าวตอบว่า “ผู้ที่เป็นเขยคือความตาย” อิมาม บุคอรียฺ
นั่นเป็นเพราะว่าผู้ที่เป็นเขยนั้นสามารถอยู่ด้วยกันได้เป็นเวลายาวนาน ซึ่งจะเป็นเหตุให้เกิดการกระทำบาปที่ใหญ่ขึ้นได้
5. สุดท้ายนี้ เราต้องการเรียกร้องให้ทุกๆ การพบปะกันนั้นไม่เป็นไปโดยละเลยต่อคำสอนแห่งอิสลาม พวกเขาจะต้องระลึกไว้เสมอถึงความต้องการ และเหตุผลในการพบปะกัน กรณีการพบปะกับผู้ชายนั้น จะต้องไม่ทำให้ผู้หญิงมุสลิมหลงลืมธรรมชาติและบทบาทในฐานะที่เธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง รวมทั้งบทบาทในฐานะครูผู้อบรมมุสลิมทั้งหมด (หมายถึงแม่-ผู้แปล)
http://www.fityah.com/index.php?option=com_content&task=view&id=489&Itemid=31