ร้านผมยังไม่ได้ขึ้นราคา แต่กำลังมองว่าควรจะขึ้นราคา อาจจะต้นปีหน้า ร้านผมไม่ได้ขายอาหารตามสั่ง 30 35 แบบนั้น

แต่ช่วงที่ผ่านมานอกจากค่าแก๊สแล้วมันมีต้นทุนอย่างอื่นที่ขึ้นราคา

เครื่องปรุง วัตถุดิบ ทั้งหลาย ขึ้นราคาหลายอย่าง 10-15% เอาที่ผมเจอกับตัว
1.นมสด ขึ้น 10 %
2.น้ำปลา ขึ้น 15%
3.น้ำมันหอย ขึ้น 10%
4.เนื้อวัว ขึ้น 25%
5.ไก่ (อันนี้ขึ้นแล้ว ลงแล้ว) ช่วงขึ้นขึ้นไป 30%
6.กุ้ง ขึ้น 80%
7.ปลา ขึ้น 10-20%
8.หมู ขึ้น 8-10%
9.ไข่ไก่ ขึ้น 15%
10. หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ขึ้น 60 %
11. ข้าวสาร 10 %

ซึ่งของทั้งหมดนี้ขึ้นราคา เรายังไม่ได้ปรับราคาอาหาร เพราะก็ถัวๆกันไป อันนี้ไดเยอะหน่อย อันนี้ได้น้อยหน่อย พอผ่านไปได้ แต่ถ้ามันขึ้นอีก เราต้องปรับปริมาณและราคาสินค้าใหม่ เพราะ ใกล้จะปีใหม่ เงินเดือนพนักงานก็ต้องขึ้น อุปกรณ์ค่าเสื่อมร้านค้าก็ต้อง ปรับปรุง


การปรับขึ้นราคาไม่ได้ทำทุกครั้งที่ของขึ้นหรอกครับ คนขายเค้าก็ถัวๆเอาล่ะครับว่าพออยู่ได้มั๊ย เพราะถ้าปรับขึ้น 5 บาท ทุกครั้งที่ของมันขึ้น รับรองตอนนี้ตามสั่งราคาทะลุ 100 ไปล่ะครับ .....


ต้นทุนร้านผมแพงสุดคือค่าวัตถุดิบ 30-35% ของยอดขาย ค่าแรง 15% ค่าไฟ น้ำ แก๊ส สาธารณูปโภค ราวๆ 10%

กำไรเหลือ 35% .... นี่ยังไม่ได้หักค่าเสื่อมราคาอะไรนะครับ ยังดีที่ร้านเป็นของตัวเอง ไม่ได้เช่า เลยไม่มีค่าเช่า ซึ่งถ้ามีค่าเช่าทำเลแถวนี้ ก็คงราวๆ 10% ของยอดขาย


อย่างไรก็ดี ผมยังคงย้ำว่าสิทธิ์ในการตั้งราคาสินค้าเป็นของผู้ขาย สิทธิ์ในการเลือกจับจ่ายเป็นของผู้ซื้อ หากคุณคิดว่าสินค้านั้นไม่คุ้มค่า ก็ลองเปลี่ยนร้านดุครับ ร้านอาหารเป็นธุรกิจเสรี เราสามารถเลือกได้ครับ ด้วยความเป็นธุรกิจเสรี ทำให้มันแข่งขันกันตามกลไกตลาด ไม่มีการฮั๊วะราคาขายหรอกครับ