Riegn of the Lost : The Twin Diamonds (ภาค 1) ตอนที่ 7

กระทู้สนทนา
7
อเล็กซ์
ซิลเวีย เดอ สวอร์น

เชื่อผมเถอะ หากคุณเป็นบุตรแห่งแสงอาทิตย์คุณจะเกลียดการเล่นสไลเดอร์ในสวนน้ำอย่างแน่นอน  
มันคือความรู้สึกของการลอยเคว้งคว้างหลังหลุดจากขาของสัตว์โรคจิต 2 ตัวและตกลงสู่หุบเหวลึกจากนั้นก็กระแทกกับน้ำอย่างรุนแรง      ทุกอย่างกลายเป็นสีดำมืดและผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกสายน้ำพาไปที่ไหนสักแห่งแบบไร้จุดหมาย นั่นแหละคือสิ่งที่ผมรู้สึกก่อนจะหมดสติไป
ผมไม่แน่ใจว่าผมตื่นอยู่ หลับไหล หรือว่าตายไปแล้วกันแน่ พอผมลืมตาขึ้นอีกทีก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องนอนห้องเดิมของตัวเองที่โรงเรียนดัดสันดาน The Cringle Colonial School รอบๆตัวผมทุกอย่างยังคงดูเหมือนเดิมจากวันสุดท้ายที่ผมจากที่นั่นมา ผมนั่งอยู่บนเตียงนอนเล็กๆสกปรกๆของผม มันเป็นเตียงทำจากเหล็กสนิมเขรอะ และประดับประดาไปด้วยรอยชุน รอยขาด และไข่แมลงสาบเป็นหย่อมๆ เตียงของผมไม่มีผ้าห่มเนื่องจากผมเอาไปให้อาธีน่าใช้ ผ้าห่มของเธอถูกเด็กผู้หญิงตัวใหญ่คนหนึ่งแย่งไปเมื่ออาทิตย์ก่อน ผมโกหกอาธีน่าว่าผมเป็นคนขี้ร้อนและผ้าห่มเป็นเหมือนไส้ติ่งที่ไม่มีความจำเป็นต่อร่างกาย ทั้งๆที่ความจริงแล้วผมแทบจะนอนไม่หลับทุกคืนจากการโดนความหนาวเย็นกัดกินทุกอณูของกระดูก

บนกำแพงข้างเตียงรูปถ่ายของผมและพี่น้องของผมยังคงแปะอยู่บนนั้น มีภาพผม เอโทส แอสตร้า และ อาธีน่ากำลังกอดคอกัน พวกเราดูยิ้มอย่างมีความสุข ในขณะที่ฉากหลังเป็นคีแกนและเหล่าลูกสมุนกำลังทำหน้าเหยียดหยามใส่ ผมจำเหตุการณ์ต่อจากนั้นได้ดี ก็เป็นแค่วันธรรมดาอีกวันที่ผมและพี่น้องถูกกลั่นแกล้งจากเพื่อนร่วมโรงเรียน การต่อสู้ บาดแผล และปิดท้ายด้วยการกลั่นแกล้งของครูสโตนจอมบ้าพลัง
ห้องของผมเป็นห้องแบบ Roommate คืออีกมุมหนึ่งของห้องเป็นที่นอนของเพื่อนร่วมห้องของผมชื่อเควิน วินเดอร์ตัน หรือ วินเดอร์วู๊ด สักอย่างผมก็ไม่ค่อยแน่ใจ เควินอายุเท่ากับผม เขาทั้งเกรงกลัวและเกรงใจคีแกนจนผมแทบจะเห็นคำว่า  “ด้วยความเกรงใจเป็นอย่างสูง” บน  หน้าผากเขาเลยทีเดียว และนั่นก็ทำให้เขาไม่ค่อยจะสุงสิงหรือกล้าที่จะสนิดสนมกับผมเป็นพิเศษเท่าไหร่ (เอาจริงๆเขาแทบไม่คุยกับผมเลย)   ซึ่งนั่นก็มีข้อดีเหมือนกันตรงที่ผมเหมือนได้ห้องส่วนตัวไปแบบฟรีๆ

ผมมองไปที่เตียงอันว่างเปล่าของเควินแล้วอดคิดถึงพี่น้องของผมไม่ได้ พวกเขาจะเป็นอย่างไร ต่อจากนี้ใครจะดูแลพวกเขา พวกเขาจะรอดชีวิตจากเรื่องลึกลับแสนประหลาดกับภารกิจกู้โลกผสมฆ่าตัวตายนี้หรือไม่ อากาศในห้องหนาวเย็นและมืดสนิด มีเพียงแสงไฟจากดวงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างบานเล็กเท่านั้นที่ทำให้ผมพอจะมองเห็นอะไรบ้าง

แล้วจู่ๆผมก็คิดขึ้นได้ หรือว่านี่คือความจริง ส่วนเรื่องพิลึกกึกกือเหล่านั้นคือความฝันเท่านั้น ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เอโทส แอสตร้า และอาธีน่าคงกำลังหลับอย่างปลอดภัยอยู่ในห้องของตนเอง ผมรู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก และถอนหายใจยาวหลายครั้งก่อนจะค่อยๆล้มตัวลงนอน แต่หัวของผมยังไม่ทันถึงหมอนด้วยซ้ำตอนที่เสียงนั้นดังขึ้นจากมุมมืดหนึ่งของห้อง

“มันไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดหรอกนะ อเล็กซ์” เสียงนั้นทุ้มต่ำ ดังกังวาล สุขุมและแน่นอน ทรงพลัง มันดังอยู่ทั้งในหูและในจิตใจของผมไปในเวลาเดียวกัน ผมรีบลุกขึ้นและหันไปมองเจ้าของเสียงที่กำลังค่อยๆเดินออกจากมุมมืดในห้อง…เควินนั่นเอง

เควินก็คือเควิน เขาเป็นเด็กชายผิวสีน้ำตาลเข้มออกสีน้ำผึ้ง ผมหยักศกจนหยิกงออยู่บนศรีษะของเขา รูปร่างผอมบางและไม่สูงมากนัก เขาสวมชุดนอนตัวเดิมเหมือนที่ผมเคยเห็นทุกคืนก่อนเข้านอน ดูเผินๆเขายังเป็นเควินคนเดิมที่ผมเคยเจออยู่ทุกวัน เว้นเสียแต่เรื่องหนึ่ง…เสียง
ผมยอมรับว่าไม่ค่อยได้พูดคุยกับเขามาก และเขาก็ดูเหมือนจะไม่สนใจพูดคุยกับผมอยู่แล้วด้วย แต่กระนั้นผมก็มั่นใจมากว่าเสียงนั้นไม่ใช่เสียงแบบเควิน เควินพูดผ่านเข้ามาในจิตใจผมไม่ได้ ผมจ้องมองดูเขาค่อยๆเดินมาและนั่งลงบนเตียงของเขาอย่างเงียบๆ ผมไม่กล้าพูดอะไรออกมาแต่ก็รู้สึกได้ถึงขนที่ลุกตั้งชัน กล้ามเนื้อทุกส่วนขยับขยาย ผมรู้สึกถึงสัญชาติญานป้องกันตัว ไม่ว่าเควินจะเป็นตัวอะไรก็ตาม เขานั่งลงบนเตียงเอามือทั้ง 2 กุมกันเอาไว้และก้มหน้าเหมือนคนกำลังใช้ความคิดอะไรอยู่ เราอยู่กันในความเงียบนานเกือบนาที จนผมรู้สึกอึดอัดและกำลังจะพูดออกมาอยู่แล้ว แต่เควินก็ชิงพูดขึ้นก่อน

“อย่างที่ฉันบอกไป…เรื่องที่นายคิดว่ามันเป็นแค่ความฝันมันคือความจริง แต่ฉันจะเสริมให้นายอีกสักนิดก็แล้วกัน ขณะนี้นายอยู่ในความฝัน” เสียงของเควินยังคงดังก้องอยู่ในจิตใจของผม เขาค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองพร้อมด้วยรอยยิ้มนิดๆแบบอบอุ่น นั่นทำให้ผมทั้งรู้สึกผ่อนคลายลงและรู้สึกสยดสยองในเวลาเดียวกันที่เห็นภาพเควินที่ดูจะไม่อยากคุยกับผมกำลังยิ้มให้แบบนี้

“ฉันคาดเดาว่าเราจะได้เจอกันในสถานที่ๆเหมาะสมกว่านี้ พร้อมๆกับพี่น้องของนาย” เขาพูดต่อโดยไม่สนใจใบหน้าหเยเกของผม

“แต่สถานการณ์มันเปลี่ยนไป…นายคงจะไม่ได้เจอฉันไปอีกพักใหญ่ๆ และฉันเดาว่านายคงไม่รอดชีวิตจากภารกิจนี้ได้หากไม่ได้รับคำแนะนำจากฉัน…นั่นคือเหตุผลที่ฉันเลือกที่จะเป็นฝ่ายมาหานายเอง ที่นี่…ในความฝันของนาย”
ผมพยายามรวบรวมสติ เพื่อย่อยข้อมูลต่างๆที่เควินกำลังพยายามสื่อสารมาให้ และทันใดนั้นผมก็ค่อยๆเริ่มเข้าใจความหมายของเขา

คุณคือ…โอ้…เป็นไปไม่ได้….เฮลก้า โพรมีทีอุส” ผมอึ้งจนพูดจาตะกุกตะกัก ซึ่งผมว่ามันน่ายอายมากสำหรับคนที่ถูกคาดหวังให้เป็นผู้นำการปลดปล่อยโลกจากหายนะครั้งนี้
“ถูกต้อง…เก่งมาก เด็กน้อย”  เฮลก้า โพรมีทีอุสมีรอยยิ้มที่อบอุ่นมากขึ้นอีก
“แล้วทำไมคุณต้องมาในร่างของเควินด้วยครับ” ผมถามอย่างอดสงสัยไม่ได้

เฮลก้า โพรมีทีอุสถึงกับหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู “เธอคิดว่าถ้าฉันโผล่มาในร่างจริงของฉัน ห้องนี้จะบรรจุสัตว์ประหลาดขนาดเท่าตึก 20 ชั้นไหวไหมล่ะ…แน่อนอนว่าไม่ และฉันก็ไม่ชอบความเอิกเกริกใดๆมากเกินไป ดังนั้นฉันว่าฉันมาพบเธอในร่างเพื่อนของเธอคนนี้จะดีกว่า…เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันสักทีนะ…อเล็กซ์”
ผมเดาว่าผมคงทั้งอึ้งทั้งงง และผิดหวังนิดๆที่เรื่องประหลาดเหล่านี้เป็นเรื่องจริง จึงตอบสั้นๆแค่ครับ….นายท่าน เฮลก้า โพรมีทีอุสยิ้มเล็กๆก่อนจะเริ่มทำหน้าเคร่งขรึม

“ฉันมาที่นี่เพื่อให้คำทำนายส่วนตัวกับนาย…แน่นอนพี่น้องของนายต่างก็มีชะตากรรมและภาระหน้าที่ของตนเองอยู่และฉันจะบอกพวกเขาเองเมื่อพวกเขามาพบฉันในเร็ววันนี้ เกรมอสจะเป็นคนนำทางพวกเขามา” เฮลก้า โพรมีทีอุสพูดต่อไป และผมก็รุ้สึกดีจริงๆที่รู้ว่าพี่น้องของผมปลอดภัย อย่างน้อยก็จนกว่าพวกเขาจะได้พบกับเฮลก้า โพรมีทีอุส

“อเล็กซ์ เจ้ามีลักษณะและคุณสมบัติที่แท้จริงของผู้นำ เจ้าจะเป็นผู้นำพาพี่น้องของเจ้าและกองทัพกบฏเพื่อกอบกู้สันติภาพของโลกนี้ไว้อีกครั้งอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เจ้าจะทำสำเร็จหรือไม่นั้นข้าไม่สามารถให้คำตอบกับเจ้าได้ จงจำไว้ว่าข้าสามารถมองเห็นสิ่งที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นในอนาคตเท่านั้น แต่มันจะเป็นไปตามนั้นหรือไม่มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้า แต่ขึ้นอยู่กับการกระทำของพวกเจ้าทุกคน ทั้งเจ้า ทั้งพี่น้องของเจ้า เชคาน เกรมอสหรือแม้แต่องค์หญิงซิลเวีย สวอร์นเองก็ตาม” โอ้ให้ตาย ผมเกือบลืมองค์หญิงผู้กล้ากับไม้ตะบองของเธอไปเสียแล้ว

เฮลก้า โพรมีทีอุสพูดต่อไป “เจ้าเป็นคนดีอเล็กซ์ บางครั้งอาจจะดีมากเกินไป ไว้ใจคนมากเกินไป จงจำให้มั่น ในอนาคตเจ้าจะทำการตัดสินใจผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงและนั่นอาจนำมาสู่ความพ่ายแพ้ของกองทัพกบฏและอวสานของโลกได้ในที่สุด อยู่ข้างๆพี่น้องของเจ้าไว้ ปกป้องพวกเขา รับฟังพวกเขาโดยเฉพาะ   อาธีน่า เธอจะเป็นผู้ให้คำปรึกษาเจ้าได้ดี อย่าไว้ใจใครมากเกินไป  นั่นจะเป็นจุดอ่อนที่ถึงตายของเจ้าได้…และข้าสัมผัสได้ว่าความผิดพลาดอันใหญ่หลวงของเจ้าจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้แล้วด้วย ระวังตัวให้ดี ขอให้โชคดีและเป็นผู้นำที่ดีของเราตลอดไป” พูดจบเฮลก้า โพรมีทีอุส หรือจะเป็นเควินก็ตามทีก็ค่อยๆ ละลายกลายเป็นฝุ่นผง และลอยออกไปทางหน้าต่างโดยไม่มีช่วงเวลา Q&A ให้ผมเลย  ผมได้แต่นั่งนิ่ง กลัวใน   คำทำนายของตนเอง ว่าผมเองนั่นแหละคือคนที่ทำให้โลกนี้ถึงกาลอวสาน ผมเองที่ปกป้องพี่น้องของผมไม่ได้ แต่ก่อนที่ละอองฝุ่นเสี้ยวสุดท้ายจะลอยออกจากห้องไปเสียงของเฮลก้า โพรมีทีอุสก็ดังขึ้นในจิตใจของผมอีกครั้ง

“สุดท้ายก่อนจากกันอเล็กซ์…กำลังมีการต่อสู้เกิดขึ้นใกล้กับบริเวณที่เจ้าสลบอยู่ เจ้าต้องเข้าไปช่วยพวกเขาและต้องไปตอนนี้เท่านั้น….........ตื่นได้แล้วอเล็กซ์”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่