ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีต่อผู้รักประชาธิปไตยทุกท่านที่ท่านนายกได้ทูลเกล้าเกล้าร่างแก้ไขในมาตราเรื่องที่มาของ ส.ว.
เราได้เห็นอาการพล่านของกลุ่มเผด็จการและพรรคการเมืองตัวแทนกลุ่มเผด็จการที่ออกอาการเหมือนสุนัขถูกเตะวิ่งไปร้องเอ๋งๆไปด้วย
เรื่องที่"ไป"ของ ส.ว.ลากตั้งกลุ่มนี้ เมื่อพ้นไปจากตำแน่งเเล้วก็หมายความว่าองค์กรอิสระอีกหลายองค์กร ตามภาพ
ที่ผ่านมา่ มีการพยายามยื่นถอดถอนแต่ความจริงแล้วเป็นไปไม่ได้ที่บุคคลเหล่านี้จะถูกถอดถอนเพราะว่ามีการทำผนังทองแดงกำแพงเหล็กเตรียมการไว้ก่อนแล้ว คือต้องใช้เสียง ส.ว.3 ใน 5 ถึงจะถอดถอนได้ ตามภาพ
ซึ่งรัฐธรรมนูญนี้หากไปแก้ไข ต่อให้บุคคลบางกลุ่มกระทำการผิดเเผกและแปลกๆต่อหน้าที่ จะถอดถอนต้องใช้เสียง ส.ว. 3 ใน 5 ของ ส.ว.ทั้งหมด มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วครับเพราะ ส.ว.ลากตั้งก็ปาเข้าไป 50% แล้ว แถมคนที่ สรรหา ส.ว.ลากตั้งก็เป็นคนขององค์กรเหล่านี้อีกต่างหาก เรียกกันว่า ต่างพึ่งพากันอยู่แล้ว
ถึงจะมีการเลือกตั้ง ส.ว.เข้ามาก็ถอดถอนได้ไม่ง่ายอย่างที่ฝ่ายเผด็จการบอกไว้ เพราะส.ว.เลือกตั้งต่างเป็นเอกเทศถ้าองค์กรอิสระหรือบุคคลที่จะถูกถอดถอนไม่ชั่วร้ายจนเ้ป็นที่ประจักษ์ ก็ไม่ถูกถอดถอนหรอกครับ
ที่ออกมาพล่านให้น่าสมเพช เพราะรู้การกระทำของตัวเองมากกว่าครับ ว่าอนาคตจะเป็นอย่างใร
ไม่ต้องห่วงว่า นายกทูลเกล้าไปแล้วจะมีผลอะไรตามมาถึงขนาดหลุดจากตำแหน่งหรอกครับ เพราะว่ารัฐสภาทำตามกฎหมาย ทำถูกทุกขั้นตอนอยู่แล้วและนายกเป็นเพียงผู้นำสารตามหน้าที่เท่านั้น นายกไม่สามารถจะทำอย่างอื่นได้เลย นอกจากยื่นทูลเกล้าภายใน 20 วัน
เรื่องที่น่าห่วงคือ พวกตรงข้ามมากกว่าครับ ทำผิดขั้นตอนตั้งแต่รับเรื่องโดยไม่อ่านอัยการสูงสุดแล้ว แถมยังมีเรื่องไม่ชอบมาพากลอีกหลายเรื่อง ผมว่าคนพวกนี้กำลังหนาวๆร้อนๆมากกว่า
ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของ ส.ว. คืออวสานของร่างทรงเผด็จการ
เราได้เห็นอาการพล่านของกลุ่มเผด็จการและพรรคการเมืองตัวแทนกลุ่มเผด็จการที่ออกอาการเหมือนสุนัขถูกเตะวิ่งไปร้องเอ๋งๆไปด้วย
เรื่องที่"ไป"ของ ส.ว.ลากตั้งกลุ่มนี้ เมื่อพ้นไปจากตำแน่งเเล้วก็หมายความว่าองค์กรอิสระอีกหลายองค์กร ตามภาพ
ที่ผ่านมา่ มีการพยายามยื่นถอดถอนแต่ความจริงแล้วเป็นไปไม่ได้ที่บุคคลเหล่านี้จะถูกถอดถอนเพราะว่ามีการทำผนังทองแดงกำแพงเหล็กเตรียมการไว้ก่อนแล้ว คือต้องใช้เสียง ส.ว.3 ใน 5 ถึงจะถอดถอนได้ ตามภาพ
ซึ่งรัฐธรรมนูญนี้หากไปแก้ไข ต่อให้บุคคลบางกลุ่มกระทำการผิดเเผกและแปลกๆต่อหน้าที่ จะถอดถอนต้องใช้เสียง ส.ว. 3 ใน 5 ของ ส.ว.ทั้งหมด มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วครับเพราะ ส.ว.ลากตั้งก็ปาเข้าไป 50% แล้ว แถมคนที่ สรรหา ส.ว.ลากตั้งก็เป็นคนขององค์กรเหล่านี้อีกต่างหาก เรียกกันว่า ต่างพึ่งพากันอยู่แล้ว
ถึงจะมีการเลือกตั้ง ส.ว.เข้ามาก็ถอดถอนได้ไม่ง่ายอย่างที่ฝ่ายเผด็จการบอกไว้ เพราะส.ว.เลือกตั้งต่างเป็นเอกเทศถ้าองค์กรอิสระหรือบุคคลที่จะถูกถอดถอนไม่ชั่วร้ายจนเ้ป็นที่ประจักษ์ ก็ไม่ถูกถอดถอนหรอกครับ
ที่ออกมาพล่านให้น่าสมเพช เพราะรู้การกระทำของตัวเองมากกว่าครับ ว่าอนาคตจะเป็นอย่างใร
ไม่ต้องห่วงว่า นายกทูลเกล้าไปแล้วจะมีผลอะไรตามมาถึงขนาดหลุดจากตำแหน่งหรอกครับ เพราะว่ารัฐสภาทำตามกฎหมาย ทำถูกทุกขั้นตอนอยู่แล้วและนายกเป็นเพียงผู้นำสารตามหน้าที่เท่านั้น นายกไม่สามารถจะทำอย่างอื่นได้เลย นอกจากยื่นทูลเกล้าภายใน 20 วัน
เรื่องที่น่าห่วงคือ พวกตรงข้ามมากกว่าครับ ทำผิดขั้นตอนตั้งแต่รับเรื่องโดยไม่อ่านอัยการสูงสุดแล้ว แถมยังมีเรื่องไม่ชอบมาพากลอีกหลายเรื่อง ผมว่าคนพวกนี้กำลังหนาวๆร้อนๆมากกว่า