โพล้เพล้วันนั้นผมตื่นมาท่ามกลางความงัวเงียปนกับความง่วงและสายตาที่พร่ามัวภายในรถตู้ที่แออัดที่ค่อยๆเคลื่อนตัว ใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางข้างหน้า
ผมรีบลุกลี้ลุกลนเก็บแผ่นกระดาษม้วนเข้าหากันและก้าวเท้าลงจากรถเนื่องจากสภาพฟ้าที่มืดครึ้มคล้ายว่าฝนกำลังจะตก
ผมคิดได้แค่ไม่ถึงสามวินาที น้ำฝนเม็ดเล็กๆที่หล่นจากฟ้าหลายเมตรก็โหมเข้าใส่ใบหน้าและกลางลำตัว
ผมรีบเดินให้เร็วยิ่งขึ้นก่อนที่มันจะไล่ตามผมมามากกว่านี้ ผมเกือบสลัดมันหลุดแต่โชคไม่ดีที่ผมต้องยืนรอรถเมล์เพื่อกลับบ้าน
ขณะที่ยืนรอรถเมล์เพียงไม่กี่อึดใจรถมากมายหลายสายได้วิ่งผ่านเข้าออกป้ายผ่านแล้วผ่านเล่า
และแล้วรถที่ผมเฝ้ารอก็ค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าจอดอย่างช้าๆราวกับว่าไม่มีอะไรที่ต้องรีบร้อน แต่คนที่ยืนรอไม่คิดเช่นนั้น ผู้คนมากมายต่างวิ่งกรูเข้าไปทางด้านประตูทางเข้าคล้ายกับประตูรถดูดมนุษย์โลกเข้าไป
ผมไม่ทันแม้แต่จะเดินไปด้วยซ้ำ ได้แต่ยืนกดปุ่มเลื่อนเปลี่ยนเพลงจากไอพอดในมือและมองไปยังผู้คนเหล่านั้น
รถค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆเหมือนไม่จำเป็นต้องรีบอีกต่อไป ผู้คนในรถหญิงชายต่างยืนเบียดเสียดกันแน่นขนัด ความร้อนภายในรถรุมล้อมทุกอณูอากาศ
ผมสาดสายตากลับมายังท่ารถ รถสายเดียวกันจอดเทียบท่าอย่างมีระเบียบห่างกันเพียงไม่กี่นาที แต่คราวนี้ต่างจากคันที่แล้ว ทั้งๆที่เวลาห่างกันเพียงเล็กน้อย แต่กลับแทบจะไม่มีคนวิ่งขึ้นเลย
ผมก้าวเท้าออกช้าๆเดินขึ้นไปนั่งพร้อมกับรถที่เคลื่อนตัวออก ภายในรถยังเหลือเบาะว่างให้เห็น แทบจะนับคนในรถได้เลยทีเดียว
ผมนั่งคิดไปพลาง ลมหนาวกระทบหน้าและผิวหนังเบาๆ
"ทำไมเราถึงเลือกที่จะรีบมากกว่าการที่จะรอ"
หน้าหนาวเหมือนจะใกล้เข้ามาทุกที
ผมนั่งกอดอกคลอเพลงIn My LifeของThe Beatlesพร้อมกับหลับตาลง
หนาวนี้ยังคงกอดตัวเอง
ฝน(พรำ)
ผมรีบลุกลี้ลุกลนเก็บแผ่นกระดาษม้วนเข้าหากันและก้าวเท้าลงจากรถเนื่องจากสภาพฟ้าที่มืดครึ้มคล้ายว่าฝนกำลังจะตก
ผมคิดได้แค่ไม่ถึงสามวินาที น้ำฝนเม็ดเล็กๆที่หล่นจากฟ้าหลายเมตรก็โหมเข้าใส่ใบหน้าและกลางลำตัว
ผมรีบเดินให้เร็วยิ่งขึ้นก่อนที่มันจะไล่ตามผมมามากกว่านี้ ผมเกือบสลัดมันหลุดแต่โชคไม่ดีที่ผมต้องยืนรอรถเมล์เพื่อกลับบ้าน
ขณะที่ยืนรอรถเมล์เพียงไม่กี่อึดใจรถมากมายหลายสายได้วิ่งผ่านเข้าออกป้ายผ่านแล้วผ่านเล่า
และแล้วรถที่ผมเฝ้ารอก็ค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าจอดอย่างช้าๆราวกับว่าไม่มีอะไรที่ต้องรีบร้อน แต่คนที่ยืนรอไม่คิดเช่นนั้น ผู้คนมากมายต่างวิ่งกรูเข้าไปทางด้านประตูทางเข้าคล้ายกับประตูรถดูดมนุษย์โลกเข้าไป
ผมไม่ทันแม้แต่จะเดินไปด้วยซ้ำ ได้แต่ยืนกดปุ่มเลื่อนเปลี่ยนเพลงจากไอพอดในมือและมองไปยังผู้คนเหล่านั้น
รถค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆเหมือนไม่จำเป็นต้องรีบอีกต่อไป ผู้คนในรถหญิงชายต่างยืนเบียดเสียดกันแน่นขนัด ความร้อนภายในรถรุมล้อมทุกอณูอากาศ
ผมสาดสายตากลับมายังท่ารถ รถสายเดียวกันจอดเทียบท่าอย่างมีระเบียบห่างกันเพียงไม่กี่นาที แต่คราวนี้ต่างจากคันที่แล้ว ทั้งๆที่เวลาห่างกันเพียงเล็กน้อย แต่กลับแทบจะไม่มีคนวิ่งขึ้นเลย
ผมก้าวเท้าออกช้าๆเดินขึ้นไปนั่งพร้อมกับรถที่เคลื่อนตัวออก ภายในรถยังเหลือเบาะว่างให้เห็น แทบจะนับคนในรถได้เลยทีเดียว
ผมนั่งคิดไปพลาง ลมหนาวกระทบหน้าและผิวหนังเบาๆ
"ทำไมเราถึงเลือกที่จะรีบมากกว่าการที่จะรอ"
หน้าหนาวเหมือนจะใกล้เข้ามาทุกที
ผมนั่งกอดอกคลอเพลงIn My LifeของThe Beatlesพร้อมกับหลับตาลง
หนาวนี้ยังคงกอดตัวเอง