หลายคนที่เป้นโรคตับอักเสบ หรือ โรคตับแข็ง อาจเคยได้ยิน หรือ รู้สึกว่า
ยาพาราเซตามอล มีพิษต่อตับ ก็คิดกันไปเอง ว่าเป็นโรคตับห้ามกินยาพารา
ซึ่งอันตรายมาก ครับ เพราะเมื่อปวด หรือไข้ไม่กินยาพารา แล้วจะไปกิน
ยาแก้ปวดอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ หรือ ย่อว่า NSAIDs ซึ่ง
ได้แก่ยา ไอบูโพเฟน ไดโคฟีแนค ไพร็อกซิแึคม เป็นต้น
ซึ่งยานี้เป็นอันตรายมากต่อโรคตับแข็ง อาจเกิดอาการข้างเคียงถึงตายได้
สมัยก่อน ตอนเรียนจบใหม่ ก็ยังเข้าใจ ผิดครับ ว่า เป็นโรคตับ ห้ามกินพาราเซตามอล
แนะนำครับ คนที่เป็นโรคตับแข็ง กินยาพาราเซตามอลได้
วันละ ไม่เกิน 1.5 กรัม หรือ 500 มก. วันละ 3 ครั้ง
คนที่เป็นโรคตับแข็ง ไม่แนะนำให้กินยาไอบูโพเฟน ไดโคฟีแนค ไพร็อกซิแึคม
เพราะ มีความเสี่ยงสูง ครับ
ส่วนโรคตับอักเสบ อาจกิน พาราเซตามอลได้ถึงวันละ 2.5 กรัม
หรือ กิน ยาเม็ด 500 มก. 1 เม็ด วันละไม่เกิน 5 ครั้ง
ความเชื่อที่ผิด เป็นโรคตับ ห้ามกินพาราเซตามอล
หลายคนที่เป้นโรคตับอักเสบ หรือ โรคตับแข็ง อาจเคยได้ยิน หรือ รู้สึกว่า
ยาพาราเซตามอล มีพิษต่อตับ ก็คิดกันไปเอง ว่าเป็นโรคตับห้ามกินยาพารา
ซึ่งอันตรายมาก ครับ เพราะเมื่อปวด หรือไข้ไม่กินยาพารา แล้วจะไปกิน
ยาแก้ปวดอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ หรือ ย่อว่า NSAIDs ซึ่ง
ได้แก่ยา ไอบูโพเฟน ไดโคฟีแนค ไพร็อกซิแึคม เป็นต้น
ซึ่งยานี้เป็นอันตรายมากต่อโรคตับแข็ง อาจเกิดอาการข้างเคียงถึงตายได้
สมัยก่อน ตอนเรียนจบใหม่ ก็ยังเข้าใจ ผิดครับ ว่า เป็นโรคตับ ห้ามกินพาราเซตามอล
แนะนำครับ คนที่เป็นโรคตับแข็ง กินยาพาราเซตามอลได้
วันละ ไม่เกิน 1.5 กรัม หรือ 500 มก. วันละ 3 ครั้ง
คนที่เป็นโรคตับแข็ง ไม่แนะนำให้กินยาไอบูโพเฟน ไดโคฟีแนค ไพร็อกซิแึคม
เพราะ มีความเสี่ยงสูง ครับ
ส่วนโรคตับอักเสบ อาจกิน พาราเซตามอลได้ถึงวันละ 2.5 กรัม
หรือ กิน ยาเม็ด 500 มก. 1 เม็ด วันละไม่เกิน 5 ครั้ง