หลังจากที่ เรียวมะจอมหิว ได้เก็บประสบการณ์จากการตระเวนกินอาหารมาหลากหลายสัญชาติ หลายรูปแบบร้าน หลายราคา ทำกินเอง ก็คิด(เอาเอง)ว่าคงพอจะมีประสบการณ์ด้านการกิน(ไม่ใช้คำว่าชิมคับ เพราะแหลกกะจาย)มาประมาณหนึ่ง กระทู้รีวิวนี้จึงเป็นครั้งแรกของการแบ่งปันความเห็นและประสบการณ์(หลังจากที่เอาแต่พึ่งพารีวิวอื่นๆมาตลอด) โดยผมจะทะยอยรีวิวร้านต่างๆที่ได้เคยไปสัมผัส ตั้งแต่ของกินฟรีๆที่เขาแจกกันตามห้าง ไก่ย่างป๊อกๆ ร้านส้มตำหน้าตลาด ร้านขึ้นห้าง ร้านคนทำงาน ร้านฝรั่ง ทองหล่อ เหลาเยาวราช ไปจนถึงซีร็อคโคแห่งโรงแรมเลอบัว ..หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากระทู้ของ เรียวมะจอมหิว จะมอบความสุขและประโยชน์แก่ ผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อยนะคับ
ตอนที่1 มารุกาเมะ เซเมง ><" ภาพลวงตาของอาหารญี่ปุ่น
วันก่อนผมได้มีโอกาสไปที่แฟชั่นรามอินทรา ว่าจะไปหาหนังอัพเดทสักเรื่องแหละ(ปกติดูออนไลน์เอาตามเน็ทอะ) เรื่องมีอยู่ว่า กว่าหนังจะฉายก็อีกตั้งชั่วโมงนึงแน่ะ ..หลังจากที่จ่ายตั๋วไปเป็นที่เรียบร้อยก็ว่าจะหาอะไรกินรองท้อง ซักหน่อย (หันซ้ายขวา นึกในใจบ้าชะมัด --" ) วันนี้วันพุธ ตั๋วหนังลดราคาลงเหลือใบละร้อยเดียว ทำให้โซน โรงหนังและร้านค้าโดยรอบเต็มไปด้วยเด็กๆมัธยมรายได้น้อยที่แห่กันมาดูหนัง ไม่เป็นไร เอาเป็นว่าหลบไปกินที่อื่นแล้วกัน พอดีนึกได้ว่าเดินข้ามทางเชื่อม จะไปเจอ ชั้นสอง เดอะ พรอมมานาร์ด แล้วพออกจากทางเชื่อมก็พบกับร้านหนึ่งที่มีหน้าร้านสะดุดตามวกๆ "มารุกาเมะ เซเมง"
...เซเมง? เซเมง? มันจะคล้ายๆโซเมงป่าวหว่า เคยเห็นในหนังสืออาหารญี่ปุ่น(หน้าตาคล้ายๆหมี่เย็นอะ)ดูน่ากินทีเดียว เลยเดินเข้าไปดูแผงที่หน้าร้าน ว้าว..น่ากิน แต่ว่ามันคืออุด้งนะ ไม่ใช่โซเมงอะไรนั่น ระบบสั่งการของสมองยังตกอยู่ในภวังค์ของหน้าตาสินค้าที่อยู่บนแพคเกจน่าสนใจ (อุด้งเป็นชามหลัก+เลือกเครื่องได้เอง) กวาดตาดูได้แค่สองวิ พนักงานปรี่เข้ามาต้อนรับ (ต้อนแบบกูเป็นหมูเลยอะ) พนง. เชิญเข้าแถวทางโน้นเลยค่ะ (ผมไม่คิดมาก ไปเข้าแถวให้ไว) ก่อนดูหนัง พลังต้องเต็ม ><"
พนง.บอกว่าร้านนี้เป็นแบบบริการตัวเองนะคะ และเนื่องจากไม่เคยกิน พนง.เลยแนะนำเมนูยอดนิยมให้ นั่นคือ เลข 3 อุด้งร้อนแห้ง คลุกไข่อองเซง เลข 5 อุด้งหมู เลข 9 อุด้งแกงกะหรี่ (ในใจไม่อยากกินยอดนิยมอะ ขอลองตามใจละกัน) ด้วยความหิวโหย เลยเลือก เลข 2 อุด้งเย็น กับ เลข 4 อุด้งแห้ง ไข่ปลาเบนไตโกะจากนั้นก็มาเลือกเครื่องต่างๆที่เพิ่งขึ้นจากกระทะมาพักไว้ในถาด มีป้ายบอกและกำกับราคา
อีกมุม
เครื่องส่วนมากเป็นเทมปุระไม่มีอะไรใหม่เกินกว่าตามร้านญี่ปุ่นทั่วๆไป ผมเลือกเครื่องเป็น ปลาหมึกเส้น กับ เห็ดหอมเสียบไม้
และไข่อองเซน
เมื่อเลือกเครื่องเสร็จก็ถือถาดอาหารมาจ่ายเงินที่แคชเชียร์ โดยที่นี่พี่แกถามว่าจะรับน้ำแบบไหน มีให้เลือกสองน้ำ(ห้ามคิดทะลึ่งนะ><ฮาๆ) หนึ่ง รีฟิล ชาเขียว เป๊ปซี่ พันช์ น้ำเก็กฮวย น้ำใดๆ สอง น้ำเปล่า 20 บาท ผลเลือกแบบรีฟิล
จากนั้นก็คิดเงินค่าน้ำและอาหารพร้อมยื่นแก้วเปล่าให้หนึ่งใบ(ใช้ปากคาบก็ได้นะเพราะมือเต็มแล้ว) ผมต้องถือถาดอาหารและแก้วน้ำไปหาที่นั่ง ณ จุดนี้กระตุ้นให้ผมได้ความรู้สึกคล้ายกับ โรงอาหารมหาลัยมากๆ (emotion หน้าชาเหงื่อออกมือ --")
ผมหย่อนตูดอย่างไวบนโต๊ะขนาดหกคนนั่ง หิวน่ะดวก เอาล่ะ!! มาดูอาหารกัน เมนูนี้คือ อุด้งเย็น (กินแบบหมี่เย็นน่ะแหละแต่ต่างกันนิดโหน่ย) ที่นี่จะมีโซนเครื่องน้ำจิ้ม
ประกอบด้วย ขิงบด ต้นหอมซอย งาคั่ว วาซาบิสด กากเทมปุระ และพริกป่น มีป้ายแปะแนะนำการเลือกเครื่องน้ำจิ้มให้เหมาะกับอาหารของท่านด้วยนะคับ
ผมเลือก ซอยหอม คั่วงา วาซาบิสด พริกป่น กากเทมปุระ และขิงบด
เทลงไปแบบนี้ อันนี้ผมเลือก ขิงบด ซอยหอม คั่งา วาซาบิสด และพริกป่น เพิ่มความสดชื่น
คนแบบนี้
แหลกล่ายแล้ว อุ๊ต๊ะ !! เส้นอุด้งที่นี่น่าจะทำมือเพราะเส้นมีความเหนียวไม่คงที่ ไม่น่าจะมาจากการใช้เครื่องแน่นอน
แล้วอีกชามก็ตามมา เมนูนี้คือ อุด้งแห้ง ไข่ปลาเบนไตโกะ ...ว้าว หน้าตาเธอสวยแบบโมเดลเลยทีเดียว
ขอพักอุด้งเย็นไว้ก่อนนะ เพราะมันเย็นอยู่แล้ว ชามนี้มาร้อนๆต้องแหลกก่อนมันจะเย็น ผมเทไข่อองเซนลงไป
ชามนี้เค็มทีเดียว ความเค็มน่าจะมาจากไข่ปลาเบไตโกะนั่น ร้อน แห้ง และเค็ม ขอลดเค็มด้วยการเทเทมปุระลงไป หน้าตาเธอเละไปแล้ว (ความสวยเป็นอนิจจังจริงๆ ขอกินความเป็นอนิจจังหน่อยเถอะ)
กินไปกินมาเริ่มเลี่ยนนะ
ผมเลยจัดพริกไปหนึ่งดอกแก้เลี่ยน
เบนไต..ชามนี้ หลังจากหายร้อนก็เหลือความ แห้งและเค็ม ..ไม่ถูกปากผมเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าเป็นรสชาติที่ใหม่ดี
หันไปเห็นน้าแล้วผมแทบคลื่นเหียน จบจาก แห้ง เค็ม มาเจอ เปียก เย็น เค็ม ดีว่ามีเผ็ดกับ ซอยหอมมาช่วยไว้
เต็มถังคับลวกเพียด เห็ดหอมเทมปุระอร่อยดีคับ สุกถึงเนื้อใน นุ่มและไม่อมน้ำมัน -"- แต่ก็ไม่คุ้มที่จะเอาแป้งกลิ่นปลาหมึกใส่ท้องลงไปให้หมด มันไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงคับ
โดยรวมราคาแพงกว่าคุณภาพของวัตถุดิบไปหน่อย แต่ก็พอรับได้ รสชาดอาหารแปลกใหม่แต่ก็ไม่ใช่ทางของผมนัก ที่น่าเศร้าคือ ระบบการบริการตัวเอง ตั้งแต่หน้าร้านที่ต้องรออาหารถือถาดเอง กดน้ำเอง เครื่องจิ้มก็วางเหมือนร้านบุฟเฟต์ เพราะระบบการบริการตนเองในร้านแบบนี้ ที่จ่ายราคาแบบนี้ไม่เหมาะกับจริตคนไทยเป็นอย่างยิ่งเลย
"มารุกาเมะ เซเมง มีดีที่อาหารรสชาดแปลกใหม่และหน้าร้านที่สวยงามให้บรรยากาศคล้ายร้านญี่ปุ่นแถวธนิยะเลยทีเดียว" . . ><"
สุดท้ายใครมีโอกาสไปโดนเมนูแนะนำของร้านนี้ก็อย่าลืมมาแบ่งปันกันนะคับ แต่สำหรับผมคงไม่ไปเยือนอีกเป็นแน่แท้ ฟัคคค!!#$@ บ้าที่สุดรอบหนังเข้าไปสิบนาทีแล้ว ฝากเก็บจานด้วยคงไม่เป็นไรนะ
โดย เรียวมะจอมหิว
[CR] ตอนที่1 มารุกาเมะ เซเมง ><" ภาพลวงตาของอาหารญี่ปุ่น โดย เรียวมะจอมหิว
ตอนที่1 มารุกาเมะ เซเมง ><" ภาพลวงตาของอาหารญี่ปุ่น
วันก่อนผมได้มีโอกาสไปที่แฟชั่นรามอินทรา ว่าจะไปหาหนังอัพเดทสักเรื่องแหละ(ปกติดูออนไลน์เอาตามเน็ทอะ) เรื่องมีอยู่ว่า กว่าหนังจะฉายก็อีกตั้งชั่วโมงนึงแน่ะ ..หลังจากที่จ่ายตั๋วไปเป็นที่เรียบร้อยก็ว่าจะหาอะไรกินรองท้อง ซักหน่อย (หันซ้ายขวา นึกในใจบ้าชะมัด --" ) วันนี้วันพุธ ตั๋วหนังลดราคาลงเหลือใบละร้อยเดียว ทำให้โซน โรงหนังและร้านค้าโดยรอบเต็มไปด้วยเด็กๆมัธยมรายได้น้อยที่แห่กันมาดูหนัง ไม่เป็นไร เอาเป็นว่าหลบไปกินที่อื่นแล้วกัน พอดีนึกได้ว่าเดินข้ามทางเชื่อม จะไปเจอ ชั้นสอง เดอะ พรอมมานาร์ด แล้วพออกจากทางเชื่อมก็พบกับร้านหนึ่งที่มีหน้าร้านสะดุดตามวกๆ "มารุกาเมะ เซเมง"
...เซเมง? เซเมง? มันจะคล้ายๆโซเมงป่าวหว่า เคยเห็นในหนังสืออาหารญี่ปุ่น(หน้าตาคล้ายๆหมี่เย็นอะ)ดูน่ากินทีเดียว เลยเดินเข้าไปดูแผงที่หน้าร้าน ว้าว..น่ากิน แต่ว่ามันคืออุด้งนะ ไม่ใช่โซเมงอะไรนั่น ระบบสั่งการของสมองยังตกอยู่ในภวังค์ของหน้าตาสินค้าที่อยู่บนแพคเกจน่าสนใจ (อุด้งเป็นชามหลัก+เลือกเครื่องได้เอง) กวาดตาดูได้แค่สองวิ พนักงานปรี่เข้ามาต้อนรับ (ต้อนแบบกูเป็นหมูเลยอะ) พนง. เชิญเข้าแถวทางโน้นเลยค่ะ (ผมไม่คิดมาก ไปเข้าแถวให้ไว) ก่อนดูหนัง พลังต้องเต็ม ><"
พนง.บอกว่าร้านนี้เป็นแบบบริการตัวเองนะคะ และเนื่องจากไม่เคยกิน พนง.เลยแนะนำเมนูยอดนิยมให้ นั่นคือ เลข 3 อุด้งร้อนแห้ง คลุกไข่อองเซง เลข 5 อุด้งหมู เลข 9 อุด้งแกงกะหรี่ (ในใจไม่อยากกินยอดนิยมอะ ขอลองตามใจละกัน) ด้วยความหิวโหย เลยเลือก เลข 2 อุด้งเย็น กับ เลข 4 อุด้งแห้ง ไข่ปลาเบนไตโกะจากนั้นก็มาเลือกเครื่องต่างๆที่เพิ่งขึ้นจากกระทะมาพักไว้ในถาด มีป้ายบอกและกำกับราคา
อีกมุม
เครื่องส่วนมากเป็นเทมปุระไม่มีอะไรใหม่เกินกว่าตามร้านญี่ปุ่นทั่วๆไป ผมเลือกเครื่องเป็น ปลาหมึกเส้น กับ เห็ดหอมเสียบไม้
และไข่อองเซน
เมื่อเลือกเครื่องเสร็จก็ถือถาดอาหารมาจ่ายเงินที่แคชเชียร์ โดยที่นี่พี่แกถามว่าจะรับน้ำแบบไหน มีให้เลือกสองน้ำ(ห้ามคิดทะลึ่งนะ><ฮาๆ) หนึ่ง รีฟิล ชาเขียว เป๊ปซี่ พันช์ น้ำเก็กฮวย น้ำใดๆ สอง น้ำเปล่า 20 บาท ผลเลือกแบบรีฟิล
จากนั้นก็คิดเงินค่าน้ำและอาหารพร้อมยื่นแก้วเปล่าให้หนึ่งใบ(ใช้ปากคาบก็ได้นะเพราะมือเต็มแล้ว) ผมต้องถือถาดอาหารและแก้วน้ำไปหาที่นั่ง ณ จุดนี้กระตุ้นให้ผมได้ความรู้สึกคล้ายกับ โรงอาหารมหาลัยมากๆ (emotion หน้าชาเหงื่อออกมือ --")
ผมหย่อนตูดอย่างไวบนโต๊ะขนาดหกคนนั่ง หิวน่ะดวก เอาล่ะ!! มาดูอาหารกัน เมนูนี้คือ อุด้งเย็น (กินแบบหมี่เย็นน่ะแหละแต่ต่างกันนิดโหน่ย) ที่นี่จะมีโซนเครื่องน้ำจิ้ม
ประกอบด้วย ขิงบด ต้นหอมซอย งาคั่ว วาซาบิสด กากเทมปุระ และพริกป่น มีป้ายแปะแนะนำการเลือกเครื่องน้ำจิ้มให้เหมาะกับอาหารของท่านด้วยนะคับ
ผมเลือก ซอยหอม คั่วงา วาซาบิสด พริกป่น กากเทมปุระ และขิงบด
เทลงไปแบบนี้ อันนี้ผมเลือก ขิงบด ซอยหอม คั่งา วาซาบิสด และพริกป่น เพิ่มความสดชื่น
คนแบบนี้
แหลกล่ายแล้ว อุ๊ต๊ะ !! เส้นอุด้งที่นี่น่าจะทำมือเพราะเส้นมีความเหนียวไม่คงที่ ไม่น่าจะมาจากการใช้เครื่องแน่นอน
แล้วอีกชามก็ตามมา เมนูนี้คือ อุด้งแห้ง ไข่ปลาเบนไตโกะ ...ว้าว หน้าตาเธอสวยแบบโมเดลเลยทีเดียว
ขอพักอุด้งเย็นไว้ก่อนนะ เพราะมันเย็นอยู่แล้ว ชามนี้มาร้อนๆต้องแหลกก่อนมันจะเย็น ผมเทไข่อองเซนลงไป
ชามนี้เค็มทีเดียว ความเค็มน่าจะมาจากไข่ปลาเบไตโกะนั่น ร้อน แห้ง และเค็ม ขอลดเค็มด้วยการเทเทมปุระลงไป หน้าตาเธอเละไปแล้ว (ความสวยเป็นอนิจจังจริงๆ ขอกินความเป็นอนิจจังหน่อยเถอะ)
กินไปกินมาเริ่มเลี่ยนนะ ผมเลยจัดพริกไปหนึ่งดอกแก้เลี่ยน
เบนไต..ชามนี้ หลังจากหายร้อนก็เหลือความ แห้งและเค็ม ..ไม่ถูกปากผมเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าเป็นรสชาติที่ใหม่ดี
หันไปเห็นน้าแล้วผมแทบคลื่นเหียน จบจาก แห้ง เค็ม มาเจอ เปียก เย็น เค็ม ดีว่ามีเผ็ดกับ ซอยหอมมาช่วยไว้
เต็มถังคับลวกเพียด เห็ดหอมเทมปุระอร่อยดีคับ สุกถึงเนื้อใน นุ่มและไม่อมน้ำมัน -"- แต่ก็ไม่คุ้มที่จะเอาแป้งกลิ่นปลาหมึกใส่ท้องลงไปให้หมด มันไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงคับ
โดยรวมราคาแพงกว่าคุณภาพของวัตถุดิบไปหน่อย แต่ก็พอรับได้ รสชาดอาหารแปลกใหม่แต่ก็ไม่ใช่ทางของผมนัก ที่น่าเศร้าคือ ระบบการบริการตัวเอง ตั้งแต่หน้าร้านที่ต้องรออาหารถือถาดเอง กดน้ำเอง เครื่องจิ้มก็วางเหมือนร้านบุฟเฟต์ เพราะระบบการบริการตนเองในร้านแบบนี้ ที่จ่ายราคาแบบนี้ไม่เหมาะกับจริตคนไทยเป็นอย่างยิ่งเลย
"มารุกาเมะ เซเมง มีดีที่อาหารรสชาดแปลกใหม่และหน้าร้านที่สวยงามให้บรรยากาศคล้ายร้านญี่ปุ่นแถวธนิยะเลยทีเดียว" . . ><"
สุดท้ายใครมีโอกาสไปโดนเมนูแนะนำของร้านนี้ก็อย่าลืมมาแบ่งปันกันนะคับ แต่สำหรับผมคงไม่ไปเยือนอีกเป็นแน่แท้ ฟัคคค!!#$@ บ้าที่สุดรอบหนังเข้าไปสิบนาทีแล้ว ฝากเก็บจานด้วยคงไม่เป็นไรนะ
โดย เรียวมะจอมหิว