คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
สัญญาร่วมทุน กับหนังสือรับสภาพหนี้
มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน
สัญญาร่วมทุนคือ ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมทุนกันทำกิจการ
หนังสือรับสภาพหนี้ คือ ฝ่ายหนึ่งเป็นหนี้ต้องชำระให้แก่อีกฝ่ายหนึ่ง
...
นักกฎหมายบางคน อาจจะเสนอให้ทำทั้ง 2 อย่าง
เพื่อที่หากเกิดปัญหาข้อพิพาทขึ้น จะได้หยิบเอาหนังสือฉบับหนึ่งมาใช้
ตามสถานการณ์
ซึ่งหากอีกฝ่ายมีทนายความที่มีฝีมือ ฝ่ายที่ใช้วิธีนี้ก็พัง
...
ทำสัญญาแบบตรงไปตรงมาดีกว่าครับ
เพียงกำหนดข้อตกลงให้ครอบคลุม รัดกุม
เมื่อเกิดปัญหาก็ไม่เสี่ยงทำผิดกฎหมาย
...
ข้อพิพาทเรื่องการเข้าหุ้นส่วนทำร้านอาหาร
ส่วนใหญ่คือการฉ้อโกงกันเรื่องรายรับ รายจ่าย
ซึ่งเมื่อจะดำเนินคดีกันฐานฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์
ก็หาพยานหลักฐานได้ลำบาก
ดังนั้น ควรระบุวิธีการตรวจสอบไว้ในสัญญาให้ดี
มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน
สัญญาร่วมทุนคือ ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมทุนกันทำกิจการ
หนังสือรับสภาพหนี้ คือ ฝ่ายหนึ่งเป็นหนี้ต้องชำระให้แก่อีกฝ่ายหนึ่ง
...
นักกฎหมายบางคน อาจจะเสนอให้ทำทั้ง 2 อย่าง
เพื่อที่หากเกิดปัญหาข้อพิพาทขึ้น จะได้หยิบเอาหนังสือฉบับหนึ่งมาใช้
ตามสถานการณ์
ซึ่งหากอีกฝ่ายมีทนายความที่มีฝีมือ ฝ่ายที่ใช้วิธีนี้ก็พัง
...
ทำสัญญาแบบตรงไปตรงมาดีกว่าครับ
เพียงกำหนดข้อตกลงให้ครอบคลุม รัดกุม
เมื่อเกิดปัญหาก็ไม่เสี่ยงทำผิดกฎหมาย
...
ข้อพิพาทเรื่องการเข้าหุ้นส่วนทำร้านอาหาร
ส่วนใหญ่คือการฉ้อโกงกันเรื่องรายรับ รายจ่าย
ซึ่งเมื่อจะดำเนินคดีกันฐานฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์
ก็หาพยานหลักฐานได้ลำบาก
ดังนั้น ควรระบุวิธีการตรวจสอบไว้ในสัญญาให้ดี
แสดงความคิดเห็น
สอบถามเรื่องการทำสัญญาเข้าหุ้นร้านอาหารครับ
(ที่มา http://www.lawyerthai.com/forum2/3298.html)
คำถาม ที่ผมสงสัยก็คือ
1. ไอ้เจ้าหนังสือรับสภาพหนี้นี่จำเป็นต้องมีมั้ยฮะ และมีไปเพื่ออะไร แล้วถ้าจำเป็นมันหมายถึงผมเป็นผู้รับสภาพหนี้ หรือเจ้าของเดิมเป็นผู้รับสภาพหนี้
2. การทำธุรกรรมต่างๆต้องดำเนินการอย่างไร (การเช่าที่ / การเปิดบัญชีขอเครื่องรูดบัตร )
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบครับ ^_^