จากนวนิยายรักอมตะเรื่องยิ่งใหญ่ของ ลักษณวดี ถ่ายทอดสู่ละครเวทีเหนือจินตนาการที่ทุกคนรอคอย ด้วยฝีมือการกำกับการแสดงของ ถกลเกียรติ วีรวรรณ
เมื่อลิขิตเเห่งโชคชะตา กำหนดเส้นทางของเธอสู่ขัตติยา
ตำนานเเห่งความรัก เเละความเสียสละ ที่จะตราตรึงไว้ทุกรุ่งอรุณ
ภายใต้สงครามระหว่างแคว้นที่กำลังสร้างความแตกแยกให้กับแผ่นดิน ความรักต้องห้ามระหว่างเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์กับนายทหารได้บังเกิดขึ้น เขาและเธอจำต้องละทิ้งหัวใจแล้วหันกลับมาทำหน้าที่กู้สถานการณ์ของบ้านเมืองให้ผ่านพ้นวิกฤตไปให้ได้
เจ้าหญิงทิพย์รัตน์ดารากุมารีเกิดมาพร้อมภาระหน้าที่ต่อแผ่นดิน หากแต่ดาราไม่เคยต้องการเป็นอื่นใด นอกจากเป็นดาราของอโณทัย คนรักผู้เป็นเพียงนายทหารพระพี่เลี้ยงของราชกุมารสิทธิประวัติ รัชทายาทแห่งแคว้นยโสธรที่หลงรักดารามานาน แต่เมื่ออโณทัยรู้ถึงความต่างชั้นของตนกับดารา จึงผลักดันให้ดาราอภิเษกสมรสกับสิทธิประวัติและช่วยขจัดอุปสรรคความรักอย่างเจ้าชายไชยยันต์ รัชทายาทแคว้นศัตรูอย่างเขมรัฐที่กำลังชิงตำแหน่งผู้นำสมาพันธรัฐกับยโสธร เจ้าชายไชยยันต์จำต้องอภิเษกกับเจ้าฟ้าหญิงแขไขจรัส คู่แข่งของดาราเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ทั้งคู่จึงสะสมความแค้นที่มีต่อดาราและอโณทัย และรอคอยวันที่จะแก้แค้นและยึดเอาแผ่นดินยโสธรไว้ในมือ
นี่คือเรื่องราวความรักแท้ที่ต้องบูชาด้วยความเสียสละ เพื่อทำหน้าที่ค้ำจุนแผ่นดินและหัวใจอันเป็นที่รัก...
เจ้าฟ้าหญิงทิพยรัตน์ดารากุมารี (ดวงดาราเเห่งยโสธร) รับบทโดย หนึ่งธิดา โสภณ
เจ้าฟ้าหญิงรัชทายาทอันดับที่ 3 เเห่งเเคว้นยโสธร ผู้เพียบพร้อมด้วยเกียรติยศเเละความสามารถเเห่งการเป็นพระราชินี ทุกคนพยายามผลักดันให้ดาราก้าวไปถึงจุดนั้น...หากเเต่หัวใจของดาราไม่เคยอยากเป็นอื่นใด นอกจากดาราของอโณทัย
อโณทัย (เเสงตะวันของดารา) รับบทโดย ธนทัต ชัยอรรถ
นายทหารหนุ่มอนาคตไกลที่ใช้ความสามารถไต่เต้าจากพระพี่เลี้ยงองค์รัชทายาทสู่ตำเเหน่งผุ้บัญชาการทหาร...เเต่ใครจะรู้ว่าทั้งหมดที่อโณทัยทำก็เพื่อสองสิ่งที่เขารักยิ่งชีพ ...เเผ่นดิน..เเละเจ้าฟ้าหญิงทิพยรัตน์ดารากุมารี
เจ้าฟ้าชายสิทธิประวัติ (พี่ชายผู้เเสนดี) รับบทโดย กรกันต์ สุทธิโกเศศ
เจ้าชายผู้อ่อนโยน รัชทายาทเเห่งเเคว้นยโสธร ในฐานะผู้สืบทอดราชบัลลังค์ เขาตั้งใจจะทำให้ทุกคนในเเผ่นดินมีความสุข เเต่กลับกลายเปฌนว่าเขาทำให้คนที่เขารักมากที่สุดทั้งสองคนต้องเป็นทุกข์
เจ้าชายไชยยันต์ (อหังการเเห่งเขมรัฐ) รับบทโดย อาณัตพล ศิริชุมเสง
ราชกุมารเเห่งเเคว้นเขมรัฐ ศัตรูที่ขับเขี่ยวเเย่งชิงความเป็นหนึ่งกับเเคว้นยโสธรมาช้านาน...เพื่อเเผ่นดินเเละบัลลังค์ เจ้าชายไชยยันต์สามารถจะทำได้ทุกอย่าง เเม้กระทั้งเชือดหัวใจตัวเองก็ตาม
เจ้าฟ้าหญิงเเขไขจรัส (จันทราใต้เมฆา) รับบทโดย กุลกรณ์พัชร์ โพธิ์ทองนาค
รัชทายาทอันดับที่2 เเห่งเเคว้นยโสธร มงกุฏราชินีคือสิ่งที่เธอมุ่งหมาย เเต่เมื่อได้มันมาครอบครอง...กลับทำให้เธอต้องเจ็บปวดทรมาน สิ่งเดียวที่เธอคิดว่าจะช่วยเยียวยาความเเค้นครั้งนี้ได้คือการกำจัดศัตรูหัวใจอย่างดารากุมารี เเม้จะต้องฝืนลิขิตชะตาก็ตาม...
เจ้าหลวงนรอินทร์ (เเสงทองเเห่งเเผ่นดิน) รับบทโดย ไพโรจน์ สังวริบุตร
เจ้าหลวงเเห่งเเคว้นยโสธร ผู้ครองเเผ่นดินที่คิดถึงประโยชน์ของเเผ่นดินเเละความสุขของประชาชนเป็นที่ตั้ง...เเต่ถึงเเม้บัลลังค์นั้นจะอยู่สูงเพียงใด ก็ไม่อาจต้านทานโชคชะตาได้
พระองค์เจ้านันทวดี (อดีตราชินีผู้ไม่เคยเเพ้) รับบทโดย รัดเกล้า อามระดิษ
อดีตเจ้านางหลวงเเห่งยโสธรที่เหลือทิ้งไว้เพียงอดีตที่เจ็บปวด การไขว่คว้าหามงกุฏราชินีให้กับเจ้าหญิงเเขไขคือสิ่งที่ต้องทำ เพื่อหวนคืนสู่อำนาจเเห่งบัลลังค์ทอง ไม่ว่าใครหน้าไหนที่คิดขัดขวาง ก็จะต้องถูกกำจัดให้พ้นทาง
พระองค์เจ้าภาณุประภัสร์ (อดีตราชีนีผู้ทรนง) รับบทโดย นนทิยา จิวบางป่า
อดีตเจ้านางหลวงเเห่งเเคว้นยโสธร หากบัลลังค์ที่เคยครองจะเป็นหนทางเดียวที่จะทำประโยชน์ให้เเก่เเผ่นดิน การผลักดันเจ้าฟ้าหญิงทิพยรัตน์ดารากุมารีให้ขึ้นไปอยุ่บนนั้น ก็ถือเป็นหน้าที่สำคัญที่ต้องทำ
เสนาบดีกลาโหม (ดอกหญ้ายโสธร) รับบทโดย พลวัฒน์ มณูประเสริฐ
นายทหารมากประสบการณ์ ผู้ภักดีเเละซื่อสัตย์ต่อราชบัลลังค์เเห่งเเคว้นยโสธร...ไม่ว่าจะผ่านกี่ร้อนหนาวก็มิอาจทำให้เลือดรักชาติที่มีอยุ่ในกายนั้นจืดจางลงได้
--------------
ปาฎิหารย์อีกครั้ง
-คุกหลวงเมืองยโสธร หลังจากพิจารณาตัดสินโทษ อโณทัยนั่งมองเเหวนที่นิ้ว ย้อนคิดไปถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาของตัวเองกับดารา เสียงฝีเท้าดังเข้ามาก่อนจะหยุดลงที่ตรงหน้าอโณทัย อโณทัยเงยหน้าขึ้นมองสบตา ดารามองอโณทัยด้วยความขมขื่น อโณทัยทำความเคารพ เเต่ดารารีบพูดขึ้นมาก่อน
ดารา : วันนี้ฉันมาในฐานะ ดาราของอโณทัย
-ทั้งสองมองกันสักพัก ก่อนที่อโณทัยจะทนไม่ไหวดึงดาราเข้ามาสวมกอด ดาราร้องไห้ออกมาอย่างกลั่นไม่เอาไว้อยู่
อโณทัย : ที่จริง...ก็อยากทำอย่างนั้น เเต่อโณทัยทำไม่ได้ เมื่อวางอะไรไว้ในที่ที่สูงที่สุด ก็ต้องให้ผุดผ่องปราศจากมลทิน
ดารา : อโณทัย... หนีไปได้ไหม ดาราขอร้องให้มีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อดารา
-อโณทัยดันตัวดาราออกมา กุมมือดาราไว้เเน่น พยายามฝืนยิ้ม ก่อนจะส่ายหน้า
อโณทัย : "ดาราคือคนที่รู้ใจอโณทัยที่สุด ดารารู้ว่าอโณทัยจะไม่มีวันทำอย่างนั้น...สำหรับทหารการตายเพื่อเเผ่นดินอย่างมีเกียรติ
ย่อมดีกว่าหนีไปให้คนตราหน้าว่าเป็นผุ้ทรยศต่อบ้านเมือง เเละสำหรับคนที่อโณทัยรัก ถ้าชีวิตของผู้ชายคนนี้จะสามารถ
ปกป้องเค้าไว้ได้ อโณทัยก็พร้อมจะทำโดยไม่ลังเล"
ดารา : "เเต่ดาราไม่ต้องการอย่างนั้น..."
อโณทัย : " สำหรับอโณทัย เมื่อรู้ว่าต้องตายเพื่อใคร ถึงมีทางเลือกอื่น อโณทัยก็ไม่ปราถนา
เพราะชีวิตเเรกที่พระราชินีทรงลงพระนามประหารได้ ย่อมเป้นเครื่องหมายให้คนทั้งเเคว้นรู้ว่า
ราชินีของเค้าจะไม่ทรงลังเลอีกเลยสำหรับคนที่กระทำผิด เพราะถ้าตัดหัวคนที่..คุ้นเคยกันได้ คนอื่นๆย่อมยำเกรง
-ดาราลูบใบหน้าของอโณทัยด้วยความรักอย่างที่สุด น้ำตาไหลออกมาอย่างเจ็บปวด ดาราพุดออกมาเน้นทุกคำให้อโณทัยได้ยิน
ดารา : ไม่ใช่คนที่เเค่คุ้นเคยหรอกอโณทัย เเต่เป็น...ชีวิตของคนที่ดารารักมากที่สุด ถ้าดาราสั่งประหารอโณทัยก็โปรดรุ้ไว้ว่าดารา
เชือดหัวใจตัวเองไปด้วย เราเปลี่ยนเเปลงอะไรไม่ได้เลยใช่มั้ย..
อโณทัย : ดารา การตายของคนๆหนึ่งก็เป้นเเค่การหลับอันยาวนาน เเละถึงจะหลับไป คนๆนั้นก็ขอสัญญาว่า เขาจะคอย...
จนกว่าคนที่เขาฝันถึงจะมานอนเคียงข้าง เพื่อร่วมอยู่ในความฝันอันเดียวกัน เเต่ก่อนที่จะถึงวันนั้น
คนที่อยุ่ข้างหลังจะต้องเข้มเเข็ง เสียลสะกายเเละใจ ยืนหยัดอยุ่ต่อไปให้ได้
ดารา : หัวใจของดาราเป็นของอโณทัย ดาราจะไม่มีใครอื่น เเละจะไม่มีวันมีใครอีก...นอกจาก อโณทัย
-ท้องสองสวมกอดกันยาวนาน ราวกับเวลาได้หยุดเอาไว้ ก่อนดาราจะเอ่ยขึ้นด้วยความน้อยใจในโชคชะตาที่เกิดขึ้น
ดารา :
ปาฏิหาริย์ยามรุ่งอรุณ ยังมีอยู่จริงบ้างไหม
ปาฏิหาริย์เคียงคู่ดาราตะวันได้แปรเปลี่ยนผัน
อโณทัย :
หมดเวลาอรุณของฉัน (ดารา: หมดเวลาสองเรา)
หมดเวลาทอแสงรุ่งสาง (ดารา: มืดมนนภา)
ดารา :
แสงตะวันที่เคยนำทางให้ดาราคู่เคียงประสานนั้นต้องพลันลับไป
อโณทัย :
ปาฎิหารย์ยามรุ่งอรุณ ทาบทอปรากฏบนฟ้า
ปาฏิหาริย์คืนวันเวลา จะพานให้มาพบกัน
อาจจะลาเลือนลับดับหาย (ดารา: จากกันไกลแสนไกล)
แต่จะมาพบกันอีกครั้ง (ดารา: ให้ได้มาพบกัน)
ดารา/อโณทัย :
ให้ดาราและดวงตะวันสานสัมพันธ์สร้างปาฏิหารย์ ในรุ่งอรุณของเรา
อโณทัย : “พรุ่งนี้เราจะได้พบกันอีก แม้...พรุ่งนี้มันจะมีหรือไม่มีก็ตาม
ดารา..ชั่วชีวิตของอโณทัยรักดาราเพียงคนเดียว รักยิ่งกว่าชีวิตของตัวเอง ขอให้ดาราจำเอาไว้”
ดารา : “ดาราจะจำทุกคำ ทุกวรรค ทุกตอน ไม่มีวันลืม..”
-อโณทัยค่อยๆประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากของดารา ก่อนจะค่อยๆปาดน้ำตาที่อาบแก้มให้ผู้หญิงที่เค้ารักมากที่สุดอย่างเบามือ ดารายิ้มทั้งน้ำตา ก่อนจะสวมกอดอโณทัย /แสงอรุณค่อยๆเบิกท้องนภา อโณทัยมองแสงดาวประกายพรึกที่ค่อยๆจะลับหายไป แล้วกอดกระชับดาราแน่นขึ้นอย่างใจหายพลางเหม่อมองท้องฟ้า
อโณทัย : “กฎของธรรมชาติเป็นอย่างนี้เสมอ เมื่อตะวันทอแสง ดาราก็จะเลือนหายไป ตะวันจึงต้องดับแสงของตัวเองให้มืดมิด
เพื่อให้ดาราได้เปล่งประกายงดงามบนท้องนภา”
ดารา : “อโณทัย...หมดเวลาของเราแล้วใช่มั้ย”
-ดาราที่ซบอยู่ที่อกของอโณทัยเงยหน้ามองท้องฟ้าที่กำลังจะสว่างด้วยแสงของดวงอาทิตย์ ก่อนจะหันมาสบตาอโณทัยด้วยความอาลัยอย่างใจหาย แล้วน้ำตาค่อยเอ่อไหล อโณทัยปาดน้ำตาที่แก้มดาราอย่างบรรจง
อโณทัย : “สัญญากับอโณทัยนะ ว่าต่อไปนี้ราชินีของยโสธรจะต้องไม่ร้องไห้ให้ใครเห็น”
ดารา : “ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะหัวใจของดาราจะตายไปพร้อมกับอโณทัย
ต่อจากนี้ชีวิตที่เหลือของดาราจะไม่ได้อยู่เพื่อตัวเอง แต่จะอยู่เพื่อแผ่นดินยโสธร อยู่เพื่อความหวังของอโณทัย”
-อโณทัยยิ้มด้วยความตื้นตัน ก่อนจะคลายอ้อมกอด แต่มือยังจับกันไว้แน่น ดาราน้ำตาคลอ แต่พยายามแข็งใจไม่ร้องให้อีก แม้รู้สึกเหมือนหัวใจกำลังจะสลายลงไป เสียงที่พูดออกไปเบาหวิวเหมือนคนกำลังจะขาดใจ
ดารา : “ลาก่อน...อโณทัย...”
-ท้ายเสียงของดาราขาดหายไปในลำคออย่างพูดไม่ออกอีก
อโณทัย : “ลาก่อน...ดารา..”
-ดาราจับมืออโณทัยไว้แน่นก่อนจะค่อยๆปล่อยมือออกจากกันอย่างอาลัยอาวรณ์ มือทั้งสองค่อยๆเลื่อนห่างจากกันเหลือแค่ปลายนิ้วสัมผัสกันเบาๆ ก่อนแยกออกจากัน ทหารเดินเข้ามารอ ดาราตัดใจเดินตามทหารออกไปโดยไม่หันกลับไปมอง เม้มปากฝืนใจไม่ร้องให้อีกตามสัญญา
อโณทัยทรุดลง มือกำเกร็งแน่น มองดาราที่เดินออกไปจนลับสายตา น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาเหมือนหัวใจกำลังแหลกสาย ก่อนจะมองแหวนที่สวมไว้
อโณทัย :
“ดอกหญ้ายโสธรดอกนี้ ขอมอบชีวาเพื่อปกป้องค้ำจุนบัลลังค์...
เพื่อรุ่งอรุณของวันใหม่ เพื่อรุ่งอรุณของเเผ่นดิน เพื่อรุ่งอรุณของดวงดารา...”
------
-ดาราในชุดราชพิธีสีดำ เดินอย่างสง่างามไปตามทางเดิน เสียงโห่ร้องสรรเสริญดังขึ้นจากทั่วสารทิศ เเต่ดาราเองกลับไปไม่ได้ยินเสียงใด ใบหน้าที่เรียบสนิท เฉยเมย ราวกับดาราน้อยดวงนั้นได้จากไปตลอดกาล
ดารา : จากวันนี้..เเผ่นดินนี้ จะอยู่ยังยืนคู่เเผ่นฟ้า เหล่าประชา จะอยู่ด้วยความสงบสุขอย่างยั่งยืน หนึ่งชีวิตที่ยอมพลี เพื่อปกป้องเเผ่นดิน เเม้ดอกหญ้าดอกหนึ่งจะโรยราลงไป เเต่ดอกใหม่จะผลิบานขึ้นมาทดเเทน ขอให้จงระลึกไว้เสมอว่า เเผ่นดินยังยืนยงอยูได้ เพราะมีชีวิตของผู้ภักดีเป็นเครื่องค้ำจุน...
>>ตามอ่านต่อได้ด่านล่างเลยครับ
เเต่งขึ้นมาเพราะความฟินหลังจากที่ไปงานเเถลงข่าวจริงๆ
เเละขอบคุณรูปภาพประกอบสวยๆจาก คุณ bumb iMKS เเละคุณอินโถ
เลือดขัตติยา เดอะมิวสิคัล **ลิขิตเเห่งโชคชะตา กำหนดเส้นทางสู่ขัตติยา**
เมื่อลิขิตเเห่งโชคชะตา กำหนดเส้นทางของเธอสู่ขัตติยา
ตำนานเเห่งความรัก เเละความเสียสละ ที่จะตราตรึงไว้ทุกรุ่งอรุณ
ภายใต้สงครามระหว่างแคว้นที่กำลังสร้างความแตกแยกให้กับแผ่นดิน ความรักต้องห้ามระหว่างเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์กับนายทหารได้บังเกิดขึ้น เขาและเธอจำต้องละทิ้งหัวใจแล้วหันกลับมาทำหน้าที่กู้สถานการณ์ของบ้านเมืองให้ผ่านพ้นวิกฤตไปให้ได้
เจ้าหญิงทิพย์รัตน์ดารากุมารีเกิดมาพร้อมภาระหน้าที่ต่อแผ่นดิน หากแต่ดาราไม่เคยต้องการเป็นอื่นใด นอกจากเป็นดาราของอโณทัย คนรักผู้เป็นเพียงนายทหารพระพี่เลี้ยงของราชกุมารสิทธิประวัติ รัชทายาทแห่งแคว้นยโสธรที่หลงรักดารามานาน แต่เมื่ออโณทัยรู้ถึงความต่างชั้นของตนกับดารา จึงผลักดันให้ดาราอภิเษกสมรสกับสิทธิประวัติและช่วยขจัดอุปสรรคความรักอย่างเจ้าชายไชยยันต์ รัชทายาทแคว้นศัตรูอย่างเขมรัฐที่กำลังชิงตำแหน่งผู้นำสมาพันธรัฐกับยโสธร เจ้าชายไชยยันต์จำต้องอภิเษกกับเจ้าฟ้าหญิงแขไขจรัส คู่แข่งของดาราเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ทั้งคู่จึงสะสมความแค้นที่มีต่อดาราและอโณทัย และรอคอยวันที่จะแก้แค้นและยึดเอาแผ่นดินยโสธรไว้ในมือ นี่คือเรื่องราวความรักแท้ที่ต้องบูชาด้วยความเสียสละ เพื่อทำหน้าที่ค้ำจุนแผ่นดินและหัวใจอันเป็นที่รัก...
เจ้าฟ้าหญิงทิพยรัตน์ดารากุมารี (ดวงดาราเเห่งยโสธร) รับบทโดย หนึ่งธิดา โสภณ
เจ้าฟ้าหญิงรัชทายาทอันดับที่ 3 เเห่งเเคว้นยโสธร ผู้เพียบพร้อมด้วยเกียรติยศเเละความสามารถเเห่งการเป็นพระราชินี ทุกคนพยายามผลักดันให้ดาราก้าวไปถึงจุดนั้น...หากเเต่หัวใจของดาราไม่เคยอยากเป็นอื่นใด นอกจากดาราของอโณทัย
อโณทัย (เเสงตะวันของดารา) รับบทโดย ธนทัต ชัยอรรถ
นายทหารหนุ่มอนาคตไกลที่ใช้ความสามารถไต่เต้าจากพระพี่เลี้ยงองค์รัชทายาทสู่ตำเเหน่งผุ้บัญชาการทหาร...เเต่ใครจะรู้ว่าทั้งหมดที่อโณทัยทำก็เพื่อสองสิ่งที่เขารักยิ่งชีพ ...เเผ่นดิน..เเละเจ้าฟ้าหญิงทิพยรัตน์ดารากุมารี
เจ้าฟ้าชายสิทธิประวัติ (พี่ชายผู้เเสนดี) รับบทโดย กรกันต์ สุทธิโกเศศ
เจ้าชายผู้อ่อนโยน รัชทายาทเเห่งเเคว้นยโสธร ในฐานะผู้สืบทอดราชบัลลังค์ เขาตั้งใจจะทำให้ทุกคนในเเผ่นดินมีความสุข เเต่กลับกลายเปฌนว่าเขาทำให้คนที่เขารักมากที่สุดทั้งสองคนต้องเป็นทุกข์
เจ้าชายไชยยันต์ (อหังการเเห่งเขมรัฐ) รับบทโดย อาณัตพล ศิริชุมเสง
ราชกุมารเเห่งเเคว้นเขมรัฐ ศัตรูที่ขับเขี่ยวเเย่งชิงความเป็นหนึ่งกับเเคว้นยโสธรมาช้านาน...เพื่อเเผ่นดินเเละบัลลังค์ เจ้าชายไชยยันต์สามารถจะทำได้ทุกอย่าง เเม้กระทั้งเชือดหัวใจตัวเองก็ตาม
เจ้าฟ้าหญิงเเขไขจรัส (จันทราใต้เมฆา) รับบทโดย กุลกรณ์พัชร์ โพธิ์ทองนาค
รัชทายาทอันดับที่2 เเห่งเเคว้นยโสธร มงกุฏราชินีคือสิ่งที่เธอมุ่งหมาย เเต่เมื่อได้มันมาครอบครอง...กลับทำให้เธอต้องเจ็บปวดทรมาน สิ่งเดียวที่เธอคิดว่าจะช่วยเยียวยาความเเค้นครั้งนี้ได้คือการกำจัดศัตรูหัวใจอย่างดารากุมารี เเม้จะต้องฝืนลิขิตชะตาก็ตาม...
เจ้าหลวงนรอินทร์ (เเสงทองเเห่งเเผ่นดิน) รับบทโดย ไพโรจน์ สังวริบุตร
เจ้าหลวงเเห่งเเคว้นยโสธร ผู้ครองเเผ่นดินที่คิดถึงประโยชน์ของเเผ่นดินเเละความสุขของประชาชนเป็นที่ตั้ง...เเต่ถึงเเม้บัลลังค์นั้นจะอยู่สูงเพียงใด ก็ไม่อาจต้านทานโชคชะตาได้
พระองค์เจ้านันทวดี (อดีตราชินีผู้ไม่เคยเเพ้) รับบทโดย รัดเกล้า อามระดิษ
อดีตเจ้านางหลวงเเห่งยโสธรที่เหลือทิ้งไว้เพียงอดีตที่เจ็บปวด การไขว่คว้าหามงกุฏราชินีให้กับเจ้าหญิงเเขไขคือสิ่งที่ต้องทำ เพื่อหวนคืนสู่อำนาจเเห่งบัลลังค์ทอง ไม่ว่าใครหน้าไหนที่คิดขัดขวาง ก็จะต้องถูกกำจัดให้พ้นทาง
พระองค์เจ้าภาณุประภัสร์ (อดีตราชีนีผู้ทรนง) รับบทโดย นนทิยา จิวบางป่า
อดีตเจ้านางหลวงเเห่งเเคว้นยโสธร หากบัลลังค์ที่เคยครองจะเป็นหนทางเดียวที่จะทำประโยชน์ให้เเก่เเผ่นดิน การผลักดันเจ้าฟ้าหญิงทิพยรัตน์ดารากุมารีให้ขึ้นไปอยุ่บนนั้น ก็ถือเป็นหน้าที่สำคัญที่ต้องทำ
เสนาบดีกลาโหม (ดอกหญ้ายโสธร) รับบทโดย พลวัฒน์ มณูประเสริฐ
นายทหารมากประสบการณ์ ผู้ภักดีเเละซื่อสัตย์ต่อราชบัลลังค์เเห่งเเคว้นยโสธร...ไม่ว่าจะผ่านกี่ร้อนหนาวก็มิอาจทำให้เลือดรักชาติที่มีอยุ่ในกายนั้นจืดจางลงได้
--------------
ปาฎิหารย์อีกครั้ง
-คุกหลวงเมืองยโสธร หลังจากพิจารณาตัดสินโทษ อโณทัยนั่งมองเเหวนที่นิ้ว ย้อนคิดไปถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาของตัวเองกับดารา เสียงฝีเท้าดังเข้ามาก่อนจะหยุดลงที่ตรงหน้าอโณทัย อโณทัยเงยหน้าขึ้นมองสบตา ดารามองอโณทัยด้วยความขมขื่น อโณทัยทำความเคารพ เเต่ดารารีบพูดขึ้นมาก่อน
ดารา : วันนี้ฉันมาในฐานะ ดาราของอโณทัย
-ทั้งสองมองกันสักพัก ก่อนที่อโณทัยจะทนไม่ไหวดึงดาราเข้ามาสวมกอด ดาราร้องไห้ออกมาอย่างกลั่นไม่เอาไว้อยู่
อโณทัย : ที่จริง...ก็อยากทำอย่างนั้น เเต่อโณทัยทำไม่ได้ เมื่อวางอะไรไว้ในที่ที่สูงที่สุด ก็ต้องให้ผุดผ่องปราศจากมลทิน
ดารา : อโณทัย... หนีไปได้ไหม ดาราขอร้องให้มีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อดารา
-อโณทัยดันตัวดาราออกมา กุมมือดาราไว้เเน่น พยายามฝืนยิ้ม ก่อนจะส่ายหน้า
อโณทัย : "ดาราคือคนที่รู้ใจอโณทัยที่สุด ดารารู้ว่าอโณทัยจะไม่มีวันทำอย่างนั้น...สำหรับทหารการตายเพื่อเเผ่นดินอย่างมีเกียรติ
ย่อมดีกว่าหนีไปให้คนตราหน้าว่าเป็นผุ้ทรยศต่อบ้านเมือง เเละสำหรับคนที่อโณทัยรัก ถ้าชีวิตของผู้ชายคนนี้จะสามารถ
ปกป้องเค้าไว้ได้ อโณทัยก็พร้อมจะทำโดยไม่ลังเล"
ดารา : "เเต่ดาราไม่ต้องการอย่างนั้น..."
อโณทัย : " สำหรับอโณทัย เมื่อรู้ว่าต้องตายเพื่อใคร ถึงมีทางเลือกอื่น อโณทัยก็ไม่ปราถนา
เพราะชีวิตเเรกที่พระราชินีทรงลงพระนามประหารได้ ย่อมเป้นเครื่องหมายให้คนทั้งเเคว้นรู้ว่า
ราชินีของเค้าจะไม่ทรงลังเลอีกเลยสำหรับคนที่กระทำผิด เพราะถ้าตัดหัวคนที่..คุ้นเคยกันได้ คนอื่นๆย่อมยำเกรง
-ดาราลูบใบหน้าของอโณทัยด้วยความรักอย่างที่สุด น้ำตาไหลออกมาอย่างเจ็บปวด ดาราพุดออกมาเน้นทุกคำให้อโณทัยได้ยิน
ดารา : ไม่ใช่คนที่เเค่คุ้นเคยหรอกอโณทัย เเต่เป็น...ชีวิตของคนที่ดารารักมากที่สุด ถ้าดาราสั่งประหารอโณทัยก็โปรดรุ้ไว้ว่าดารา
เชือดหัวใจตัวเองไปด้วย เราเปลี่ยนเเปลงอะไรไม่ได้เลยใช่มั้ย..
อโณทัย : ดารา การตายของคนๆหนึ่งก็เป้นเเค่การหลับอันยาวนาน เเละถึงจะหลับไป คนๆนั้นก็ขอสัญญาว่า เขาจะคอย...
จนกว่าคนที่เขาฝันถึงจะมานอนเคียงข้าง เพื่อร่วมอยู่ในความฝันอันเดียวกัน เเต่ก่อนที่จะถึงวันนั้น
คนที่อยุ่ข้างหลังจะต้องเข้มเเข็ง เสียลสะกายเเละใจ ยืนหยัดอยุ่ต่อไปให้ได้
ดารา : หัวใจของดาราเป็นของอโณทัย ดาราจะไม่มีใครอื่น เเละจะไม่มีวันมีใครอีก...นอกจาก อโณทัย
-ท้องสองสวมกอดกันยาวนาน ราวกับเวลาได้หยุดเอาไว้ ก่อนดาราจะเอ่ยขึ้นด้วยความน้อยใจในโชคชะตาที่เกิดขึ้น
ดารา : ปาฏิหาริย์ยามรุ่งอรุณ ยังมีอยู่จริงบ้างไหม
ปาฏิหาริย์เคียงคู่ดาราตะวันได้แปรเปลี่ยนผัน
อโณทัย : หมดเวลาอรุณของฉัน (ดารา: หมดเวลาสองเรา)
หมดเวลาทอแสงรุ่งสาง (ดารา: มืดมนนภา)
ดารา : แสงตะวันที่เคยนำทางให้ดาราคู่เคียงประสานนั้นต้องพลันลับไป
อโณทัย : ปาฎิหารย์ยามรุ่งอรุณ ทาบทอปรากฏบนฟ้า
ปาฏิหาริย์คืนวันเวลา จะพานให้มาพบกัน
อาจจะลาเลือนลับดับหาย (ดารา: จากกันไกลแสนไกล)
แต่จะมาพบกันอีกครั้ง (ดารา: ให้ได้มาพบกัน)
ดารา/อโณทัย : ให้ดาราและดวงตะวันสานสัมพันธ์สร้างปาฏิหารย์ ในรุ่งอรุณของเรา
อโณทัย : “พรุ่งนี้เราจะได้พบกันอีก แม้...พรุ่งนี้มันจะมีหรือไม่มีก็ตาม
ดารา..ชั่วชีวิตของอโณทัยรักดาราเพียงคนเดียว รักยิ่งกว่าชีวิตของตัวเอง ขอให้ดาราจำเอาไว้”
ดารา : “ดาราจะจำทุกคำ ทุกวรรค ทุกตอน ไม่มีวันลืม..”
-อโณทัยค่อยๆประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากของดารา ก่อนจะค่อยๆปาดน้ำตาที่อาบแก้มให้ผู้หญิงที่เค้ารักมากที่สุดอย่างเบามือ ดารายิ้มทั้งน้ำตา ก่อนจะสวมกอดอโณทัย /แสงอรุณค่อยๆเบิกท้องนภา อโณทัยมองแสงดาวประกายพรึกที่ค่อยๆจะลับหายไป แล้วกอดกระชับดาราแน่นขึ้นอย่างใจหายพลางเหม่อมองท้องฟ้า
อโณทัย : “กฎของธรรมชาติเป็นอย่างนี้เสมอ เมื่อตะวันทอแสง ดาราก็จะเลือนหายไป ตะวันจึงต้องดับแสงของตัวเองให้มืดมิด
เพื่อให้ดาราได้เปล่งประกายงดงามบนท้องนภา”
ดารา : “อโณทัย...หมดเวลาของเราแล้วใช่มั้ย”
-ดาราที่ซบอยู่ที่อกของอโณทัยเงยหน้ามองท้องฟ้าที่กำลังจะสว่างด้วยแสงของดวงอาทิตย์ ก่อนจะหันมาสบตาอโณทัยด้วยความอาลัยอย่างใจหาย แล้วน้ำตาค่อยเอ่อไหล อโณทัยปาดน้ำตาที่แก้มดาราอย่างบรรจง
อโณทัย : “สัญญากับอโณทัยนะ ว่าต่อไปนี้ราชินีของยโสธรจะต้องไม่ร้องไห้ให้ใครเห็น”
ดารา : “ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะหัวใจของดาราจะตายไปพร้อมกับอโณทัย
ต่อจากนี้ชีวิตที่เหลือของดาราจะไม่ได้อยู่เพื่อตัวเอง แต่จะอยู่เพื่อแผ่นดินยโสธร อยู่เพื่อความหวังของอโณทัย”
-อโณทัยยิ้มด้วยความตื้นตัน ก่อนจะคลายอ้อมกอด แต่มือยังจับกันไว้แน่น ดาราน้ำตาคลอ แต่พยายามแข็งใจไม่ร้องให้อีก แม้รู้สึกเหมือนหัวใจกำลังจะสลายลงไป เสียงที่พูดออกไปเบาหวิวเหมือนคนกำลังจะขาดใจ
ดารา : “ลาก่อน...อโณทัย...”
-ท้ายเสียงของดาราขาดหายไปในลำคออย่างพูดไม่ออกอีก
อโณทัย : “ลาก่อน...ดารา..”
-ดาราจับมืออโณทัยไว้แน่นก่อนจะค่อยๆปล่อยมือออกจากกันอย่างอาลัยอาวรณ์ มือทั้งสองค่อยๆเลื่อนห่างจากกันเหลือแค่ปลายนิ้วสัมผัสกันเบาๆ ก่อนแยกออกจากัน ทหารเดินเข้ามารอ ดาราตัดใจเดินตามทหารออกไปโดยไม่หันกลับไปมอง เม้มปากฝืนใจไม่ร้องให้อีกตามสัญญา
อโณทัยทรุดลง มือกำเกร็งแน่น มองดาราที่เดินออกไปจนลับสายตา น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาเหมือนหัวใจกำลังแหลกสาย ก่อนจะมองแหวนที่สวมไว้
อโณทัย :
“ดอกหญ้ายโสธรดอกนี้ ขอมอบชีวาเพื่อปกป้องค้ำจุนบัลลังค์...
เพื่อรุ่งอรุณของวันใหม่ เพื่อรุ่งอรุณของเเผ่นดิน เพื่อรุ่งอรุณของดวงดารา...”
------
-ดาราในชุดราชพิธีสีดำ เดินอย่างสง่างามไปตามทางเดิน เสียงโห่ร้องสรรเสริญดังขึ้นจากทั่วสารทิศ เเต่ดาราเองกลับไปไม่ได้ยินเสียงใด ใบหน้าที่เรียบสนิท เฉยเมย ราวกับดาราน้อยดวงนั้นได้จากไปตลอดกาล
ดารา : จากวันนี้..เเผ่นดินนี้ จะอยู่ยังยืนคู่เเผ่นฟ้า เหล่าประชา จะอยู่ด้วยความสงบสุขอย่างยั่งยืน หนึ่งชีวิตที่ยอมพลี เพื่อปกป้องเเผ่นดิน เเม้ดอกหญ้าดอกหนึ่งจะโรยราลงไป เเต่ดอกใหม่จะผลิบานขึ้นมาทดเเทน ขอให้จงระลึกไว้เสมอว่า เเผ่นดินยังยืนยงอยูได้ เพราะมีชีวิตของผู้ภักดีเป็นเครื่องค้ำจุน...
>>ตามอ่านต่อได้ด่านล่างเลยครับ
เเต่งขึ้นมาเพราะความฟินหลังจากที่ไปงานเเถลงข่าวจริงๆ เเละขอบคุณรูปภาพประกอบสวยๆจาก คุณ bumb iMKS เเละคุณอินโถ