เมื่อวานเย็น ได้เปิดเข้าไปที่เว็บไซต์เสมสิกขาลัยค่ะ เจอบทความหนึ่ง รู้สึกว่าดีมากๆ
จึงอยากจะขออนุญาตนำมาแบ่งปันให้เพื่อนๆน้องๆในพันทิบ
"เข้าใจและเปลี่ยนแปลงชีวิต ...หยุดคิดสร้างทุกข์ให้ตัวเอง"
เขียนโดย : อนุสรา ทองอุไร. โพสต์ทูเดย์ (12 เมษายน 2548) หน้า C8.
ที่มา : เว็บไซต์เขมสิกขาลัย
คุณเชื่อหรือไม่ว่า คนเรานั้นสามารถคิดให้ตัวเองเป็นทุกข์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ หลายครั้งเหลือเกินที่เราเป็นผู้ที่ทำให้ตัวเราเองทุกข์ด้วยความคิดที่ไม่ใคร่จะเข้าท่าของตัวเราเอง
บ่อยครั้งที่เหตุการณ์ธรรมดาเกิดขึ้นกับเรา และเรามองให้เป็นทุกข์ ก็ทุกข์ ถ้าเรามองให้เป็นสุข ก็สุขได้ โบราณเขาถึงกล่าวไว้ว่าสุขทุกข์อยู่ที่ใจ แค่เปลี่ยนมุมมองความคิดก็อาจเปลี่ยนได้ มนุษย์เรามักไม่ใคร่จะรู้ว่า อานุภาพยิ่งใหญ่แห่งความคิดของเรานั้น มีอิทธิพลต่อชีวิตจะทำร้ายทำลายความทุกข์และสุขของเราอย่างไรได้บ้าง
เมื่อใดที่เรามีความเศร้าเซ็งเบื่อหน่ายในชีวิต และเราลองนำความคิดของเรามาวิเคราะห์ดู จะพบว่าอารมณ์ที่เศร้าเซ็งของเรา มักจะเกิดจากความคิดที่ทำให้เราทุกข์ทั้งสิ้น สมมติว่ายกตัวอย่างในเรื่องที่ใกล้ตัวที่สุดเพียงแค่เรื่องคนรักของเราไม่โทรศัพท์มา และเราคิดว่าเขาคงจะติดธุระ หรือหาเวลาโทรมาไม่ได้ เราก็จะไม่โกรธ ไม่ทุรนทุรายใจ เพราะนั่นเป็นการมองโลกในแง่ดี ลองถอยกลับไปมองมุมของเขาบ้างว่า เขาก็ต้องทำงาน ต้องมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำเหมือนกัน แต่ถ้าเรามองโลกในแง่ลบแง่ร้ายก็จะคิดไปว่า เขาไม่สนใจเราอีกต่อไป เราก็จะนั่งเศร้าเสียใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับก็เป็นได้
ดังจะเห็นได้ว่า เหตุการณ์ไม่โทรศัพท์มาเพียงอย่างเดียว ไม่อาจทำให้เราทุกข์หรือสุขได้ด้วยตัวของมันเองอย่างแน่นอน ถ้าไม่ผ่านกระบวนการทางความคิดด้านบวกหรือด้านลบของตัวเรา ยิ่งไปกว่านั้นถ้าคนที่มีธรรมชาติที่ชอบคิดอะไรทางลบอยู่เสมอ คงไม่ต้องสงสัยเลยว่าชีวิตเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานกับเรื่องของความคิดที่ทำร้ายจิตใจเขาอยู่เสมอ
ลองมาแยกแยะเป็นหัวข้อกันดูบ้างว่า ความคิดที่ทำให้คนเรามีความทุกข์มีอะไรบ้าง? เลือกแต่หัวข้อใหญ่ๆ มาก็พอ แต่ก่อนที่จะตอบคำถามข้อนี้ขอเล่าเรื่องให้คุณได้ฟังสักเรื่องหนึ่งเป็นเรื่องง่ายๆ ใกล้ๆ ตัวที่อาจเกิดกับใครก็ได้ เป็นเรื่องของหญิงชายคู่หนึ่ง เป็นคู่รักที่วางแผนจะแต่งงานกันเมื่อทั้งคู่เก็บเงินได้สักก้อนหนึ่งเตรียมพร้อมที่จะแต่งงานกันอยู่แล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ ปรากฎว่า ฝ่ายชายเกิดไปเจอผู้หญิงคนใหม่ที่ถูกใจกว่า เมื่อฝ่ายหญิงรู้เรื่องเข้า เธอผิดหวังและเสียใจในตัวฝ่ายชายมาก เมื่อเธอเลิกกับเขา เธอแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ นั่งซึมเศร้ากับความพลาดหวังของชีวิต
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเรามาวิเคราะห์กระบวนการทางความคิดของฝ่ายหญิง เราจะเห็นได้ว่า ความคิดของเธอมีส่วนทำให้ชีวิตของเธอมีความทุกข์ได้อย่างมากมาย เนื่องจากฝ่ายหญิงคิดว่า "เขาไปมีคนใหม่ เขาคงไม่เห็นว่าเรามีคุณค่า เราไม่เหลืออะไรเลย ทำไมเราจึงเป็นคนโชคร้ายไม่มีใครรักเราจริง นี่หรือคือผลตอบแทนของความรัก ที่มาหลงเชื่อคนที่ไม่จริงใจเช่นนี้
ถ้าพิจารณาจากความคิดของผู้หญิง เราจะเห็นว่า มันล้วนเป็นประโยคด้านลบ ที่เธอมีต่อตัวเธอเองทั้งสิ้น จึงไม่น่าสงสัยเลยว่า ตราบใดที่เธอหมกมุ่นอยู่กับความคิดที่มีแต่ทางลบนี้อารมณ์ของเธอก็จะยิ่งซึมเศร้าผิดหวังและเสียใจ คนที่ซึมเศร้า ผิดหวังและเสียใจมักจะมีแนวคิดในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับที่ฝ่ายหญิงผู้นี้คิดทั้งสิ้นเป็นต้นว่า
Share บทความดีๆ "หยุดคิดสร้างทุกข์ให้ตัวเอง"
จึงอยากจะขออนุญาตนำมาแบ่งปันให้เพื่อนๆน้องๆในพันทิบ
"เข้าใจและเปลี่ยนแปลงชีวิต ...หยุดคิดสร้างทุกข์ให้ตัวเอง"
เขียนโดย : อนุสรา ทองอุไร. โพสต์ทูเดย์ (12 เมษายน 2548) หน้า C8.
ที่มา : เว็บไซต์เขมสิกขาลัย
คุณเชื่อหรือไม่ว่า คนเรานั้นสามารถคิดให้ตัวเองเป็นทุกข์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ หลายครั้งเหลือเกินที่เราเป็นผู้ที่ทำให้ตัวเราเองทุกข์ด้วยความคิดที่ไม่ใคร่จะเข้าท่าของตัวเราเอง
บ่อยครั้งที่เหตุการณ์ธรรมดาเกิดขึ้นกับเรา และเรามองให้เป็นทุกข์ ก็ทุกข์ ถ้าเรามองให้เป็นสุข ก็สุขได้ โบราณเขาถึงกล่าวไว้ว่าสุขทุกข์อยู่ที่ใจ แค่เปลี่ยนมุมมองความคิดก็อาจเปลี่ยนได้ มนุษย์เรามักไม่ใคร่จะรู้ว่า อานุภาพยิ่งใหญ่แห่งความคิดของเรานั้น มีอิทธิพลต่อชีวิตจะทำร้ายทำลายความทุกข์และสุขของเราอย่างไรได้บ้าง
เมื่อใดที่เรามีความเศร้าเซ็งเบื่อหน่ายในชีวิต และเราลองนำความคิดของเรามาวิเคราะห์ดู จะพบว่าอารมณ์ที่เศร้าเซ็งของเรา มักจะเกิดจากความคิดที่ทำให้เราทุกข์ทั้งสิ้น สมมติว่ายกตัวอย่างในเรื่องที่ใกล้ตัวที่สุดเพียงแค่เรื่องคนรักของเราไม่โทรศัพท์มา และเราคิดว่าเขาคงจะติดธุระ หรือหาเวลาโทรมาไม่ได้ เราก็จะไม่โกรธ ไม่ทุรนทุรายใจ เพราะนั่นเป็นการมองโลกในแง่ดี ลองถอยกลับไปมองมุมของเขาบ้างว่า เขาก็ต้องทำงาน ต้องมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำเหมือนกัน แต่ถ้าเรามองโลกในแง่ลบแง่ร้ายก็จะคิดไปว่า เขาไม่สนใจเราอีกต่อไป เราก็จะนั่งเศร้าเสียใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับก็เป็นได้
ดังจะเห็นได้ว่า เหตุการณ์ไม่โทรศัพท์มาเพียงอย่างเดียว ไม่อาจทำให้เราทุกข์หรือสุขได้ด้วยตัวของมันเองอย่างแน่นอน ถ้าไม่ผ่านกระบวนการทางความคิดด้านบวกหรือด้านลบของตัวเรา ยิ่งไปกว่านั้นถ้าคนที่มีธรรมชาติที่ชอบคิดอะไรทางลบอยู่เสมอ คงไม่ต้องสงสัยเลยว่าชีวิตเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานกับเรื่องของความคิดที่ทำร้ายจิตใจเขาอยู่เสมอ
ลองมาแยกแยะเป็นหัวข้อกันดูบ้างว่า ความคิดที่ทำให้คนเรามีความทุกข์มีอะไรบ้าง? เลือกแต่หัวข้อใหญ่ๆ มาก็พอ แต่ก่อนที่จะตอบคำถามข้อนี้ขอเล่าเรื่องให้คุณได้ฟังสักเรื่องหนึ่งเป็นเรื่องง่ายๆ ใกล้ๆ ตัวที่อาจเกิดกับใครก็ได้ เป็นเรื่องของหญิงชายคู่หนึ่ง เป็นคู่รักที่วางแผนจะแต่งงานกันเมื่อทั้งคู่เก็บเงินได้สักก้อนหนึ่งเตรียมพร้อมที่จะแต่งงานกันอยู่แล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ ปรากฎว่า ฝ่ายชายเกิดไปเจอผู้หญิงคนใหม่ที่ถูกใจกว่า เมื่อฝ่ายหญิงรู้เรื่องเข้า เธอผิดหวังและเสียใจในตัวฝ่ายชายมาก เมื่อเธอเลิกกับเขา เธอแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ นั่งซึมเศร้ากับความพลาดหวังของชีวิต
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเรามาวิเคราะห์กระบวนการทางความคิดของฝ่ายหญิง เราจะเห็นได้ว่า ความคิดของเธอมีส่วนทำให้ชีวิตของเธอมีความทุกข์ได้อย่างมากมาย เนื่องจากฝ่ายหญิงคิดว่า "เขาไปมีคนใหม่ เขาคงไม่เห็นว่าเรามีคุณค่า เราไม่เหลืออะไรเลย ทำไมเราจึงเป็นคนโชคร้ายไม่มีใครรักเราจริง นี่หรือคือผลตอบแทนของความรัก ที่มาหลงเชื่อคนที่ไม่จริงใจเช่นนี้
ถ้าพิจารณาจากความคิดของผู้หญิง เราจะเห็นว่า มันล้วนเป็นประโยคด้านลบ ที่เธอมีต่อตัวเธอเองทั้งสิ้น จึงไม่น่าสงสัยเลยว่า ตราบใดที่เธอหมกมุ่นอยู่กับความคิดที่มีแต่ทางลบนี้อารมณ์ของเธอก็จะยิ่งซึมเศร้าผิดหวังและเสียใจ คนที่ซึมเศร้า ผิดหวังและเสียใจมักจะมีแนวคิดในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับที่ฝ่ายหญิงผู้นี้คิดทั้งสิ้นเป็นต้นว่า