ต้องบอกว่าเป็นเด็ก ตจว.นะคะ แต่ทำงานที่ กทม.ในระดับบริหาร ที่อ้างอิงระดับเพียงเพื่อจะเกริ่นให้ทราบว่ากำลังเปรียบเทียบ ปกติเป็นคนเรียนเก่งค่ะ ทำงานจะค่อยๆปรับระดับมาเรื่อยจนทุกวันนี้ก็อยู่ในระดับอย่างที่กล่าวอ้างไป แต่ย้อนกลับมาดูว่าในสมัยเป็นเด็ก จนถึงเรียนมหาลัยมีเพื่อนไม่น้อยที่ตอนเรียนนั่งหลังห้อง โดดเรียนบ้าง เกเรบ้าง จบแบบเกรดเรี่ยราด ต่ำดิน แรกๆเข้า กทม.มาทำงานก็ก๊อกๆ แก๊กๆ ไม่ก้าวหน้า หัวไม่ไว ทำงานไม่โตในหน้าที่ กลับบ้าน อาศัยเส้นสาย วิ่งเต้นเข้าไปเป็นครูบาอาจารย์ ที่เป็นห่วงเพราะไม่ใช่คนเดียว ตอนนี้เป็นระบบแล้วใครกลับไปอยู่บ้านวิ่งเต้นฝากกันเข้า ใหม่ๆก็เป็นครูอัตราจ้าง แล้วก็ไปๆมาๆ ได้บรรจุเป็นข้าราชการ บางคนก็ยังไม่ได้ ในหมู่บ้านเป็นแบบนี้เกือบทั้งนั้น และที่สำคัญล่าสุดคนใกล้ตัว หลานสาวลูกพี่ลูกน้องกัน เป็นเด็กที่ชักมาตั้งแต่เด็ก หัวไม่ไว ทำงานอะไรไม่ได้เพราะจะเฉื่อยคิดช้า ผ่านมาหมดทั้งโรงงาน พนักงานผลิต แม้กระทั่งขายตั๋วรถทัวร์ แต่น้องเขาทำไม่ได้ กลับไปอยู่บ้าน ปี 2 ปี ตอนแรกทำนา แต่ว่าทางโรงเรียนขาดแคลนอาชีพครูก็ใช้เส้นสายเข้าไป ตอนนี้เป็นครูอัตราจ้างอยู่ค่ะ อีกหน่อยคงวิ่งเต้นบรรจุ เห็นระบบการคัดเลือกครูแบบนี้แล้วเป็นห่วงอนาคตของชาติค่ะ กลายเป็นว่าคนที่ไปเป็นครูคือคนที่ไม่มีที่ไปแล้ว คือคนที่เรียนแย่ที่สุดในรุ่นแล้วอะไรประมาณนี้ คิดเล่นๆว่าถ้าเราทำงานเกษียณแล้วไปสมัครเป็นครูสอนเด็กจะได้หรือไม่นะ ยังจะได้สร้างประโยชน์ให้กับเยาวชนบ้าง
ปล.ขออภัยท่านครูบาอาจารย์ที่ไม่ได้เข้าเกณฑ์อย่างที่ดิฉันกล่าวอ้างนะคะ เนื่องจากว่าดิฉันก็เป็นอีกคนหนึ่งที่รักคุณครูมาก สมัยก่อนคุณครูเก่งกันจัง แม้จะวุฒิแค่ ปกศ.สูง แต่สอนได้และสร้างศิษย์ได้เป็นใหญ่เป็นโตมามากมายแล้วค่ะ
เห็นระบบการเข้าเป็นครูตามต่างจังหวัดแล้วเป็นห่วงอนาคตของชาติจริงๆ
ปล.ขออภัยท่านครูบาอาจารย์ที่ไม่ได้เข้าเกณฑ์อย่างที่ดิฉันกล่าวอ้างนะคะ เนื่องจากว่าดิฉันก็เป็นอีกคนหนึ่งที่รักคุณครูมาก สมัยก่อนคุณครูเก่งกันจัง แม้จะวุฒิแค่ ปกศ.สูง แต่สอนได้และสร้างศิษย์ได้เป็นใหญ่เป็นโตมามากมายแล้วค่ะ