สิ่งที่อยู่ใน Spoil คือรายละเอียดที่มีอยู่ในเกม
เปิดฉากสืบหาตัวคนร้ายผู้ลงมือสังหารหญิงสาวปริศนา
ในอนิเมะตัดช่วงที่ฮากาคุเระเกรียนแตกทิ้งไปเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนแรกฮากาคุเระยังคงปักใจเชื่อว่าศพที่เจอเป็นศพของคิริกิริแล้วโวยวายว่าคิริกิริที่ยืนอยู่ในศาลนั้นคือผี
นาเอกิเลยพิสูจน์โดยบอกว่าคิริกิรินั้นสวมถุงมืออยู่ตลอดแต่ศพที่เจอนั้นไม่ได้สวมถุงมือ (โมโนคุมะเคยไซโคพวกคนอื่น ๆ ไว้ว่าคิริกิริสวมถุงมือเพื่อปกปิดบางอย่างที่ไม่อยากให้คนอื่นเห็น)
ฮากาคุเระยังเกรียนไม่เลิกบอกว่าถุงมันกระจุยไปเพราะถูกระเบิด
นาเอกิเลยตอกกลับไปว่าเป็นไปไม่ได้เพราะศพที่เจอมีร่องรอยของการสวมเล็บปลอม
แถมยังตัดช่วงยืนยันตัวตนศพทิ้งไปด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมื่อยืนยันว่าคิริกิริยังไม่ตายได้แล้วก็เริ่มมาถกกันต่อว่าศพศพนั้นเป็นของใครกันแน่
นาเอกิเลยบอกว่าศพที่พวกเขาเจอเป็นของ อิคุซาบะ มุคุโร่
หลักฐานก็คือรอยสักรูปหมาป่าที่หลังมือของศพซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำหน่วยรบพิเศษเฟ็นริว (คราวนี้ในเมะตัดทิ้งไปเลย)
คู่กับเอกสารประวัติของ อิคุซาบะ มุคุโร่ ที่คิริกิริซ่อนเอาไว้ในห้องนอนซึ่งระบุว่าเธอคนนั้นเป็น "สุดยอดนักเรียน ม. ปลายผู้เป็นทหารรับจ้าง"
เมื่อถึงจุดนี้โทกามิเลยหันไปหาคิริกิริแล้วบอกว่าคิริกิริน่าสงสัยเนื่องจากเธอเป็นต้นตอที่กล่าวว่ามุคุโร่เป็น "สุดยอดนักเรียน ม. ปลายแห่งความสิ้นหวัง" ทั้ง ๆ ที่ไม่มีส่วนไหนของประวัติที่ระบุคำคำนั้นอยู่เลย
คิริกิริยืนยันว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นถูกต้องแต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรมากไปกว่านั้นโมโนคุมะก็ขัดบทสนทนาเอาไว้โดยบอกว่าหยุดคุยเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับคดีได้แล้ว
เนื่องจากฮากาคุเระโวยวายว่าคนที่ฆ่าอาจจะเป็นนักเรียน ม. ปลายคนที่ 17 ก็ได้ โมโนคุมะเลยยืนยันว่าที่โรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียน ม. ปลายแค่ 16 คนเท่านั้น
ในอนิเมะมาถึงโทกามิก็ประกาศว่าคนร้ายคือคิริกิริทันทีแต่ในเกมโทกามิจะบอกว่าผู้ต้องสงสัยมีอยู่สองคนซึ่งก็คือนาเอกิกับคิริกิริที่ไม่มีพยานในช่วงเวลาที่เกิดเหตุฆาตกรรม (ซึ่งจะกลายเป็นการแข่งกันดริฟระหว่างนาเอกิกับคิริกิริแทน)
เหตุผลก็คือ โทกามิ ฮากาคุเระ ฟุคาว่า และ อาซาฮินะ นั่งแยกส่วนโมโนคุมะอยู่ด้วยกันตลอดเวลาตั้งแต่สี่ทุ่มจนถึงเก้าโมงเช้า (แม้แต่จะเข้าห้องน้ำก็ยังไปกันเป็นคู่)
นาเอกิเริ่มดริฟก่อนโดยใช้ข้อเท็จจริงที่ว่าเครื่องรดน้ำต้นไม้จะทำงานอัตโนมัติที่เวลาเจ็ดโมงครึ่งของทุกวัน
แต่เนื่องจากศพที่พบในตอนแรกนั้นอยู่ในสภาพที่แห้งสนิท นาเอกิจึงบอกว่าการฆาตกรรมนั้นจะต้องเกิดขึ้นหลังจากเจ็ดโมงครึ่งซึ่งเป็นเวลาที่นาเอกิไปรวมตัวกับคนอื่น ๆ เรียบร้อยแล้ว
แต่จะถูกขัดขึ้นมาว่าศพที่ถูกพบนั้นเปียกน้ำอยู่
ซึ่งนาเอกิจะแก้ต่างให้ตัวเองได้ว่าที่ศพเปียกน้ำเป็นเพราะพวกเขาช่วยกันดับไฟหลังจากที่ศพถูกระเบิดต่างหาก
เพราะฉะนั้นสภาพสุดท้ายของศพจึงกลายเป็นเปียกน้ำครึ่งตัวแทน
เมื่อนาเอกิหาข้อแก้ต่างให้กับตัวเองได้คิริกิริจึงตกเป็นเป้าทันที
สิ่งแรกที่คิริกิริพูดในเกมก็คือ "ถ้าฉันถูกประหารตอนนี้ปริศนาของโรงเรียนแห่งนี้ก็จะกลายเป็นความลับไปตลอดกาล... ฉันจะไม่ยอมให้มันจบลงแบบนั้นเด็ดขาด!" (แต่ในอนิเมะตัดเอาประโยคนี้ไปไว้หลัง ๆ เลย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คิริกิริประกาศตัวทันทีว่าเธอไม่ใช่ฆาตกรแล้วบอกว่าคนร้ายที่แท้จริงคือโมโนคุมะต่างหาก แต่โมโนคุมะกลับหัวเราะแล้วพูดว่าเอะอะอะไรก็โทษฉันตลอดเลยนะ
หลังจากนั้นโทกามิก็กล่าวเสริมว่าคิริกิริยังมีแรงจูงใจที่จะฆ่ามุคุโร่อยู่ด้วย สิ่ง ๆ นั้นก็คือความเชื่อที่ว่ามุคุโร่เป็นตัวการของเรื่องราวทั้งหมด ดังนั้นถ้าหากว่ามุคุโร่ตายเรื่องราวทุกอย่างก็น่าจะจบลงตามไปด้วย แต่กลับกลายเป็นว่าแท้ที่จริงแล้วมุคุโร่ไม่ใช่ตัวการ ดังนั้นศาลชั้นเรียนจึงถูกจัดขึ้นมาอีกครั้งโดยที่คิริกิริไม่ทันได้ตั้งตัวนั่นเอง
คิริกิริเลยเปิดโหมดเอาจริงโต้กลับทันทีว่าการที่ศพไม่เปียกก็ไม่ได้หมายความว่าการฆาตกรรมจะเกิดขึ้นหลังจากเจ็ดโมงครึ่ง
เพราะคนร้ายอาจจะใช้แผ่นพลาสติกคลุมศพเอาไว้ไม่ให้เปียกก็ได้ ดังนั้นพยานบุคคลของนาเอกิจึงถูกหักล้างไปทันที
ซึ่งแผ่นพลาสติกดังกล่าวถูกพบอยู่ในโรงเก็บของในสภาพที่ด้านหนึ่งเลอะแต่อีกด้านหนึ่งสะอาดซึ่งสอดคล้องกับข้อสันนิษฐานพอดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นาเอกิจะคัดค้านว่าเป็นไปไม่ได้เนื่องจากเลือดของศพยังไม่แห้งดี (โทกามิพิสูจน์เอง) ดังนั้นแผ่นพลาสติกที่พบก็ควรจะมีคราบเลือดติดอยู่ด้วย ซึ่งถ้าหากว่าคนร้ายจงใจล้างคราบเลือดออกจริง ๆ ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเหลือด้านที่สกปรกทิ้งไว้อีกด้านหนึ่งอยู่ดี
แต่คิริกิริก็ตอบกลับอย่างง่ายดายว่าเลือดที่ยังสดใหม่อยู่นั้นเป็นเลือดปลอมที่ถูกราดลงไปทีหลัง
หลักฐานก็คือไก่ที่หายไปจากเล้าหนึ่งตัว
คิริกิริกล่าวเสริมว่าที่คนร้ายไม่ใช้เลือดในห้องพยาบาลก็คงจะเป็นเพราะไม่อยากบังเอิญเดินไปเจอใครเข้าพอดีเลยใช้ของที่มีอยู่ใกล้ ๆ แทน
โทกามิตั้งข้อสงสัยว่าถ้าหากคนร้ายใช้เลือดของไก่จริง ๆ ทำไมถึงไม่มีคราบเลือดเลอะอยู่รอบ ๆ เลย
คิริกิริจึงตอบว่าคนร้ายใช้เลือดไก่ราดลงบนไปบนเสื้อคลุมที่อื่นก่อน แล้วค่อยเอาเสื้อคลุมเปื้อนเลือดมาคลุมศพในภายหลัง
หลักฐานก็คือสภาพของศพที่พบ จะเห็นได้ว่าเสื้อคลุมถูกวางทับอยู่บนศพเฉย ๆ
และเนื่องจากมีจังหวะที่นาเอกิไม่มีพยานอยู่ครู่หนึ่งระหว่างช่วงเวลาเจ็ดโมงครึ่งถึงเก้าโมง ดังนั้นคิริกิริจึงบอกว่านั่นก็เพียงพอที่จะสามารถเก็บแผ่นพลาสติกแล้วโยนเสื้อคลุมทับศพได้แล้ว
นาเอกิถึงกับอึ้งที่คิริกิริกำลังหาหลักฐานมาไล่ต้อนตัวเองทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่ใช่คนร้าย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นอกจากนี้อาซาฮินะก็นึกขึ้นมาได้อีกว่ามีดที่ปักอยู่บนศพนั้นเป็นมีดเล่มเดียวกับที่นาเอกิเก็บเอาไว้ (แต่ในอนิเมะไม่เห็นจะเหมือนเลยแฮะ )
ฮากาคุเระจะทึกทักไปเองว่านาเอกิใช้มีดเล่มนั้นสังหารมุคุโร่ แต่ก็ถูกปฏิเสธกลับไปว่ามีดถูกปักทะลุเสื้อที่คลุมศพอยู่ นอกจากนี้โมโนคุมะไฟล์ยังระบุไว้ชัดเจนว่าศพมีรอยถูกแทงแค่ครั้งเดียว ดังนั้นมีดที่ถูกนำมาปักไว้รวมไปถึงการระเบิดศพนั้นน่าจะเป็นการกระทำของคนร้ายเพื่อปกปิดสาเหตุการตายที่แท้จริงซะมากกว่า
ต้นตอของการระเบิดก็มาจากระเบิดชนิดเดียวกับที่ถูกติดตั้งในโมโนคุมะนั่นเอง
หลักฐานก็คือเศษชิ้นส่วนที่หลงเหลืออยู่ในที่เกิดเหตุ
จากข้อเท็จจริงที่ว่าคนร้ายพยายามจัดฉากให้เหมือนกับว่าอาวุธสังหารคือมีดที่นาเอกิเก็บไว้
จึงทำให้คิริกิริดูน่าสงสัยยิ่งขึ้นไปอีก
หลังจากนั้นก็มาต่อกันที่สาเหตุการตาย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เนื่องจากนาเอกิไม่เชื่อว่าคิริกิริเป็นคนร้ายจึงเสนอให้ถกกันต่อจนกว่าจะเข้าใจรูปคดีทั้งหมดโดยหวังว่าน่าจะมีจุดขัดแย้งอะไรที่จะนำมาใช้แก้ต่างให้คิริกิริได้ด้วย
สภาพศพที่ถูกระบุไว้ในโมโนคุมะไฟล์มีรายละเอียดของร่องรอยบาดแผลบนตัวศพสามรูปแบบ ได้แก่ รอยมีดเสียบหนึ่งรอยซึ่งถกกันไปแล้วว่าถูกนำมาปักในภายหลัง รอยแผลเก่าทั่วทั้งตัว และร่องรอยการถูกทุบที่ท้ายทอยด้วยของแข็งขนาดเท่าท่อเหล็กซึ่งสรุปกันว่าน่าจะเป็นสาเหตุการตายที่แท้จริง
อาวุธที่คนร้ายใช้ก็คือลูกธนูโลหะที่ถูกมัดรวมกันเป็นกลุ่มซึ่งถูกพบที่ล็อคเกอร์เก็บของในโรงฝึก
ซึ่งกุญแจของล็อคเกอร์ดังกล่าวถูกพบในห้องของคิริกิริ
โทกามิเลยยิ่งมั่นใจว่าคนร้ายจะต้องเป็นคิริกิริอย่างแน่นอน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่นาเอกิก็แทรกขึ้นมาทันทีที่โทกามิสรุปอีกครั้ง โดยบอกว่ามีเรื่องอยากจะถามคิริกิริอยู่อีก
นาเอกิถามคิริกิริว่าเธอเข้าไปทำอะไรที่ห้องของเขาเมื่อคืน คิริกิริก็ตอบว่าฉันแค่เข้าไปช่วยนาย
นาเอกิเลยเริ่มลังเลว่าคิริกิริอาจจะพลั้งมือฆ่าคนร้ายที่แอบลอบเข้ามาทำร้ายเขาก็ได้
โทกามิเลยกล่าวจบการไต่สวนโดยบอกว่าสุดท้ายคนร้ายก็คือคิริกิริอยู่ดี
แต่คิริกิริโต้กลับทันทีว่าเธอไม่ใช่คนร้ายเนื่องจากเธอให้กุญแจห้องนอนของตัวเองกับโทกามิไปแล้ว
ดังนั้นเธอจึงไม่มีทางที่จะเข้าไปเก็บกุญแจล็อคเกอร์ในห้องของตัวเองหลังจากก่อเหตุฆาตกรรมได้เลย
ถึงจุดนี้จะมีเพียงแค่นาเอกิเป็นคนเดียวที่รู้ว่าคิริกิรินั้นกำลังพูดโกหกอยู่เพื่อที่จะเอาตัวรอดให้ได้
นาเอกิจะต้องตัดสินใจว่าจะเชื่อใจคิริกิริหรือไม่
ถ้าหากไม่เชื่อใจแล้วจับเท็จคำพูดของคิริกิริก็จะเข้าแผนของโมโนคุมะแล้วนำไปสู่ Bad End ทันที
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นาเอกิจะแฉความลับเรื่องกุญแจโมโนคุมะที่คิริกิริขโมยมาจากห้อง ผอ. ให้ทุกคนรู้ เนื่องจากเป็นกุญแจที่สามารถไขประตูได้ทุกบานจึงทำให้คิริกิริสามารถเข้าไปในห้องนอนของตัวเองได้ทั้ง ๆ ที่กุญแจห้องนอนของเธอยังอยู่กับโทกามิ
คิริกิริ: ดูเหมือนว่าจะจบลงตรงนี้แล้วสินะ
โทกามิ: ยอมรับผิดแล้วรึ
คิริกิริ: เปล่า... ฉันก็แค่จะยอมรับว่าฉันแพ้
ฟุคาว่า: หมายความว่ายังไง?
คิริกิริ: รู้ทั้งรู้ว่านี่เป็นกับดักแต่ฉันก็ยังหลบมันไม่พ้น ก็คือแพ้นั่นแหละ
นาเอกิ: งั้นก็หมายความว่า... คิริกิริซัง... ไม่ใช่... คนร้าย...
โมโนคุมะ: เอ้า! หมดเวลาแล้วจ้า
หลังจากนั้นทุกคนก็ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขต่อไปในโรงเรียนโดยไม่มีการฆาตกรรมเกิดขึ้นอีกเลย
นาเอกิเลยพูดออกมาว่าศาลในรอบนี้มันไม่แปลกไปหน่อยหรอ คนถูกฆ่าก็เป็นใครก็ไม่รู้ที่พวกเขายังไม่เคยเจอตัวซะด้วยซ้ำ
แต่ก่อนที่ทุก ๆ คนจะคล้อยตามโมโนคุมะก็ประกาศหมดเวลาแล้วบังคับให้โหวตทันที
คิริกิริสรุปปิดท้ายให้ว่านาเอกิที่ไปสำรวจห้องของเธอคู่กับโทกามินั้นสามารถนำกุญแจติดตัวเข้าไปแล้วแกล้งทำเป็นเจอในห้องของเธอได้ ดังนั้นคนที่สามารถก่อเหตุฆาตกรรมในครั้งนี้ได้จึงมีแค่นาเอกิเท่านั้น (ในเกมโทกามิจะสรุปประเด็นนี้ก่อนที่โมโนคุมะจะประกาศหมดเวลา พอเปลี่ยนมาเป็นแบบนี้แทนแล้วคิริกิริดูโฉดขึ้นจม)
ทำหน้าโมโนคุมะเหงื่อตกรีบจบศาลได้เห็นภาพกว่าในเกมเยอะ
ซึ่งก็แน่นอนว่านาเอกิก็กลายเป็นคนซวยรับเคราะห์ไปโดยปริยาย
จะว่าไปการเปลี่ยนให้ศาลรอบนี้กลายไปเป็นโทกามิ VS คิริกิริ แทนที่จะเป็นนาเอกิ VS คิริกิริ ก็เป็นทางเลือกที่ดีเพราะตอนที่คิริกิริขอโทษที่ไปไล่ต้อนนาเอกิในศาลนั้นในเกมจะนาเอกิจะตอบกลับไปว่า "ไม่เป็นไรหรอกเพราะฉันเองก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน" แต่พอแปลงเป็นแบบในอนิเมะคำตอบของนาเอกิเลยหล่อขึ้นหลายเท่า "ไม่เป็นไรหรอก คนที่ผิดคือโมโนคุมะต่างหาก"
ปล. ที่รายละเอียดเกี่ยวกับหลักฐานต่างจากในเกมทั้ง ๆ ที่คดีอื่น ๆ ก็เหมือนกันแทบจะเป๊ะนี่จงใจหรือว่าเผางานกันแน่หว่า
ปล.2 อยากเห็นคนคนนั้นพูดไปเก๊กไปใน Classroom Trials ครั้งสุดท้ายซะแล้วสิ อุปุ๊ปุ๊ปุ๊ปุ๊
[Spoil] Danganronpa – The Animation ตอนที่ 11 เฉพาะในส่วนของ Classroom Trials + รายละเอียดที่ถูกตัดออกจากในเกมคร่าว ๆ
เปิดฉากสืบหาตัวคนร้ายผู้ลงมือสังหารหญิงสาวปริศนา
ในอนิเมะตัดช่วงที่ฮากาคุเระเกรียนแตกทิ้งไปเลย[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แถมยังตัดช่วงยืนยันตัวตนศพทิ้งไปด้วย[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในอนิเมะมาถึงโทกามิก็ประกาศว่าคนร้ายคือคิริกิริทันทีแต่ในเกมโทกามิจะบอกว่าผู้ต้องสงสัยมีอยู่สองคนซึ่งก็คือนาเอกิกับคิริกิริที่ไม่มีพยานในช่วงเวลาที่เกิดเหตุฆาตกรรม (ซึ่งจะกลายเป็นการแข่งกันดริฟระหว่างนาเอกิกับคิริกิริแทน)
เหตุผลก็คือ โทกามิ ฮากาคุเระ ฟุคาว่า และ อาซาฮินะ นั่งแยกส่วนโมโนคุมะอยู่ด้วยกันตลอดเวลาตั้งแต่สี่ทุ่มจนถึงเก้าโมงเช้า (แม้แต่จะเข้าห้องน้ำก็ยังไปกันเป็นคู่)
นาเอกิเริ่มดริฟก่อนโดยใช้ข้อเท็จจริงที่ว่าเครื่องรดน้ำต้นไม้จะทำงานอัตโนมัติที่เวลาเจ็ดโมงครึ่งของทุกวัน
แต่เนื่องจากศพที่พบในตอนแรกนั้นอยู่ในสภาพที่แห้งสนิท นาเอกิจึงบอกว่าการฆาตกรรมนั้นจะต้องเกิดขึ้นหลังจากเจ็ดโมงครึ่งซึ่งเป็นเวลาที่นาเอกิไปรวมตัวกับคนอื่น ๆ เรียบร้อยแล้ว
แต่จะถูกขัดขึ้นมาว่าศพที่ถูกพบนั้นเปียกน้ำอยู่
ซึ่งนาเอกิจะแก้ต่างให้ตัวเองได้ว่าที่ศพเปียกน้ำเป็นเพราะพวกเขาช่วยกันดับไฟหลังจากที่ศพถูกระเบิดต่างหาก
เพราะฉะนั้นสภาพสุดท้ายของศพจึงกลายเป็นเปียกน้ำครึ่งตัวแทน
เมื่อนาเอกิหาข้อแก้ต่างให้กับตัวเองได้คิริกิริจึงตกเป็นเป้าทันที
สิ่งแรกที่คิริกิริพูดในเกมก็คือ "ถ้าฉันถูกประหารตอนนี้ปริศนาของโรงเรียนแห่งนี้ก็จะกลายเป็นความลับไปตลอดกาล... ฉันจะไม่ยอมให้มันจบลงแบบนั้นเด็ดขาด!" (แต่ในอนิเมะตัดเอาประโยคนี้ไปไว้หลัง ๆ เลย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คิริกิริเลยเปิดโหมดเอาจริงโต้กลับทันทีว่าการที่ศพไม่เปียกก็ไม่ได้หมายความว่าการฆาตกรรมจะเกิดขึ้นหลังจากเจ็ดโมงครึ่ง
เพราะคนร้ายอาจจะใช้แผ่นพลาสติกคลุมศพเอาไว้ไม่ให้เปียกก็ได้ ดังนั้นพยานบุคคลของนาเอกิจึงถูกหักล้างไปทันที
ซึ่งแผ่นพลาสติกดังกล่าวถูกพบอยู่ในโรงเก็บของในสภาพที่ด้านหนึ่งเลอะแต่อีกด้านหนึ่งสะอาดซึ่งสอดคล้องกับข้อสันนิษฐานพอดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากนั้นก็มาต่อกันที่สาเหตุการตาย[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อาวุธที่คนร้ายใช้ก็คือลูกธนูโลหะที่ถูกมัดรวมกันเป็นกลุ่มซึ่งถูกพบที่ล็อคเกอร์เก็บของในโรงฝึก
ซึ่งกุญแจของล็อคเกอร์ดังกล่าวถูกพบในห้องของคิริกิริ
โทกามิเลยยิ่งมั่นใจว่าคนร้ายจะต้องเป็นคิริกิริอย่างแน่นอน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โทกามิเลยกล่าวจบการไต่สวนโดยบอกว่าสุดท้ายคนร้ายก็คือคิริกิริอยู่ดี
แต่คิริกิริโต้กลับทันทีว่าเธอไม่ใช่คนร้ายเนื่องจากเธอให้กุญแจห้องนอนของตัวเองกับโทกามิไปแล้ว
ดังนั้นเธอจึงไม่มีทางที่จะเข้าไปเก็บกุญแจล็อคเกอร์ในห้องของตัวเองหลังจากก่อเหตุฆาตกรรมได้เลย
ถึงจุดนี้จะมีเพียงแค่นาเอกิเป็นคนเดียวที่รู้ว่าคิริกิรินั้นกำลังพูดโกหกอยู่เพื่อที่จะเอาตัวรอดให้ได้
นาเอกิจะต้องตัดสินใจว่าจะเชื่อใจคิริกิริหรือไม่
ถ้าหากไม่เชื่อใจแล้วจับเท็จคำพูดของคิริกิริก็จะเข้าแผนของโมโนคุมะแล้วนำไปสู่ Bad End ทันที[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นาเอกิเลยพูดออกมาว่าศาลในรอบนี้มันไม่แปลกไปหน่อยหรอ คนถูกฆ่าก็เป็นใครก็ไม่รู้ที่พวกเขายังไม่เคยเจอตัวซะด้วยซ้ำ
แต่ก่อนที่ทุก ๆ คนจะคล้อยตามโมโนคุมะก็ประกาศหมดเวลาแล้วบังคับให้โหวตทันที
คิริกิริสรุปปิดท้ายให้ว่านาเอกิที่ไปสำรวจห้องของเธอคู่กับโทกามินั้นสามารถนำกุญแจติดตัวเข้าไปแล้วแกล้งทำเป็นเจอในห้องของเธอได้ ดังนั้นคนที่สามารถก่อเหตุฆาตกรรมในครั้งนี้ได้จึงมีแค่นาเอกิเท่านั้น (ในเกมโทกามิจะสรุปประเด็นนี้ก่อนที่โมโนคุมะจะประกาศหมดเวลา พอเปลี่ยนมาเป็นแบบนี้แทนแล้วคิริกิริดูโฉดขึ้นจม)
ทำหน้าโมโนคุมะเหงื่อตกรีบจบศาลได้เห็นภาพกว่าในเกมเยอะ
ซึ่งก็แน่นอนว่านาเอกิก็กลายเป็นคนซวยรับเคราะห์ไปโดยปริยาย
จะว่าไปการเปลี่ยนให้ศาลรอบนี้กลายไปเป็นโทกามิ VS คิริกิริ แทนที่จะเป็นนาเอกิ VS คิริกิริ ก็เป็นทางเลือกที่ดีเพราะตอนที่คิริกิริขอโทษที่ไปไล่ต้อนนาเอกิในศาลนั้นในเกมจะนาเอกิจะตอบกลับไปว่า "ไม่เป็นไรหรอกเพราะฉันเองก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน" แต่พอแปลงเป็นแบบในอนิเมะคำตอบของนาเอกิเลยหล่อขึ้นหลายเท่า "ไม่เป็นไรหรอก คนที่ผิดคือโมโนคุมะต่างหาก"
ปล. ที่รายละเอียดเกี่ยวกับหลักฐานต่างจากในเกมทั้ง ๆ ที่คดีอื่น ๆ ก็เหมือนกันแทบจะเป๊ะนี่จงใจหรือว่าเผางานกันแน่หว่า
ปล.2 อยากเห็นคนคนนั้นพูดไปเก๊กไปใน Classroom Trials ครั้งสุดท้ายซะแล้วสิ อุปุ๊ปุ๊ปุ๊ปุ๊