เมื่อตอนเด็กๆ จำได้ว่าพ่อกับแม่ เคยพาไปกินสุกี้เรือนเพชร เท่าที่จำความได้ รู้สึกคนเยอะมาก เสียงดังจ้อกแจ้ก และอาหารอร่อยมาก
พอโตขึ้น มีสุกี้ร้านใหม่ๆ เปิดตามห้าง  ก็เลยทำให้ไม่ได้นึกสุกี้เรือนเพชรเลย จนกระทั่งวันหนึ่งนั่งรถผ่านไปแถวถนนเพชรบุรีตัดใหม่ และเห็นว่าร้านนี้ยังเปิดอยู่  ดาก็นึกอยู่ในใจว่า เดี๋ยววันไหนต้องแวะมากินสักหน่อย แต่ก็ไม่ได้มาสักที จนกระทั่งวันนี้นี่แหละ


ก้าวเข้าไปในร้านอีกครั้งหลังจากห่างหายไปหลายสิบปี ภาพความทรงจำเก่าๆ ก็เริ่มปะติดปะต่อกับสิ่งที่สายตา ณ ปัจจุบันมองเห็น สิ่งที่สัมผัสได้คือ ผู้คนยังแวะเวียนมาที่นี่เยอะไม่เปลี่ยนแปลง สภาพแวดล้อมของร้านยังเหมือนเดิม แต่สิ่งที่รู้สึกได้ว่าเปลี่ยนไปก็คือ หม้อไฟแบบเก่าที่เคยเห็นได้เปลี่ยนไปเป็นเตาไฟฟ้าตามยุคสมัย


เมื่อเลือกที่นั่งถูกใจได้แล้ว  ดาก็สั่งเมนูรวมมิตรทะเล ที่ประกอบไปด้วยกุ้ง หอย ปลาหมึก  ปลาที่คลุกเคล้าเข้ากับซอสเต้าเจี้ยวมาเป็นอย่างดี มีไข่ไก่สดตอกอยู่ด้านบน หลังจากคลุกเคล้าส่วนผสมทุกสิ่งอย่างจนเข้าเนื้อดีแล้วก็ค่อยๆ ใส่ลงไปในเตาไฟที่น้ำเดือดได้ที่


เติมผักลงไปอีกสักนิดเพื่อสุขภาพ จากนั้นก็รอให้ส่วนผสมสุก แต่ก็อย่าให้เสียเวลา ขอสั่งเมนูข้าวอบรวมมิตรมากินให้มีของตกก
ระเพาะก่อนดีกว่า

ข้าวอบที่นี่รสชาติลงตัวมาก จำไม่ได้หรอกว่าตอนเด็กเคยกินไหม แต่ตอนนี้ที่กินอยู่ พูดเลยว่าฟินมาก  ข้าวร้อนๆ นุ่มหอมกำลังดี บวกความสดของเนื้อไก่หมักชิ้นใหญ่ กุ้งตัวโต และกุนเชียงกับไส้กรอกที่กรุบกรอบเคี้ยวเพลิน  

ซดกับน้ำแกงร้อนๆ ในเตาสุกี้  เหมือนเราจะลืมความทุกข์ในใจที่มีไปเลยทีเดียว หลุดไปอยู่ในโลกของความสุขแห่งรสอาหารแสนอร่อย  
เมื่อของในเตาสุกแล้ว ดาก็ละเลียดกินไปเรื่อยๆ อย่างสบายใจ  แต่วันนี้อยากสั่งอะไรอีกสักนิด ก็เลยเอาหมี่หยก กับแฮ่กึ้น มากินด้วย






อันที่จริงน่ะอิ่ม  แต่คงจะลุกจากโต๊ะไปไม่ได้ ถ้าไม่มีของหวานตบท้ายเมนูท้ายสุดของมื้อนี้ จึงไม่พ้น ไอติมกะทิ  


แม้ส่วนตัวจะชอบร้านที่มีบรรยากาศชิลๆ คนไม่พลุกพล่าน แต่ที่นี่พูดเลยว่า คนเยอะ เสียงจอแจ แต่ด้วยรสชาติอาหารถูกใจแท้ จึงบอกตัวเองว่า ว่างๆ จะมาอีก  ใครอยากไปบ้างก็ไปได้ทุกวันเปิดปิด: 11:00 - 22:00 น.

....แล้วจะรู้ว่า ของเก่า มีดีอย่างนี้นี่เอง  

^0^ อิ่ม  ฟิน จนลืมแชะรูปตัวเองเลย  แอบผิดคอนเซ็ปท์ไปนิดนะดาด้า …555

เอารูปบิลมาแทน  มื้อนี้หมดไป 640 บาท  (มีคิดค่าแอร์ ด้วยอ่ะ  10  บาท )