คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
กล่าวกันในวงการวิ่งเพื่อสุขภาพว่า
ใครที่วิ่งเพื่อสุขภาพ ควรวิ่งประมาณ 5 โล
หรือวิ่งจ็อกช้าๆนานประมาณ 30 นาที
เท่านั้นพอแล้ว
ใครที่วิ่งมากกว่า 5 โล ขึ้นไป ถือว่าวิ่งเพื่อการอื่น
เกินเป้าหมายเพื่อสุขภาพแล้ว
ยืนยันครับ...การวิ่งไกลอย่างมาราธอน (42.195 ก.ม.)
ทำลายสุขภาพครับ การกระทำเช่นนั้น
ไม่ได้เป็นการประเทืองสุขภาพแต่อย่างใด
ผลจากงานหนักนั้นเป็นการทำลายลงมากกว่าการเสริมสร้าง
แต่.............
กระบวนการที่จะเตรียมตัวเพื่อที่จะวิ่งมาราธอนให้ได้ดีที่สุดเท่าที่ศักยภาพตัวเองพึงมี
มันเอื้อต่อปัจจัยสุขภาพหลายประการ...และเราดีขึ้นเพราะเหตุแห่งกระบวนการนั้น
การวิ่งมาราธอน...เป็นการทำลายลงจริง แต่ผ่านการพัก(rest) ผ่านอาหาร(foods) และผ่านเวลาพักฟื้น(Recovery)
ที่ไม่ไปรบกวนกระบวนการซ่อมสร้างก่อนเวลาควร เป็นการวางเงื่อนไขให้ร่างกาย
จดจำงานหนัก และสามารถทำใหม่ได้ดีขึ้นอีกเล็กน้อย ในภายหลังต่อมา
นั่นคือเราแข็งแรงขึ้น
แต่นักวิ่งหลายคนไม่ได้ทำตามหลักการพักฟื้นที่ดี เพิ่มระยะการฝึกมากเกินไปในเวลากระชั้น
ปราศจากการปล่อยให้ร่างกายพักผ่อนอย่างพอเพียง ฝึกลงคอร์ทเร็วเกินไป
แข่งแล้วแข่งอีก เผชิญหน้าความเข้มข้นอย่างพักฟื้นไม่พอ...ก็เลยเดี้ยงกันไป
คำเตือนเหล่านั้นมีจริง.....พวกเรานักวิ่งทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว...คือวื่ง
แต่อย่างเหมาเข้าใจไปว่านักวิ่งทุกคนทำได้อย่างถูกต้องทุกราย
บ้างเดี้ยงก็มี...บ้างแข็งแรงขึ้นก็มี อันเกิดจากกระบวนการเตรียมตัวมาราธอนอย่างที่กล่าว
ไม่ได้เกิดจากตัวมาราธอนตรงๆ ตัวมาราธอน มันเป็นระยะทางที่โหมเข้ามามากกับร่างกาย
ในเวลากระชั้น Session เดียว เบ็ดเสร็จภายใน 6 ช.ม.
มันทำไม่ได้ในรายที่ไม่ได้ฝึกมา
และรายที่ฝึกมาได้ดี ถึงจะทำได้ แต่ก็เป็นงานหนักมาก
บทความข้างต้นที่ลิ้งค์มา....จงอย่าตีความเป็นศัตรู เป็นผู้ที่เห็นต่างคนละขั้วกับเรา
แท้จริงแล้วเป็นคำตักเตือนให้คนในแวดวงนักวิ่งตระหนักว่า แท้จริงแล้วเรามาวิ่งกันเพื่ออะไร
เพื่อสุขภาพ ไม่ใช่เพื่อเหรียญมาราธอน ไม่ใช่ถ้วยรางวัลใดๆ
และเพราะพวกเราหลายคนวิ่งกันอย่างลุ่มหลงแบบไม่บันยะบันยังที่เห็นและเป็นอยู่
นักวิ่ง(รายนั้น)จึงเดี้ยง
การเดี้ยงของใครก็ตามไม่ได้หมายความว่าเป็นเพราะวิ่ง
เช่นเดียวกับการตายในลิฟท์ ไม่ได้แปลว่าตายเพราะลิฟท์
แต่คนวิ่งนั้น วิ่งด้วยท่วงท่าเช่นไร วิ่งด้วยการใฝ่ใจในคำเตือนหรือไม่
กินน้ำตอนกระหายใช่หรือไม่? ถ้าใครตอบว่าใช่ คุณนั่นแหละก็อยู่ในกลุ่มเสี่ยงแล้ว
กำลังทำผิดในคำแนะนำการวิ่ง
คำถาม 3 ประการของ จขกท.ข้างต้น จึงไม่เมคเซ็นส์ในความหมายที่เกิดจากบทคงวามที่ลิ้งค์มาครับ
ยิ่งที่กล่าวว่าป่านนี้ตายไปนานแล้ว...ยิ่งออกนอกประเด็นไปไกล
ใครที่วิ่งเพื่อสุขภาพ ควรวิ่งประมาณ 5 โล
หรือวิ่งจ็อกช้าๆนานประมาณ 30 นาที
เท่านั้นพอแล้ว
ใครที่วิ่งมากกว่า 5 โล ขึ้นไป ถือว่าวิ่งเพื่อการอื่น
เกินเป้าหมายเพื่อสุขภาพแล้ว
ยืนยันครับ...การวิ่งไกลอย่างมาราธอน (42.195 ก.ม.)
ทำลายสุขภาพครับ การกระทำเช่นนั้น
ไม่ได้เป็นการประเทืองสุขภาพแต่อย่างใด
ผลจากงานหนักนั้นเป็นการทำลายลงมากกว่าการเสริมสร้าง
แต่.............
กระบวนการที่จะเตรียมตัวเพื่อที่จะวิ่งมาราธอนให้ได้ดีที่สุดเท่าที่ศักยภาพตัวเองพึงมี
มันเอื้อต่อปัจจัยสุขภาพหลายประการ...และเราดีขึ้นเพราะเหตุแห่งกระบวนการนั้น
การวิ่งมาราธอน...เป็นการทำลายลงจริง แต่ผ่านการพัก(rest) ผ่านอาหาร(foods) และผ่านเวลาพักฟื้น(Recovery)
ที่ไม่ไปรบกวนกระบวนการซ่อมสร้างก่อนเวลาควร เป็นการวางเงื่อนไขให้ร่างกาย
จดจำงานหนัก และสามารถทำใหม่ได้ดีขึ้นอีกเล็กน้อย ในภายหลังต่อมา
นั่นคือเราแข็งแรงขึ้น
แต่นักวิ่งหลายคนไม่ได้ทำตามหลักการพักฟื้นที่ดี เพิ่มระยะการฝึกมากเกินไปในเวลากระชั้น
ปราศจากการปล่อยให้ร่างกายพักผ่อนอย่างพอเพียง ฝึกลงคอร์ทเร็วเกินไป
แข่งแล้วแข่งอีก เผชิญหน้าความเข้มข้นอย่างพักฟื้นไม่พอ...ก็เลยเดี้ยงกันไป
คำเตือนเหล่านั้นมีจริง.....พวกเรานักวิ่งทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว...คือวื่ง
แต่อย่างเหมาเข้าใจไปว่านักวิ่งทุกคนทำได้อย่างถูกต้องทุกราย
บ้างเดี้ยงก็มี...บ้างแข็งแรงขึ้นก็มี อันเกิดจากกระบวนการเตรียมตัวมาราธอนอย่างที่กล่าว
ไม่ได้เกิดจากตัวมาราธอนตรงๆ ตัวมาราธอน มันเป็นระยะทางที่โหมเข้ามามากกับร่างกาย
ในเวลากระชั้น Session เดียว เบ็ดเสร็จภายใน 6 ช.ม.
มันทำไม่ได้ในรายที่ไม่ได้ฝึกมา
และรายที่ฝึกมาได้ดี ถึงจะทำได้ แต่ก็เป็นงานหนักมาก
บทความข้างต้นที่ลิ้งค์มา....จงอย่าตีความเป็นศัตรู เป็นผู้ที่เห็นต่างคนละขั้วกับเรา
แท้จริงแล้วเป็นคำตักเตือนให้คนในแวดวงนักวิ่งตระหนักว่า แท้จริงแล้วเรามาวิ่งกันเพื่ออะไร
เพื่อสุขภาพ ไม่ใช่เพื่อเหรียญมาราธอน ไม่ใช่ถ้วยรางวัลใดๆ
และเพราะพวกเราหลายคนวิ่งกันอย่างลุ่มหลงแบบไม่บันยะบันยังที่เห็นและเป็นอยู่
นักวิ่ง(รายนั้น)จึงเดี้ยง
การเดี้ยงของใครก็ตามไม่ได้หมายความว่าเป็นเพราะวิ่ง
เช่นเดียวกับการตายในลิฟท์ ไม่ได้แปลว่าตายเพราะลิฟท์
แต่คนวิ่งนั้น วิ่งด้วยท่วงท่าเช่นไร วิ่งด้วยการใฝ่ใจในคำเตือนหรือไม่
กินน้ำตอนกระหายใช่หรือไม่? ถ้าใครตอบว่าใช่ คุณนั่นแหละก็อยู่ในกลุ่มเสี่ยงแล้ว
กำลังทำผิดในคำแนะนำการวิ่ง
คำถาม 3 ประการของ จขกท.ข้างต้น จึงไม่เมคเซ็นส์ในความหมายที่เกิดจากบทคงวามที่ลิ้งค์มาครับ
ยิ่งที่กล่าวว่าป่านนี้ตายไปนานแล้ว...ยิ่งออกนอกประเด็นไปไกล
แสดงความคิดเห็น
สงสัยว่า วิ่งนานเกิน30 นาที เป็นอันตรายหรือไม่
เขาบอกว่า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมอยากรู้ว่า
1.วิ่งเกิน30 นาที อันตราย ใช่ไหม และคำพูดเว็บนั้นเชื่อได้หรือไม่
2.มีไหมคนที่วิ่งมาราธอน นาน30+ ปี แล้วไม่เป็นไร
3.วิ่ง4 วันพอไหม หรือควรเพิ่ม
4.วิ่งอย่างไรลดไขมันเยอะ
ตอนนี้ผมวิ่ง5 กิโล ประมาณ40นาที+ ครับ