จริงๆแล้วนี่เป็นครั้งแรกเลยครับที่ทดลองเพาะเห็ดหูหนู เคยคิดว่ามันยากกว่าพวกเห็นนางฟ้าเห็ดภูฐาน แต่ไปๆมาๆง่ายไม่ต่างกันเลยครับ...
เรื่องมันมีอยู่ว่า... ในช่วงที่ตระเวนหาก้อนเห็ดนางฟ้าแถบย่านรังสิต ดันเป็นช่วงที่ก้อนเห็ดนางฟ้าขาดตลาด(ที่อยากได้เพราะมันถูกครับก้อนละ 6บาท) กลับไปได้ก้อนเห็ดภูฐานมาแทน และเหน็บก้อนเห็ดหูหนูมาลองเพาะด้วยอีก20ก้อน(ก้อนละ 8บาท) เลยได้โอกาสทดลองเพาะกันเลย
ก้อนเห็ดหูหนูก็เหมือนกับก้อนเห็ดถุงทั่วๆไปครับ เพียงแต่การเปิดดอกจะใช้วิธีกรีดด้านข้างถุงใหเดอกเห็ดโผล่งอกออกมาได้ โดยปกติคนทำฟาร์มเห็ดจะใช้วิธีผูกถุงห้อยไว้เป็นแถวเพื่อประหยัดเนื้อที่ แต่ผมมีแค่20ถุง ก็ใช้วางตั้งเอาในชั้นวางเห็ดนี่แหละครับ(ฝาจุกคอถุงดึงออกหมดแล้วเอาเชือกมัดไว้กันน้ำเข้า) เอาสเปรย์พ่นน้ำวันละ3-4ครั้งแล้วแต่สดวก หลังจากกรีดถุงซัก7-10วันดอกเห็ดจะเริ่มงอกออกมา...
พัฒนาการของดอกเห็นก็เรียกได้ว่าโตเรื่อยๆครับ ซัก1-2วันต่อมา เห็ดหูหนูจะเริ่มสร้างเนื้อเยื่อเพิ่มมากขึ้นยาวไปตามแนวที่กรีดไว้...
ผมถ่ายภาพเทียบทุก1-2วันครับ จะว่าไปเห็ดหูหนูโตช้าพอสมควรนะ แต่ก็ไม่นานเกินรอ ในวันที่ 4-5ก็งอกกันออกมาเกือบเต็มรอยกรีดแล้ว...
และในช่วงวันที่10-12เห็ดหูหนูจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ดูรู้แล้วว่าหูหนูแน่ๆ(ช่วงแรกดูแล้วหายอยากกินเลยแฟนผมบอกนะ
)
ประมาณ2สัปดาห์ หรือกว่านั้นเล็กน้อย เห็ดหูหนูก็พร้อมเก็บครับ ผมใช้วิธีค่อยๆดึงออกมาจากรอยกรีดเลย...
ในจำนวน20ถุง ผมเก็บดอกเห็นที่โตพร้อมรับประทานได้2กระจุก ก็ผัดได้เต็มจานพอดี สดสะอาดและปรอดสารเคมี100%เลยครับ...
ที่บอกว่าเห็ดหูหนูเพาะง่ายมากก็เพราะ มันมีอยู่4ถุงที่ดูแย่เหมือนมีราสีเหลืองสีดำขึ้นในถุง ผมเลยเอาไปผูกห้อยไว้ในโรงเรือนต้นไม่ที่คลุมซาแลนด์ไพรางไว้60% มันก็งอกออกมาให้ได้เก็บไม่ต่างจากที่อยู่ในชั้นวางเห็ดเลยครับ ขนาดตากแดด(40%)ตากฝนนะ...
สมัยนี้ค่าครองชีพสูงขึ้นมากครับ อะไรทำเองได้ ปลูกเองได้เล็กน้อยๆก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้เย๊อะเลยครับ...
แพงทั้งแผ่นดิน เพาะเห็ดกินเอง ช่วยได้ครับ.... เห็ดหูหนูจ้า!!!!
เรื่องมันมีอยู่ว่า... ในช่วงที่ตระเวนหาก้อนเห็ดนางฟ้าแถบย่านรังสิต ดันเป็นช่วงที่ก้อนเห็ดนางฟ้าขาดตลาด(ที่อยากได้เพราะมันถูกครับก้อนละ 6บาท) กลับไปได้ก้อนเห็ดภูฐานมาแทน และเหน็บก้อนเห็ดหูหนูมาลองเพาะด้วยอีก20ก้อน(ก้อนละ 8บาท) เลยได้โอกาสทดลองเพาะกันเลย
ก้อนเห็ดหูหนูก็เหมือนกับก้อนเห็ดถุงทั่วๆไปครับ เพียงแต่การเปิดดอกจะใช้วิธีกรีดด้านข้างถุงใหเดอกเห็ดโผล่งอกออกมาได้ โดยปกติคนทำฟาร์มเห็ดจะใช้วิธีผูกถุงห้อยไว้เป็นแถวเพื่อประหยัดเนื้อที่ แต่ผมมีแค่20ถุง ก็ใช้วางตั้งเอาในชั้นวางเห็ดนี่แหละครับ(ฝาจุกคอถุงดึงออกหมดแล้วเอาเชือกมัดไว้กันน้ำเข้า) เอาสเปรย์พ่นน้ำวันละ3-4ครั้งแล้วแต่สดวก หลังจากกรีดถุงซัก7-10วันดอกเห็ดจะเริ่มงอกออกมา...
พัฒนาการของดอกเห็นก็เรียกได้ว่าโตเรื่อยๆครับ ซัก1-2วันต่อมา เห็ดหูหนูจะเริ่มสร้างเนื้อเยื่อเพิ่มมากขึ้นยาวไปตามแนวที่กรีดไว้...
ผมถ่ายภาพเทียบทุก1-2วันครับ จะว่าไปเห็ดหูหนูโตช้าพอสมควรนะ แต่ก็ไม่นานเกินรอ ในวันที่ 4-5ก็งอกกันออกมาเกือบเต็มรอยกรีดแล้ว...
และในช่วงวันที่10-12เห็ดหูหนูจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ดูรู้แล้วว่าหูหนูแน่ๆ(ช่วงแรกดูแล้วหายอยากกินเลยแฟนผมบอกนะ)
ประมาณ2สัปดาห์ หรือกว่านั้นเล็กน้อย เห็ดหูหนูก็พร้อมเก็บครับ ผมใช้วิธีค่อยๆดึงออกมาจากรอยกรีดเลย...
ในจำนวน20ถุง ผมเก็บดอกเห็นที่โตพร้อมรับประทานได้2กระจุก ก็ผัดได้เต็มจานพอดี สดสะอาดและปรอดสารเคมี100%เลยครับ...
ที่บอกว่าเห็ดหูหนูเพาะง่ายมากก็เพราะ มันมีอยู่4ถุงที่ดูแย่เหมือนมีราสีเหลืองสีดำขึ้นในถุง ผมเลยเอาไปผูกห้อยไว้ในโรงเรือนต้นไม่ที่คลุมซาแลนด์ไพรางไว้60% มันก็งอกออกมาให้ได้เก็บไม่ต่างจากที่อยู่ในชั้นวางเห็ดเลยครับ ขนาดตากแดด(40%)ตากฝนนะ...
สมัยนี้ค่าครองชีพสูงขึ้นมากครับ อะไรทำเองได้ ปลูกเองได้เล็กน้อยๆก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้เย๊อะเลยครับ...