เราผิดปกติใช่ไหมที่ รับไม่ได้กับ developer ไร้จรรยาบรรณ

วันนี้ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ จึงขอพื้นที่ในเวปนี้มาระบายความรู้สึกส่วนตัวที่อยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกได้ไหมคะ

หลายๆคน คงมีความฝัน อยากซื้อบ้าน ซื้อคอนโดหลังแรก เป็นความภาคภูมิใจของตัวเองที่อุตส่าห์เก็บหอมรอมริบมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเรา แต่ละคนก็ย่อมคิดแล้วว่า สิ่งที่ตัวเองได้ตัดสินใจจองไป หรือลงทุนไป คือภาระการเป็นหนี้ธนาคารไปอีก 20, 30 ปีข้างหน้า (เพราะเราไม่ได้รวยมีเงินถุงเงินถัง) เราก็มนุษย์เงินเดือน หาเช้ากินค่ำเหมือนกัน จะโชคดีหน่อยก็ตรงที่พอมีเหลือให้ได้ลงทุนซื้อคอนโดหลังแรกในชีวิต

คะ เราตัดสินใจจองคอนโดโดย "คิดน้อย" ไปหน่อย เราหยิบบัตรเครดิต รูดปรื้ด! ไป 30,000 บาทเพื่อจองสิทธิ์ซื้อคอนโด แทบจะทันทีที่ห้องวิวดีชั้นกลางๆหลุดออกมา เพราะเจ้าของเดิมที่จองไว้เปลี่ยนใจไปเอาห้องชั้นที่สูงขึ้นแต่ได้กว้างขึ้น นับเป็นการตัดสินใจของเด็กจบป.ตรีใหม่ๆ ที่เพิ่งจะเริ่มทำงานได้ไม่นาน มีเงินเก็บมาทั้งชีวิตจากการเก็บเล็กผสมน้อยและเงินแต๊ะเอียเล็กๆน้อยๆ พอที่จะวางเงินดาวน์ได้ และคิดแล้วว่าน่าจะผ่อนค่างวดอีกกว่า 20 งวดไหว เรากระเบียดกระเสียนใช้เงินอย่างประหยัดเพื่อส่งค่างวดซึ่งกินสัดส่วนรายได้เราเกือบ 60% (ณ ตอนนั้น) แต่ตอนนั้นเราก็คิดว่า "มันช่างเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า" เพราะทุกสิ่งอย่างที่เราได้รับรู้จากการโฆษณาที่สำนักงานขาย "มันช่างสวย สมราคา เกินบรรยาย"

มโนภาพในใจเราแจ่มชัดนัก อีกไม่เกิน 2 ปีข้างหน้า พอเราจ่ายค่างวดให้โครงการครบ 24 งวด เราก็จะได้ย้ายมาอยู่ในคอนโด "ของเรา" คอนโดที่เราลงทุนซื้อมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกายของเราเอง "มันช่างน่าภูมิใจเสียนี่กระไร"

"ภาวะน้ำท่วม ทำให้โครงการเสร็จล่าช้า โดยจะส่งมอบให้ภายในไตรมาส 3 ปี 2556"  
คือจดหมายแจ้งจากทางโครงการเพียงฉบับเดียว ที่ส่งมาถึงเราหลังเหตุการณ์น้ำท่วมสิ้นสุดลงไปแล้วเกินครึ่งค่อนปี และก่อนหน้าการส่งมอบห้องตามสัญญาที่เราถือเพียง 4 เดือนเท่านั้น

โอเค เราเข้าใจ แต่ความล่าช้าที่เกิดขึ้น ควรจะแจ้งภายในเจ็ดวันนับจากเหตุการณ์นั้นสิ้นสุดลงไม่ใช่หรือ? (ก็ในสัญญาที่เราถือเขียนแบบนั้น)
เราไปถามเซลล์ที่โครงการเกี่ยวกับจดหมายฉบับนี้ และสอบถามถึง "สิทธิ์" ค่าปรับล่าช้าที่เราควรได้รับตามสัญญา.....

"บริษัทฯ ไม่มีนโยบายชดเชยให้คะ" เราดึงดันถามคำถามว่าไม่มีอะไรให้เลยจริงๆเหรอ เซลล์คงรำคาญ เลยตัดปัญหาด้วยการให้เราเขียนชื่อสกุลทิ้งไว้ และแจ้งว่าเดี๋ยวจะส่งเรื่องให้ทางบริษัทฯชดเชยให้คะ แต่ยังไม่รับปากว่าจะชดเชยเป็นอะไรนะคะ กว่าจะรู้อีกทีก็นู้นนนน ตอนตรวจรับห้องแล้ว ซึ่งมันก็คงอีกสักระยะใหญ่ๆ

จนเวลาผ่านเลยไปคะ เริ่มมีว่าที่เพื่อนบ้านที่ซื้อในโครงการเดียวกันสอบถามถึงความคืบหน้าในการก่อสร้างโครงการ, สอบถามถึงการชดเชยเรื่องส่งมอบล่าช้า, สอบถามถึงวันส่งมอบและตรวจรับห้อง ตามหน้า page facebook ของโครงการ, ตามหน้า website ต่างๆ แต่ไม่เคยได้รับการตอบกลับจากทางตัวแทนขาย หรือเจ้าของโครงการแต่อย่างใด

คะ....เราใจเย็น.............และรอ............อดทน......รอ.....ก็มีแวะไปเยี่ยมเยียนที่โครงการบ้างนะคะ แต่ก็ได้คำตอบเดิมๆกลับมา เหมือนกับเซลล์จะถูกตั้งโปรแกรมมาให้ตอบคำถามที่ไม่ใช่คำตอบ แต่มีวิธีพูดให้เราสบายใจได้ และเราก็ใจเย็น รอต่อคะ.................................

แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีก (เหมือนเราโดนหลอกอีกรอบ)
นอกจากจะช้ากว่ากำหนดแล้ว ไม่มีนโยบายชดเชยค่าเสียหายให้ (แม้เราจะถือสัญญาอยู่ทนโท่) ยังเปลี่ยนแบบส่วนกลางในหลายๆจุดอย่างน่าเกลียด (ก็มันไม่เหมือนกับที่เราวาดภาพไว้เลยหนิหน่า) สิ่งที่เราวาดฝันไว้ ว่ามันจะออกมาสวย ดูดี สมราคา หรูเริ่ด อลังการงานสร้าง กลับได้มาเพียง basic ธรรมดา standard ทั่วๆไป

เริ่มมีเพื่อนๆว่าที่ลูกบ้านหลายๆท่านออกมาเคลื่อนไหวรวมตัวกัน เพื่อเรียกร้องให้ทางโครงการชี้แจง เราเองก็ร่วมด้วย เพราะคิดว่า เอาน่าหลายๆหัวรวมกันย่อมมีพลังขับเคลื่อน สร้างผลกระทบกับโครงการให้รีบออกมารับผิดชอบ แก้ปัญหา เพื่อไม่ให้เป็นเรื่องเป็นราว อันจะส่งผลเสียกับชื่อเสียงบริษัทฯ  แต่ก็กลับกลายเป็นว่า สิ่งที่ทำลงไป "ไร้ค่า"

************************************ มาถึง ณ จุดนี้ ************************************

เราเริ่มเหนื่อยที่จะเขียนต่อ และเหนื่อยที่จะเคลื่อนไหวอะไรต่อมิอะไรต่อเหมือนกัน เรากลับมาย้อนดูตัวเราเอง ในสิ่งที่เราทำลงไป
มันคงเป็นความผิดของเราเอง ที่ไม่คิดให้ถี่ถ้วน คิดให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจซื้อของชิ้นใหญ่ขนาดนี้ เราผิดเองที่ไม่เลือกซื้อคอนโดจาก Developer ชื่อดังๆ (แต่ที่เห็นๆมีข่าวกันครึกโครมตอนนี้ ก็เจ้าใหญ่ๆดังๆหนิหน่า)

เราเลยมาคิดว่า หรือจริงๆเป็นที่สังคมไทยเราอ่อนแอ บริษัทใหญ่ๆ ถึงได้ไร้จรรยาบรรณ กล้าทำกับผู้บริโภคได้มากมายขนาดนี้
มีปัญหาก็ให้ไปฟ้อง สคบ., ฟ้องศาลผู้บริโภค, ประจานออกสื่อ บลาๆๆๆๆๆ

มันใช่หน้าที่เราหรือ? มันเป็นภาระเราหรือ?
มีประเทศไหนในโลกนี้อีกไหม ที่"ลูกค้า"ซื้อของแล้วต้องมานั่งทำการบ้าน มากกว่า "บริษัทฯที่ขายของให้ลูกค้า"

หรือเราผิดปกติ เพราะบางครั้งพอไปอ่านในกระทู้บางกระทู้ก็เห็นคอมเมนท์บางคอมเมนท์ ว่ามันเป็นเรื่อง "ปกติ" ?
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่