1. ตัด
“ก่อนตาย ข้าขอสิ่งหนึ่งเป็นครั้งสุดท้าย” ชารีฟบอก
“ขออะไรเหรอชารีฟ...อย่าขอชีวิตนะ ข้าไม่ให้” องค์โอมานหัวเราะเย้ยหยัน
“ขอทำละหมาดครั้งสุดท้ายก่อนตาย”
กษัตริย์โอมานนิ่งและอึ้งมาก รู้สึกกระทบกระเทือนจิตใจว่าชารีฟ ช่างเป็นคนที่ทำตัวถูกต้องจนวาระสุดท้าย องค์โอมานถอยออกไป เปิดโอกาสให้ชารีฟทำละหมาด
มือชารีฟประสานกัน สีหน้าเคร่งขรึม ยินเสียงเหมือนเสียงสวด...ลาฮีลาฮา อัลลอห์…อัลลอห์ ดังขึ้น
“ข้าพเจ้าพันเอก ชารีฟ ขอน้อมคารวะพระองค์ผู้เป็นใหญ่ และขอสรรเสริญเหตุการณ์ที่ทำให้ข้าพระองค์ไม่ต้องฆ่าคนในขณะที่ควรจะช่วยชีวิตเขา” ชารีฟคิดครวญอยู่ในใจ
การิมหันมามอง
“ถ้าข้าต้องผ่าตัดกษัตริย์โอมาน” ชารีฟกระซิบบอกตัวเองเบาๆ “กษัตริย์รอดแน่”
2. ตัด
ทั่วบริเวณเมืองฮิลฟาราในเวลาต่อมา บรรดาชาวเมืองเดินไปเดินมาตามปกติ ไม่มีวีแววของความผิดปกติหรือความยุ่งยากวุ่นวายใดๆ
ในตลาดคนซื้อ ซื้อ คนขาย ขาย
ส่วนที่บริเวณหน้าพระราชวังฮิลฟารา ทหารยืนเฝ้าพระราชวัง เหตุการณ์ดูสงบ และเรียบร้อยดี
ขณะเดียวโทรศัพท์หลายๆ เครื่อง และในแต่ละสถานที่ มีโลโก้ขึ้นหน้าจอว่าจะมีรายการพิเศษ เสียงเพลงชาติ ดังกระหึ่ม ชวนฮึกเหิม
โลโก้รายการพิเศษในร้านอาหารมีผู้คนหันมาดู
เช่นเดียวกับในบ้านชาวฮิลฟารามีคนจ้องจอภาพโลโก้รายการพิเศษ
สักครู่ต่อมา เสียงเพลงชาติเบาลง จอทีวีทุกเครื่องในฮิลฟารา ปรากฏภาพองค์อาหเม็ดออกทีวี ตรัสด้วยสุรเสียงดังกังวาน
3. ตัด
ใบหน้าอันงดงามสวยซึ้งของมิเชลล์ที่ยามนี้นั่งอยู่ในห้องนอน สงบนิ่ง แต่เต็มไปด้วยความหวัง สาวลูกผสมเงยหน้าสวดอ้อนวอนพระเจ้า มีรูปบูชา พระแม่มารี ใบเล็กๆ วางอยู่
มิเชลล์ มีสีหน้าอิ่มเอิบที่รู้ว่าชารีฟพ้นอันตราย แต่นัยน์ตากระวนกระวายลึกๆ
“ฉันเหมือนตายแล้วฟื้นขึ้นมาอีก เมื่อรู้ว่าท่านพ้นอันตราย แต่ฉันสังหรณ์ใจเหลือเกินว่าอุปสรรคของเราสองคนยังมีอีก”
มิเชลล์คิดครวญในใจ ก้มหน้าลง สะท้อนใจกับตัวเองอยู่อึดใจหนึ่ง เงยหน้าอย่างเดิม
“ฉันรู้ว่าเป็นอุปสรรคเพราะฉัน...เพราะตัวฉันใช่มั้ยคะ ชารีฟ”
ขอบคุณบทจาดผู้จัดการออนไลน์ค่ะ
ปล. ดูดเสียงคำว่า "พระเจ้า"
เพิ่มเติม
ตัด
สองคนเต้นรำมาจนถึงสุดท้าย หยุดนิ่ง ชารีฟก้มลง มิเชลล์เงยหน้า ปากต่อปากใกล้จะแตะกัน
(เราไม่แน่ใจว่าเค้าถ่ายฉากนี้ไหมนะคะ แต่ใน ผจก ออนไลน์มีอ่ะคะ)
ฟ้าจรดทราย ตอนที่ 10 ฉากที่ตัดและเพิ่ม
“ก่อนตาย ข้าขอสิ่งหนึ่งเป็นครั้งสุดท้าย” ชารีฟบอก
“ขออะไรเหรอชารีฟ...อย่าขอชีวิตนะ ข้าไม่ให้” องค์โอมานหัวเราะเย้ยหยัน
“ขอทำละหมาดครั้งสุดท้ายก่อนตาย”
กษัตริย์โอมานนิ่งและอึ้งมาก รู้สึกกระทบกระเทือนจิตใจว่าชารีฟ ช่างเป็นคนที่ทำตัวถูกต้องจนวาระสุดท้าย องค์โอมานถอยออกไป เปิดโอกาสให้ชารีฟทำละหมาด
มือชารีฟประสานกัน สีหน้าเคร่งขรึม ยินเสียงเหมือนเสียงสวด...ลาฮีลาฮา อัลลอห์…อัลลอห์ ดังขึ้น
“ข้าพเจ้าพันเอก ชารีฟ ขอน้อมคารวะพระองค์ผู้เป็นใหญ่ และขอสรรเสริญเหตุการณ์ที่ทำให้ข้าพระองค์ไม่ต้องฆ่าคนในขณะที่ควรจะช่วยชีวิตเขา” ชารีฟคิดครวญอยู่ในใจ
การิมหันมามอง
“ถ้าข้าต้องผ่าตัดกษัตริย์โอมาน” ชารีฟกระซิบบอกตัวเองเบาๆ “กษัตริย์รอดแน่”
2. ตัด
ทั่วบริเวณเมืองฮิลฟาราในเวลาต่อมา บรรดาชาวเมืองเดินไปเดินมาตามปกติ ไม่มีวีแววของความผิดปกติหรือความยุ่งยากวุ่นวายใดๆ
ในตลาดคนซื้อ ซื้อ คนขาย ขาย
ส่วนที่บริเวณหน้าพระราชวังฮิลฟารา ทหารยืนเฝ้าพระราชวัง เหตุการณ์ดูสงบ และเรียบร้อยดี
ขณะเดียวโทรศัพท์หลายๆ เครื่อง และในแต่ละสถานที่ มีโลโก้ขึ้นหน้าจอว่าจะมีรายการพิเศษ เสียงเพลงชาติ ดังกระหึ่ม ชวนฮึกเหิม
โลโก้รายการพิเศษในร้านอาหารมีผู้คนหันมาดู
เช่นเดียวกับในบ้านชาวฮิลฟารามีคนจ้องจอภาพโลโก้รายการพิเศษ
สักครู่ต่อมา เสียงเพลงชาติเบาลง จอทีวีทุกเครื่องในฮิลฟารา ปรากฏภาพองค์อาหเม็ดออกทีวี ตรัสด้วยสุรเสียงดังกังวาน
3. ตัด
ใบหน้าอันงดงามสวยซึ้งของมิเชลล์ที่ยามนี้นั่งอยู่ในห้องนอน สงบนิ่ง แต่เต็มไปด้วยความหวัง สาวลูกผสมเงยหน้าสวดอ้อนวอนพระเจ้า มีรูปบูชา พระแม่มารี ใบเล็กๆ วางอยู่
มิเชลล์ มีสีหน้าอิ่มเอิบที่รู้ว่าชารีฟพ้นอันตราย แต่นัยน์ตากระวนกระวายลึกๆ
“ฉันเหมือนตายแล้วฟื้นขึ้นมาอีก เมื่อรู้ว่าท่านพ้นอันตราย แต่ฉันสังหรณ์ใจเหลือเกินว่าอุปสรรคของเราสองคนยังมีอีก”
มิเชลล์คิดครวญในใจ ก้มหน้าลง สะท้อนใจกับตัวเองอยู่อึดใจหนึ่ง เงยหน้าอย่างเดิม
“ฉันรู้ว่าเป็นอุปสรรคเพราะฉัน...เพราะตัวฉันใช่มั้ยคะ ชารีฟ”
ขอบคุณบทจาดผู้จัดการออนไลน์ค่ะ
ปล. ดูดเสียงคำว่า "พระเจ้า"
เพิ่มเติมตัด
สองคนเต้นรำมาจนถึงสุดท้าย หยุดนิ่ง ชารีฟก้มลง มิเชลล์เงยหน้า ปากต่อปากใกล้จะแตะกัน
(เราไม่แน่ใจว่าเค้าถ่ายฉากนี้ไหมนะคะ แต่ใน ผจก ออนไลน์มีอ่ะคะ)