นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ทราบว่าในวันที่ 9 ก.ย. อภ.จะทำการแถลงข่าวถึงปัญหาการบรรจุยาสลับกันระหว่างยารักษาโรคความดันโลหิต Isosorbide Dinitrate และยารักษาโรคหัวใจ Amlodipine โดยจะมีการเผยถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา การวางระบบในการจ่ายยาต่อไป และสาเหตุเบื้องต้นของความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ซึ่งคงต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าวถึงสาเหตุความผิดพลาดว่าเกิดจากอะไรในกระบวนการผลิต และให้นำตัวแทนของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรมมาร่วมเป็นกรรมการสอบ เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลการทำงาน รวมทั้งตั้งกรรมการตรวจสอบยาที่มีการสลับกันว่าเป็นจำนวนที่แท้จริงเท่าใด อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าเรื่องดังกล่าวคงไม่น่าจะเป็นการติสเครดิส ผอ.องค์การเภสัชกรรมคนใหม่ ที่เพิ่งมารับตำแหน่งเพียงไม่กี่วันที่ผ่านมา เนื่องจากกระบวนการผลิตมีขึ้นในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2556 อยู่ในช่วงของรักษาการ ผอ.อภ.จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบล็อตการผลิตยาดังกล่าว มีต้องการกระจายไปในโรงพยาบาล 7 แห่ง แต่มีการกระจายจริงเพียง 1-2 แห่งเท่านั้น และความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมีเพียงหลักร้อยเม็ดเท่านั้น
“ยอมรับว่าความผิดพลาดที่เกิดกับองค์การเภสัชกรรม ทำให้เสียความเชื่อถือ ต้องมีการตรวจสอบการผลิต และการตั้งคณะกรรมการสอบครั้งนี้ต้องมีสหภาพแรงงานของอภ.อยู่ด้วย ต้องมีความรับผิดชอบไม่ใช่ตั้งกรรมการมาเพื่อช่วยเหลือกัน” รมว.สาธารณสุข กล่าว
ด้าน ภญ.นุศราพร เกษสมบูรณ์ อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ยาทั้งสองชนิดเป็นยาในกลุ่มหัวใจและหลอดเลือด อย่างไรก็ตาม อาจมีข้อควรระวังในบางกรณี เช่น กรณีที่ผู้ป่วยควรจะได้รับยา Amlodipine 5 มิลลิกรัม แต่ได้รับยา Isosorbide dinitrate 10 มิลลิกรัม แทน อาจทำให้การควบคุมความดันเลือดของผู้ป่วยไม่เป็นไปตามเป้าหมายการรักษา เนื่องจากกลไกการออกฤทธิ์ของยา และขนาดยาที่ใช้มีความแตกต่างกัน ในกรณีนี้แนะนำให้ผู้ป่วยทุกรายที่ได้รับยา Amlodipine 5 มิลลิกรัม ที่ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรม ควรนำแผงยาที่ได้รับกลับไปยังสถานบริการที่จ่ายยาให้แก่ท่าน เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง หรือนำไปปรึกษาเภสัชกรใกล้บ้าน
นพ.วสันต์ อุทัยเฉลิม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ยาทั้งสองตัวเป็นยาขยายเส้นเลือด โดยยา Isosorbide dinitrate จะขยายเส้นเลือดดำเยอะกว่า ส่วนยา Amlodipine จะขยายเส้นเลือดแดงเยอะกว่า อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ป่วยจะรับประทานยาสลับกันก็ไม่ถือว่าเป็นอันตรายร้ายแรงใดๆ เพียงแต่หากมีความดันต่ำอยู่แล้วจะทำให้ความดันต่ำลงไปอีก หากประชาชนได้รับยาที่บรรจุผิดซองแล้วรับประทานไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องกังวล เพราะอาการอย่างมากอาจแค่เวียนหัว ก็ให้นั่งหรือนอนพักก็จะหายเป็นปกติ นอกจากนี้ ผู้ป่วยบางรายก็อาจจะมีแนวทางการรักษาที่ต้องรับประทานยาทั้งสองตัวควบคู่กันอยู่แล้ว
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9560000112983
อภ.ชี้บรรจุยาผิดไม่เกิน 100 เม็ด แพทย์ยันกินยาสลับกันไม่อันตราย
“ยอมรับว่าความผิดพลาดที่เกิดกับองค์การเภสัชกรรม ทำให้เสียความเชื่อถือ ต้องมีการตรวจสอบการผลิต และการตั้งคณะกรรมการสอบครั้งนี้ต้องมีสหภาพแรงงานของอภ.อยู่ด้วย ต้องมีความรับผิดชอบไม่ใช่ตั้งกรรมการมาเพื่อช่วยเหลือกัน” รมว.สาธารณสุข กล่าว
ด้าน ภญ.นุศราพร เกษสมบูรณ์ อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ยาทั้งสองชนิดเป็นยาในกลุ่มหัวใจและหลอดเลือด อย่างไรก็ตาม อาจมีข้อควรระวังในบางกรณี เช่น กรณีที่ผู้ป่วยควรจะได้รับยา Amlodipine 5 มิลลิกรัม แต่ได้รับยา Isosorbide dinitrate 10 มิลลิกรัม แทน อาจทำให้การควบคุมความดันเลือดของผู้ป่วยไม่เป็นไปตามเป้าหมายการรักษา เนื่องจากกลไกการออกฤทธิ์ของยา และขนาดยาที่ใช้มีความแตกต่างกัน ในกรณีนี้แนะนำให้ผู้ป่วยทุกรายที่ได้รับยา Amlodipine 5 มิลลิกรัม ที่ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรม ควรนำแผงยาที่ได้รับกลับไปยังสถานบริการที่จ่ายยาให้แก่ท่าน เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง หรือนำไปปรึกษาเภสัชกรใกล้บ้าน
นพ.วสันต์ อุทัยเฉลิม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ยาทั้งสองตัวเป็นยาขยายเส้นเลือด โดยยา Isosorbide dinitrate จะขยายเส้นเลือดดำเยอะกว่า ส่วนยา Amlodipine จะขยายเส้นเลือดแดงเยอะกว่า อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ป่วยจะรับประทานยาสลับกันก็ไม่ถือว่าเป็นอันตรายร้ายแรงใดๆ เพียงแต่หากมีความดันต่ำอยู่แล้วจะทำให้ความดันต่ำลงไปอีก หากประชาชนได้รับยาที่บรรจุผิดซองแล้วรับประทานไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องกังวล เพราะอาการอย่างมากอาจแค่เวียนหัว ก็ให้นั่งหรือนอนพักก็จะหายเป็นปกติ นอกจากนี้ ผู้ป่วยบางรายก็อาจจะมีแนวทางการรักษาที่ต้องรับประทานยาทั้งสองตัวควบคู่กันอยู่แล้ว
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9560000112983