เราเป็นคนนึงที่รักในพระเจ้า ไม่ว่าจะทำอะไรเราจะอธิษฐานตลอด เพียงแต่เรายังไม่ได้รับเชื่อก็เท่านั้น เราไปโบสถ์ทุกอาทิตย์ เราร้องเพลงเราอธิษฐานเผื่อตนเองและคนอื่นๆ เรารู้จักคริสเตียนที่เป็นตัวอย่างที่ดี อยู่หลายท่าน ในขณะเดียวกันเราก็รู้จักกับคริสเตียนท่านนึง เค้ารับใช้พระเจ้าด้วยเสียงเพลง เค้าเป่าแซ็กโซโฟนเพื่อสรรเสริญพระเจ้า เค้าเป็นผู้เชื่อใหม่และเพิ่งรับบัพติศเมื่อไม่นานมานี้ เราไม่ค่อยสนิทใจกับสิ่งที่เค้าปฏิบัติต่อพระเจ้า ปากเค้าพยายามบอกกับคนอื่น ๆ ที่ยังไม่เชื่อในพระเจ้าเต็มตัว ว่าเค้าเป็นคริสเตียน เค้าบอกว่าเค้าไม่ต้องทำอะไรไม่ต้องคิดอะไรอีกแล้ว เค้าสามารถทิ้งตัวลงแล้วให้พระเจ้านำทางได้เลย เค้าพร่ำบอกคนอื่นว่าจะไม่มีทางเข้าใจในความรู้สึกนี้ถ้าไม่ได้รักในพระเจ้า คำพูดของเค้าก็ฟังดูดีดูปกติไม่มีอะไร แต่เมื่อสัปดาห์ก่อนเราได้ไปที่โบสถ์แห่งหนึ่ง และได้ไปเจอกับเค้าคนนี้มา เค้าก็รับใช้พระเจ้าเช่นเคย เพียงแค่วันนั้นเป็นวันเสาร์ไม่ใช่วันอาทิตย์อย่างที่เคยเป็น พอเค้าเล่นดนตรีเสร็จ เค้าไปพูดกับอาจารย์ท่านนึงว่า "เนี่ยผมต้องลางานมาเล่นนะเนี่ย เค้าจะไล่ออกอยู่แล้วเนี่ยจะไม่มีงานทำอยู่แล้ว" เราค่อนข้างตกใจเหมือนกันที่ได้ยินคำแบบนี้จากปากคนที่เรียกตัวเองว่าคริสเตียน คือเนี่ยคือหน้าที่ของเค้า เค้ากำลังรับใช้พระเจ้าอยู่ แต่เค้ากลับพูดแบบนั้นออกมาเหมือนกับว่าไม่พอใจที่ต้องลางานมาเพื่อรับใช้พระเจ้า ก่อนหน้านั้นก่อนที่เราไปดูเค้าซ่อมเพลงสรรเสริญพระเจ้า เราก็ได้ยินเค้าบ่นตลอดว่า "เพลงน่าเบื่อ เพลงเดิม ๆ ซ่อมนานไปน่าเบื่อ ง่วง จะกลับไปทำงานทันมั๊ยเนี่ย" นู่นนี่นั่นสารพัดจากปากเค้า วันที่เค้าต้องไปเรียนพระคัมภีร์ เค้าก็บอกว่าขี้เกลียด เหนื่อย ไกล จนพระเจ้าต้องมาเตือนเค้าอยู่หลายครั้งหลายหน เราไม่เข้าใจเลยว่าเค้าพูดแบบนั้นทำไม? ตัวเองได้ชื่อว่าเป็นคนของพระเจ้าแล้วเบื่อเพลงพระเจ้าได้ยังไง แล้วที่พร่ำบอกคนอื่นว่าตัวเองรักพระเจ้าโน่นนี่นั่นล่ะ มันคืออะไร อยากจะถามทุก ๆ คนว่า แบบนี้เหมาะแล้วหรือ??? ที่จะเรียกตัวเองว่า "คริสเตียน"
คริสเตียน แต่ปาก