มีใครรู้สึกเหมือนผมมั้ยครับ ว่าโบสถ์คริสเตียน หรือคริสตจักร หลักๆใหญ่ๆใช้เวลาวันอาทิตย์มากไป?

คือผมได้มีโอกาสไปร่วมฟังที่โบสถ์แห่งนึง เป็นโบสถ์มาตรฐานแห่งนึง

โดยจะมีเป็นส่วนแรกร้องเพลงแล้วส่วนที่ 2 ก็คำบรรยาย ซึ่งรวมทั้งสองส่วนแล้วกินเวลาไปถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ผมชอบส่วนร้องเพลงมาก เพราะผมมีความรู้สึกว่ามันทำให้เข้าใกล้ชิดพระเจ้าได้มากกว่าส่วนคำบรรยายซะอีก

ซึ่งการบรรยายนั้นเป็นความรู้ ซึ่งแน่นอนมีประโยชน์ แต่คนที่ฟังไม่ได้เอาไปทำหนะสิครับ มันเลยกลายเป็นไม่มีประโยชน์ไป

และยิ่งบรรยายกันยาวๆเกือบชั่วโมง ก็ยิ่งรู้สึกว่ามันจะมีประโยชน์จริงๆเหรอ บางคนลองไปถามดูสิหลังฟังว่าได้อะไรบ้าง บางคนบอกจำไม่ได้

ผมว่าวันอาทิตย์น่าจะเป็นวันที่ได้พักผ่อน ไม่ต้องเครียดผ่อนคลาย เอาเวลาไปเที่ยว ไปทะเล ไปภูเขา

แต่ว่านี่ต้องมาฟังคำบรรยายยาวๆแบบนี้ วันธรรมดาคนส่วนใหญ่ก็ต้องทำงานยุ่งอยู่แล้วเลยอดพักผ่อนกันพอดี

ผมคิดว่าน่าจะหาเวลาศึกษาเองส่วนตัว ในเวลาที่ทุกคนสะดวกมากกว่า ที่จะต้องมานั่งฟังกันตามเวลาที่โบสถ์กำหนด

เพราะเดี๋ยวนี้สื่อเช่นยูทูป ก็สามารถเปิดคำบรรยายคำสอนฟังและดูได้ แถมดูกลับไปมาตรงที่ไม่เข้าใจได้อีก

และผมมีความคิดว่าไปโบสถ์แค่ เดือนละ 1 ครั้ง หรือแล้วแต่ว่าอยากไปก็ไป แต่ต้องไปบ้าง จะดีกว่า ที่ต้องมากำหนดว่าควรไปทุกวันอาทิตย์

ผมว่าเราเข้าใกล้พระเจ้า ตอนดำเนินชีวิตประจำวันได้มากกว่า ที่ต้องมาบังคับให้โบสถ์  (บังคับทางอ้อมนะครับ จริงๆใครไม่ไปก็ได้)  

หมายความว่า เราตื่นมาอ่านไบเบิล อธิษฐาน  และตลอดทั้งวันเราก็คิดถึงพระเจ้าอยู่เสมอ ในการกระทำต่างๆ ให้สอดคล้องกับไบเบิล อธิษฐานในใจเรื่องต่างๆเกือบทั้งวัน คือมีพระเจ้าอยู่ด้วยตลอด

ผมว่ามันเวิร์กกว่าที่ต้องไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ ด้วยความเบื่อหน่ายที่ต้องฟังอะไรยาวๆ

จริงๆผมก็ไม่ถึงกับเบื่อนะ แต่รู้ว่ามันมีอะไรถูกต้องในเรื่องความยาวและเวลาที่ใช้

เวลาที่ผมว่าเหมาะคือ ร้องเพลงสรรเสริญ 30 นาที บรรยาย 15 นาที แล้วจบเลย

ที่เหลือไปศึกษาค้นคว้าต่อเอง

แต่ผมคิดว่าศิษย์ยาภิบาล หรืออาจารย์ต่างๆก็คงไม่ชอบเพราะเหมือนตัวเองมีคุณค่าน้อยลง

ก็แก้ไขโดยให้สอนต่อทางยูทูปที่บันทึกไว้ใครอยากเปิดดูก็ดูตรงนั้นจะดีกว่ามั้ย

คุณว่าความคิดเห็นผมเป็นยังไงครับ?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่