ราคายางกิโลละกรัมละ 80 บาทเพียงพอหรือไม่ อยู่ได้หรือไม่ เรามาดูกันครับ!!

ราคายางกิโลละกรัมละ 80 บาทเพียงพอหรือไม่ อยู่ได้หรือไม่ เรามาดูกันครับ!!
* บางคนหาว่าผมเป็นคนนอกแล้วมามั่วคิดให้ดู ต้องขอบอกก่อนว่า ก็ผมเป็นชาวสวนยางไงครับ ผมถึงคิดให้ดูได้ถึงขนาดนี้ ^_^

วิธีคิดค่าใช้จ่าย รายได้จากการทำสวนยาง รายเดือน กรณี 10 ไร่ ระยะเวลาเก็บเกี่ยวน้ำยาง9เดือนต่อ1ปี (อีก 3 เดือนเป็นช่วงผลัดใบ เผื่อฝนตกด้วยรัยด้วย บางสวนจะงดเว้นการกรีดยาง เพื่อให้ต้นสมบูรณ์ บางสวนก็กรีดกันจนไบร่วงหมดแตกยอดอ่อนมาก็เริ่มลุย)
1. ค่าปุ๋ย+ยากำจัดศัตรูพืชหรือน้ำมันใส่เครื่องกำจัดวัชพืช ค่าเคมีภัณฑ์ที่ใช้บำรุงรักษาสวนยาง
    - ปุ๋ย ใส่ปีละ 1 หน ไร่ละ 1000 บาท - 10ไร่ 10000 บาทต่อปี/9 เดือน = 1111 บาท (500กิโลกรัม)
    - เคมีภัณฑ์อื่นๆปีละ 3 หนไร่ละ 100 บาท - 10ไร่ 3000 บาทต่อปี/9 เดือน = 333 บาท
2. ค่าแรงในการบำรุงรักษาสวนยาง
    - ค่าแรง (ขั้นต่ำ) วันละ 300 (ที่เค้าว่ากันว่าแพงนักแพงหนา) 10ไร่ทำงานวันเดียวก็เสร็จ ตีเป็นจ้างคนงานเดือนละ 1 ครั้ง ครั้ง 2 คน (300x2) = 600

รวมต้นทุนรายเดือนคงที่เบื้องต้น 2,044 บาท
เมื่อกรีดยางจะได้ประมาณ ไร่ละ 1.5 กิโลกรัม (อันนี้น้ำหนักเมื่อเป็นยางแผ่นเรียบร้อยแล้วนะครับ ไม่ใช่น้ำยางดิบ แต่ละแผ่นก็ประมาณ 1-1.5 กิโลล่ะครับ อยู่ที่คนตวงใส่ถาดยาง) หรืออาจมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับอายุของยาง ขนาดต้นยาง และพันธุ์ยางครับ  บางสวนมีใช้สารเร่งก็ออกมาเยอะกว่านี้ครับ ผมคำนวนขั้นต่ำเลยครับ
10 ไร่ คือ 10x1.5 = 15 กิโลกรัมต่อวัน
การตัดยางส่วนใหญ่ถ้าฝนไม่ตกจะตัด 2 วัน เว้น 1 วัน จึงคิดเป็น 20 วันต่อเดือนละกันนะครับ
ดังนั้น 1 เดือนจะได้ผลผลิตยางแผ่น 20x15 = 300 (กิโลกรัม)
ถ้ายางกิโลกรัมละ 80 ชาวสวนจะได้รายได้ประมาณเดือนละ 80x300 = 24000 บาทครับ เมื่อหักต้นทุนรายเดือนคงที่เบื้องต้น 2044 บาท ก็จะเหลือเดือนละ 21,956
แล้วชาวสวนยางส่วนใหญ่เจ้าของสวนจะไม่ค่อยได้ทำเอง ส่วนใหญ่ถ้าไม่จ้างแรงงานต่างด้าวอย่างพม่าก็จะจ้างคนที่รับจ้างรายวัน ซึ่งไม่มีพื้นที่เพาะปลูกเป็นของตนเอง โดยแบ่งจ่ายด้วยอัตราที่เป็นที่นิยมคือ ร้อยละ 40 (40%) ซึ่งจะเหลือให้เจ้าของสวน 60%  ในกรณี 10 ไร่ที่ว่านี้หลังหักค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนรายเดือนคงที่เบื้องต้นแล้วจะคิดเป็น 21,956 * 60/ 100 = 13173 เห็นได้ว่าเจ้าของสวนจะมีรายได้ 13173 ต่อเดือน ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้เจ้าของสวน ไม่ได้ลงมือลงแรงเองเลยแม้แต่น้อย จะเหนื่อยก็แค่เข้าสวนไปตรวจตราคนงานก็เท่านั้น ทุกอย่างจ้างหมด มี10 ไร่ได้สดๆเดือนละ 13,173

สรุป 10 ไร่ก็
((24,000-2,044))*60/100 = 13,173 บาท/เดือน
แล้วถ้ามี 20 ไร่ก็
(((24,000x2)-(2,044x2)))*60/100 = (48000-4088)*60/100 = 26,347 บาท/เดือน
แล้วบางคนพื้นที่เยอะหน่อยมี 50 ไร่ก็
(((24,000x5)-(2,044x5)))*60/100 = (120,000-10,220)*60/100 = 65,868 บาท/เดือน
แต่ที่มีคนละ 100 ไร่ก็เยอะเหมือนกัน ไม่ว่ารุกป่า บุกป่ามาบ้างอะไรบ้าง พวกนี้จะเป็นนายทุนซะส่วนใหญ่(คนรวยประจำอำเภอ) ก็จะได้
(((24,000x10)-(2,044x10)))*60/100 = (240,000-40,880)*60/100 = 119,472 บาท/เดือน

ทั้งหมดที่คิดให้ดูนี้เอามาเฉพาะกรณีเจ้าของสวนจ้างทั้งหมดนะครับ แหม่ ... เหลือเวลาไปทำมาค้าขาย และประกอบธุรกิจอย่างอื่นเสริมอีกด้วยเต็ม ๆ ในสวนยางเองก็ยังปลูกมะพร้าว ปลูกหมากแซมได้บ้าง แต่ไม่เยอะ อันนั้นแค่เสริมไว้กิน ไว้ใช้ได้ส่วนหนึ่ง ท่านผู้อ่านโปรดพิจารณาเอาเองนะครับ ว่าอยู่ได้มั้ย ผมก็คนใต้และเคยเป็นชาวสวนยางคนนึงเหมือนกัน แต่ปัจจุบันมาเป็นเจ้าของสวนปาล์มแล้วครับ แต่โดยความคิดเห็ฯส่วนตัวผม ผมว่า แค่นี้มันน่าจะพอแล้วครับ ที่เหลือจากนี้ ที่เขายังไม่พอกัน เกิดจากอะไรก็ต้องไปคิดกันเอาเองครับ มันอยู่ที่การบริการบัญชีครอบครัวของแต่ละครอบครัว ^_^

****เรื่องค่ากรีด ค่าเก็บ ค่าทำแผ่น****
#หลายคอมเม้นต์อาจจะอ่านไม่ละเอียดแล้วคอมเม้นต์นะครับ คืออยากให้เข้าใจกันว่า ในกรณีที่ผมยกตัวอย่างเนี่ย เจ้าของสวนจ้างทั้งหมด ไม่ทำเองเลย (ปกติถ้ามีพื้นที่ไม่เกิน 40 หรือ 50 ไร่เค้าก็ทำกันเองในครอบครัวนะ) ทีนี้มีหลายคนถามว่า แล้ว กรีด ยาง ทำยางนี่ทำคนเดียวหรอ ก็ผมบอกไปแล้วว่า รายได้ทั้งหมดเนี่ยหัก 40% เหลือให้เจ้าของสวน 60% (ที่ผมเอาไป x60 หาร 100 นั่นแหละครับ) ไม่ว่าคุณจะเอาคนมาลุยซักร้อยซักพันคน คุณก็จ่ายคนกรีดคนทำแผ่นไป 40% เจ้าของสวนได้สทุธิ 60% ประเด็นนี้ผมน่าจะเคลียร์นะครับ

#อย่าพยายามให้ผมคิดให้ดูตั้งแต่เพาะปลูก จนตัดไม้ขายเลยครับ ผมเห็นมีหลายคอมเม้นต์มาก ประเด็นคือ ณ ปัจจุบัน 80/กิโลกรัมเนี่ย ปัจจุบันอยู่ได้หรือเปล่านะครับ (พออยู่ได้นะครับ) ไม่ใช่ว่า การที่คุณปลูกยางมาตั้งแต่แรกจนตัดไม้เนี่ย ราคานี้คุ้มทุนหรือเปล่า เพราะราคาเป็นไปตามกลไกตลาด แต่ละปีไม่เท่ากัน ถ้าไม่งั้นผมต้องมาไล่คิดให้ตามราคายางแต่ละปีที่ผ่านมารวมถึงคำนวนคาดการณ์ล่วงหน้าให้ดูเลยทีเดียว

#ใครยังไม่เข้าใจเรื่องฝนและจำนวนวันที่ได้ผลผลิต (เฉลี่ย20วันต่อเดือน) ลองไปอ่านกรณีตัวอย่างที่ ความคิดเห็นที่ 94 นะครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



หลายคนเข้ามาหลากหลายประเภทแต่ผมอยากฝากไว้ว่า "ความจริงหลีกเลี่ยงไม่ได้ บิดเบือนยิ่งทำลายครับ"
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 50
ผมเจ้าของ สวนยางกรีดได้ 40 ไร่  ยังไม่กรีดประมาณ 20  แต่มีอาชีพอื่นด้วย ปาล์มมี ประมาณ 100 ไร่
ขอยืนยันว่า ยาง เป็นอาชีพเกษตร ที่ดีที่สุดในตอนนี้ แน่นอน ดีกว่า ปาล์ม ดีกว่า กาแฟ พริกไทย ทุเรียน เงาะ มังคุด
ยอดอาจไม่เท่ากัน แต่ราคา 80 ขอยืนยันว่า อยู่ได้อย่างสบายๆ มีเหลือเก็บด้วย ถ้าเทียบกับอาชีพอื่น

ดีกว่าพวกรับราชการ บางตำแหน่ง ดีกว่าพวกทำโรงงาน ทำประมง หรืออื่นๆ  ถ้ายืนไม่ต่ำกว่าราคานี้นะ
ถ้าราคา เกิน 100 คือเศรษฐีครับ เตรียมซื้อรถใหม่ ซื้อที่ปลูกยางเพิ่ม หรือทำบ้านใหม่ได้เลย  นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นตอนยางเกิน 100
ผมจ้างคนกรีด 1 ครัว 2 คนผัวเมียครับ เป็นคนอิสาน กรีด 40 ไร่ ไหวแน่นอน  คนอื่นถ้าไม่ไหว คงเจอคนไม่ค่อยสู้งานเท่าไหร่
แบ่ง 60-40 ครับ  จะไม่อธิบาย เพราะเขาบอกละเอียดแล้ว อาจต่างกันไม่มาก แต่ขอบอกว่าเฉพาะยาง ชาวใต้ อยู่ได้แน่นอน ดีกว่าอาชีพอื่นด้วย

นี่ตัดวันฝนตก อุปสรรคหนึ่งของยางคือ ฝนตก กรีดไม่ได้  อีกอย่างคือลมแรงทำให้ยางล้ม  ถ้าล้มแล้ว ทำไง ก็กรีดไม่ได้แล้ว
แต่บางเดือนก็ไม่ตกเลย ชดเชยได้แน่นอน และคนเราไม่อยู่นิ่ง อาชีพอื่นมี รายได้เสริมต้องมีครับ  ส่วนใหญ่ที่ไม่พอ คือมียาง ก็รอยางอย่างเดียว
อันนี้ช่วยไม่ได้ เพราะถ้าเวลาหนึ่ง ราคายางตลาดโลก เหลือ 20 บาท ต่อให้รัฐช่วยเพิ่มเป็น 50 บาท คุณก็ตายอยู่ดี
อ้อ อีกอย่างถ้าแช่น้ำท่วม ก็ไปเหมือนกัน นี่คือความเสี่ยงของยาง  แต่ที่สำคัญที่สุด คนกรีด ถ้าโกง ฝีมือไม่ถึง ป้ายยา ยิ้มได้เช่นกัน

แล้วคนใต้รู้ไหมว่า ต่อไปยางอาจจะถูก   ตอบ  ไม่รู้คนอื่นรู้รึเปล่า แต่เชื่อว่าส่วนใหญ่รู้ เพราะตอนนี้ พม่า ลาว เขมร เวียดนาม ปลูกยาง
สุดลูกหูลูกตา  ที่ดินแถว เมืองกาญจน์ ประจวบ ฯลฯ  ถูกบุกป่า ปลูกยางหมด ต่างกับเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ที่ยางพารา=ปลูกที่ภาคใต้เท่านั้น
และวัฎจักรพืชเกษตรทุกชนิด มีขึ้นมีลง มีเยอะ ก็จะราคาถูก ผมว่าทุกคนรู้   ที่สำคัญ ถ้ายางที่จีนปลูก กรีดได้ ก็ตัวใครตัวมัน
ขึ้นอยู่กับแต่ละคน ต้องวางแผน หาแนวทางให้ดี    

ยาง ไม่ดี เปรียบเทียบกับข้าว ว่า 2 มาตรฐาน ไม่ยุติธรรม  เอาง่ายๆ ถ้าวันนี้ ต่อให้ จำนำข้าวได้ตันละ 20,000  ปีนี้ปลูกเลย
ผมเชื่อว่า ไม่มีชาวสวนยางคนไหน กลับไปปลูกข้าวแน่นอน  จะมีก็แต่นาข้าว ที่แปรสภาพเป็นสวนยางเท่านั้นในประเทศไทยนี้
เพราะอะไร ปลูกข้าว ยาก และหนักกว่ามากๆ ครับ  ความเสี่ยงมากกว่าด้วย ทำปีละครั้ง-2 ครั้ง เสี่ยง ถ้าน้ำท่วม แมลง ก็สูญ และเหนื่อย
มาก หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน คนบ้านผมยุคนี้ ไม่มีใครทำ  ขนาดสวนยาง สบายกว่าเยอะจ้างคนใต้มาก่อนหน้านี้ 2 ชุด ทำได้ไม่กี่วัน ได้เงินแล้วหนีเลย
บ้านผม ไม่เอาพม่า เพราะเดี่ยวนี้เล่ห์เหลี่ยมไม่แพ้ไทย ตามยาก

ถ้าให้ 120 ได้  ผมไม่ขัดข้อง ได้ตังค์เพิ่มเยอะๆๆ เลย   แต่ถามว่าสภาพตอนนี้เกินไปไหม  ตอบว่า เกินไป เกินจริง
ผมงงอย่าง ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน เพื่อน พรรคพวกผม นั่งด่า โครงการจำนำข้าว จะทำให้ประเทศชาติยิ้ม นโยบายอย่างนี้ต้องเลิก รักประเทศชาติ
กันอย่างแรง  แต่วันนี้ จะเอายาง 120  อ้าว แล้ววันนี้ ไม่ห่วงประเทศชาติแล้วเหรอ ไม่กลัวชาติล่มจมเหรอ

เศรษกิจพอเพียง เห็นท่องกันมา 2-3 ปี  วันนี้ หายไปไหนกันหมดแล้ว  ผมว่าค่านิยมรึเปล่า เมื่อก่อนชาวสวนใต้ลำบากกว่านี้ แต่สภาพสังคม
จิตใจคน สู้ มากกว่านี้ สู้ ไม่ใช่นักเลง แต่สู้ชีวิต ไม่กลัวอด ไม่กลัวลำบาก  หรืออาจเป็นเพราะ เมื่อก่อนปลาก็หาในคลอง ในนา ทงเบ็ด ผักก็เก็บ
เอา ผักเหลียงลวกกะทิ จิ้มน้ำพริก  อยู่กันแบบบ้านๆ เดี่ยวนี้ไม่ได้ มันเปลี่ยนไปหมดแล้ว ก็ยอมรับว่าเดี่ยวนี้เงินเป็นใหญ่  

แต่ถ้าให้อุดหนุนยางเกินจริงขนาดนี้ ผมก็ว่าน่าจะเกินไป ซัก 80 ขึ้น สบายๆ แล้ว ยกเว้นคนใช้เกินตัว ยังไงก็ไม่สบาย
อีกอย่างที่ปลูกยาง ปาล์ม ไม่ต่ำกว่าครึ่ง ไม่มีเอกสารสิทธิ์หรอก ครึ่งจากนั้นอีกที่บุกครับ ป่าสงวน อุทยานฯลฯ ครับ บุกจนอยู่เป็นหมู่บ้านหมดแล้ว
ป่าทางใต้ มีแต่ด้านหน้าที่มองเห็น พรางตา ด้านในโล้น เป็นยางหมดแล้ว  เสียภาษีรึเปล่า คิดเอง

ยอมรับทุกครั้งก็เลือก ปชป.  มันเป็นดีเอ็นเอ  แต่ไม่เห็นด้วยกับการปิดถนนคราวนี้
ความคิดเห็นที่ 31
ตอนนี้ภาพม็อบสวนยาง ในความคิดของชาวบ้านชาวเมืองคือเป็นการฉวยโอกาสปล้นชาติ ปล้นภาษีประชาชนนะ
ประเทศนี้มีเกษตรกรที่ปลูกพืชเศรฐกิจหลายชนิด ทั้งข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ถ้าเกษตรกรทุกกลุ่มทำเหมือนกัน คือ
รัฐจะต้องชดเชยราคาให้ข้าเท่าที่ข้าพอใจ ถ้าไม่ได้ ข้าจะปิดถนน ไม่ให้คนสัญจร
บ้านเมืองจะไปรอดอย่างไร คงชิปหายทั้งประเทศ

เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่น่าละอายใจ หน้าด้านไร้ยางอาย เห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจที่สุด ไม่เห็นใจคนอื่น
พรรคการเมืองใด ที่อยู่เบื้องหลังม็อบถ่อยพวกนี้ คนในประเทศอย่าสนับสนุน เพราะทำให้ประเทศหลงทาง
ผู้คนหลงผิด ติดนิสัยอันธพาล ไม่รู้จักเพียงพอ กลายเป็นคนขี้ขอ ไม่มีศักศรีของความเป็นคน
ความคิดเห็นที่ 1
ก็มันเรื่องของการเมืองซะส่วนใหญ่อะ
ความคิดเห็นที่ 76
ผมถามว่า คำว่า " เกษตรกรสวนยาง "   นี่หมายถึง คนรับจ้างกรีดยางด้วยหรือครับ
ผมว่าเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า  คนกรีดยาง ที่ไม่ใช่เจ้าของสวนเอง นี่ คือ  คำทำงานรับจ้าง  นะครับ
ไม่ได้ต่างจากพวกรับจ้างทั่วไป รับจ้างดายหญ้า รับจ้างเก็บกาแฟ รับจ้างแทงปาล์ม รับจ้างเกี่ยวข้าว  รับจ้างในโรงงาน  

แต่เป็น คนรับจ้าง  ที่มีสิทธิ์ มีฐานะเหนือกว่า อาชีพ รับจ้างอื่นๆ มาก
ด้วยความที่คนรับจ้างกรีดยาง เป็นส่วนสำคัญ คือถ้าเจ้าของไม่ได้กรีดเอง  คนกรีดต้องมีฝีมือ และไว้ใจได้
จึงต้องมีแรงจูงใจ  พูดง่ายๆ ว่า เอาใจเหนือกว่าคนอาชีพรับจ้างอื่นว่างั้นเหอะ

อัตรา 60-40  หรือ 50-50  เป็นส่วนแบ่งที่ไม่มีในอาชีพรับจ้างไหน ไม่มีอาชีพไหนที่นายจ้าง ให้ลูกจ้างมากขนาดนี้
ทุกสิ่งเพราะเป็นแรงจูงใจ ให้มากรีดยางให้  เกิดจากการแย่งตัวคนกรีด มีฝีมือ ในช่วงยางแพง  คืออย่ากรีดสวนโน้น
มาอยู่กับผมดีกว่า ผมให้ 40 เลย  จนช่วงหลังกลายเป็น วัฒธรรมคนกรีดยาง

และคนรับจ้างมีที่ไหน ที่เจ้าของสวน ทำบ้านพักให้ มีน้ำไฟ พร้อม ไม่งั้นคนไทยไม่อยู่  จะอยู่ได้คือพม่า
สรุปคือ ขอให้มีแต่ตัว ไม่ต้องลงทุนอะไร ใช้แรงและฝีมือแลกเงิน พร้อมรับส่วนแบ่งจากเจ้าของสวน
จะไม่อยู่บ้านที่เจ้าของสวนสร้างให้ก็ได้ ขอให้มากรีดได้  แต่ส่วนใหญ่ ทำบ้านให้พร้อม อยู่ในสวน
จะมีออกบ้างก็คือ เจ้าของสวนให้ช่วยค่าปุ๋ย  แล้วแต่จะตกลงกัน  ส่วนใหญ่คนละครึ่ง หรือบางคนก็ไม่ขอ เจ้าของออกเองหมด
ซึ่งก็ไม่ใช่การลงทุนอะไร เพราะเอาเงินที่เจ้าของแบ่งให้นั้นแหละ ทอนกลับให้เจ้าของ นิดหน่อย

ผมก็ยังงงว่า ตอนแรกบอกเกษตรกรสวนยางเรียกร้อง  นี่รวมถึงคนกรีดด้วยเหรอ  
ถ้าอย่างนั้น คนรับจ้างเก็บกาแฟ ก็คือ เกษตรกร สวนกาแฟ  คนรับจ้างแทงปาล์ม ก็คือเกษตรกร สวนปาล์ม  เหมือนกันแหละครับ
ซึ่งผมว่า มันใช่เหรอ  
ผมงง หลายคน ซึ่งผมไม่รู้ว่ามีสวนยางรึเปล่า ที่บอก 40 ไร่ กรีด 2 คน ไม่ได้  นี่  คุณเคยทำสวนยางจริงรึเปล่า
ผมจะบอกให้ คนรับจ้างกรีดนะ ไม่ได้กรีดสวนเดียวด้วย อยู่บ้านพักที่เราสร้างให้ กรีดให้สวนเรา ได้ส่วนแบ่งจากเรา
แต่เขากรีดสวนอื่นด้วย ทุกสวนมีวันพักครับ ถ้าคนไหนขยัน ก็ไปกรีดสวนอื่นด้วย  ไม่นับที่แอบกรีด ลักยาง บอกไม่ครบ
นี่คือเรื่องจริง คนกรีด เจ้าของสวนที่ไม่ได้ทำเอง รู้อยู่แก่ใจว่า ต้องมีการเบียดบังบ้างอยู่แล้ว แต่อย่าให้มากเกินควร อย่าให้น่าเกลียด
คือได้ส่วนที่เจ้าของพอใจ ต้นยางไม่เสีย ไม่ป้ายยาเร่ง จะแอบบ้าง ก็หยวนๆ

จริงๆ ก็คือ อาชีพรับจ้างกรีดยาง ที่มีเงินไม่พอใช้ ซึ่งไม่ได้ต่างจากอาชีพรับจ้างอื่น นะ  จะนับเป็นเกษตรกรสวนยางด้วยเหรอ
แล้วในบรรดาอาชีพรับจ้าง โดยเฉพาะเกี่ยวกับการเกษตร หรือรับจ้างอื่นๆ ขอท้า ไม่มีใครรายได้เท่า คนกรีดยาง(ราคาเกิน 80) แน่นอน
ความคิดเห็นที่ 63
บ้านเราไม่มีสวนยางนะ แต่เคยเป็นเกษตรมีสวนผลไม้หลายอย่าง  ปัญหาปลีกย่อยของการทำการเกษตรมันเยอะ ต้องต่อสู้สารพัด แต่ก็ไม่คิดเรียกร้องอะไรให้ใครมาช่วยเรานะ เพราะพอเจอปัญหาแล้วทุกอาชีพจะต้องเรียกร้องให้รัฐช่วยมันก็แย่สิ พอกลุ่มนี้ได้ กลุ่มโน้นเอาบ้าง ก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี เวลาราคายางดี เราก็เห็นคนแถวบ้านซื้อรถใหม่ ซื้อโน่นนี่กัน ใช้เงินแบบสุดเหวี่ยงก็เยอะ บางคนล้มสวนผลไม้มาปลูกยางก็เยอะ เพราะบอกว่ารายได้ดี อะไรดีแห่ทำตามกันมากมาย เมื่อของมีมาก  แต่ความต้องการไม่ได้มากตามขนาดนั้น ราคาก็ต้องถูก  รัฐเขาขอให้พวกคุณปลูกรึ ถึงได้เรียกร้องกันจนเกินเหตุขนาดนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่