ขณะที่ผมกำลังปั่นจักรยานเสือหมอบขึ้นเขาได้ครึ่งทางจะถึงเป้าหมายบนยอดเขา ก็มีเสียงมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ไล่ตามหลังมา
เมื่อใกล้มาถึงตัวผม บิ๊กไบค์คันนั้นก็ยกคันเร่ง บีบคลัตช์ แล้วกระแทกคันเร่งเป็นนัยท้าทายอีก 2-3 ที
ผมลุกขึ้นโยก แล้วกดเท้าลงบันใดอย่างสุดแรงเพื่อเร่งหนีเสียงมอเตอร์ไซค์ทั้งๆ ที่รู้ว่ายังไงก็แพ้
จากนั้นผมก็ถูกแซงหน้าขึ้นไปตามความคาดหมาย แต่ก็ยังไล่ตามอย่างไม่ลดละ
สำหรับหญิงสาวที่นั่งซ้อนท้าย ภาพนี้คงเป็นภาพที่น่าประหลาดใจสำหรับเธอเป็นอย่างมาก
ถึงผมจะปั่นจักรยาน และในสายตาของคนทั่วไปจักรยานของผมอาจดูจิ๊บจ๊อยเมื่อเทียบกับ Z800 คันใหญ่
แต่จักรยานของผมก็มีชิมาโน่ ดูราเอซ กรุ๊ปเซ็ต และที่แน่ๆ บนอานจักรยานก็ยังมีผม
ที่ช่างแสนจะดูเท่ห์ ดูมีเสน่ห์ มีพลัง มีเป้าหมายไม่น้อยไปกว่าคนที่เธอซ้อนอยู่เสียนี่กระไร ผมคิดเข้าข้างตัวเองในใจ
เธอหันกลับมามองพร้อมกับรอยยิ้มและแอบโบกมือเบาๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้
ผมดีดกระดิ่งแคทอายส์ที่ซื้อมาติดเป็นออพชั่นเสริม ไว้สำหรับดีดทักทายพรรคพวกจักรยานด้วยกันโดยเฉพาะ
แต่คราวนี้ไม่ ครั้งนี้ผมดีดกระดิ่งแซวหญิง พร้อมกับยิ้มและโบกมือตอบแบบไม่กลัวคนขี่จะหันมาค้อน
จากนั้นรอยยิ้มของเธอก็เปลี่ยนอาการหัวเราะตาหยีจนเป็นเส้นครึ่งวงกลม
ข้างหน้ามี 2 โค้งตัวเอส ทันใดนั้นคนขี่ Z800 ก็จัดท่าทาง เตรียมแบนโค้งด้วยท่าแฮงค์ออน
จากนั้นพลิกตัวไปมาด้วยลีลาเข่าเช็ดพื้นละม้าย วาเลนติโน่ รอซซี่ เพื่อให้เธอเสียวเล่นๆ
ได้ผล ... เธอตบหลังคนขี่ดังพั๊วะ "ขี่ดีๆ สิยะ!" จากนั้น Z800 คันนั้นก็หายลับตาไป
นี่คือความสุขเล็กน้อยของการได้ล้อเล่นกันระหว่างเสือภูเขากับเหล่าบรรดาสิงห์มอเตอร์ไซค์
ทุกคนมีเป้าหมายที่จะขึ้นมาสัมผัสกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์ในหุบเขาแห่งนี้ แล้วแต่ว่าเขาจะเลือกสร้างความสุขด้วยวิธีใด
ส่วนผมเลือกที่จะมอบความสุขให้กับชีวิตด้วยการให้เหงื่อออกด้วยจักรยาน แล้วขึ้นไปรับลมเย็นเมื่อถึงจุดชมวิวบนยอดเขา
ซึ่งวันนี้ก็เช่นกัน ผมขึ้นเขาอย่างเอาเป็นเอาตายเช่นเคย เมื่อใกล้ถึงยอดเขา บรรยากาศเริ่มเบาบางทุกขณะ
ผมหายใจหอบเหนื่อย ก้มหน้ามองพื้น ขาแทบหมดเรี่ยวแรง ในเวลานั้นจะมีใครสนเราไหมนะ ร่างกายมันช่างเหนื่อยล้าเหลือเกิน
แต่ก็เป็นยังงี้ทุกวันแหละน่ะ อย่าสนใจเลย ปั่นต่อไปเดี๋ยวก็ถึงเอง ผมให้กำลังใจตัวเองไปเรื่อยๆ
ใกล้ถึงจุดหมายแล้ว ทางเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ ขาผมสั่นจนรู้สึกได้ จักรยานเริ่มเซ เป๋อย่างกับงูเลื้อย
แล้วในที่สุดผมก็ถึงยอดเขาจนได้ด้วยสภาพที่หมดแรง ตายังมองพื้นอยู่ ผมรีบปลดคลิปเลสที่เท้าออก
ตั้งใจจะจูงจักรยานไปพิงต้นไม้แต่ว่าไม่ทันแล้ว ผมหมดแรงเกินไปจึงล้มไปพร้อมกับจักรยานบนหญ้านุ่มๆ แถวนั้น
คิดในใจว่าเมื่อกี๊ไม่น่าไล่ Z800 เลยให้ตายสิ ทั้งๆ ที่ยังนอนอยู่ผมเอื้อมมือไปดึงน้ำจากขวดที่ติดอยู่ที่เฟรมจักรยาน
บีบน้ำจากขวดใส่หน้าเพื่อลดความร้อนแรงในร่างกาย อา... ค่อยยังชั่ว
ผมมองหน้าขึ้นฟ้า แม้แสงแดดจะเริ่มหมดไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังสว่างมากพอที่จะทำให้ผมต้องหรี่ตาลงได้
ผมหลับตาตั้งใจจะฟังเสียงไม้เสียงนก
"เหนื่อยไหมคะ" เสียงใสๆ ดังแว่วปะทะเข้ามาในหู
ผมหันไปมองทั้งๆที่นอนอยู่ ก็พบกับหญิงสาวกำลังหัวเราะอยู่ เธอคงขำที่ผมหมดสภาพแบบนี้ แถมตอนใกล้ถึง
ผมยังเซไปเซมาไม่มีมาดของนักกีฬา ตรู เดอ ฟรองซ์ แบบในข่าวกีฬาที่เคยดูเลย
เธอนั่งอยู่ที่ราวไม้ที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ทำไว้ให้นั่งชมวิว หันหน้ามาทางผมด้วยความสนใจ เธอนั่งรอผมอยู่ก่อนแล้ว
ลองนึกอีกที เธอคนนี้ช่างคุ้นตา เหมือนเคยเห็นที่ไหน อา... สาวน้อยที่ซ้อน Z800 คันนั้นนั่นเอง
นัยตาใสแจ๋ว พร้อมรอยยิ้ม มีลักยิ้มเล็กๆ เธอคนนี้ดูใกล้ๆ น่ารักดีไม่น้อย
เธอมาพร้อมกับเพื่อนของเธอที่ขึ้นมาก่อนแล้ว 3-4 คน
แต่ละคนมีกล้องแมนน่วลพร้อมขาตั้ง รวมทั้งเจ้าของ Z800 คันนั้นด้วย
ที่เสื้อปักตัวอักษรไว้ว่า Photo Club 56 กำลังตั้งกล้องกันอยู่เพื่อรอถ่ายภาพอาทิตย์อัสดงยามเย็น
เธอหันหลังตะโกนบอกเจ้าของ Z800 "นี่... เปลี่ยนเลนส์ให้พี่หน่อยสิ อยู่ในกระเป๋ากล้องพี่อ่ะ เอาฟิกซ์ 50 นะ"
เสียงตะโกนกลับมาว่า "โห่... เจ๊อ่ะ ยิ่งรีบๆ อยู่ด้วย แสงจะหมดแล้วด้วย" เจ้าของ Z800 ตอบด้วยอารมณ์วัยรุ่นเซ็ง
เดาว่าพวกเธอคงพารุ่นน้องในชมรมมหาวิทยาลัยแถวๆ เชิงเขานี่ขึ้นมาถ่ายภาพกระมัง
"ขอยืมจักรยานหน่อยได้ไหมคะ?" เธอยิ้มและยิงคำถามมา จากนั้นการสนทนาของเราก็เริ่มต้นขึ้น
=================================
เรื่องสั้นนี้ผมแต่งไว้เมื่อปี 49 และโพสต์ลงในเว็บ thaimtb.com
พอดีค้นเจอ และอยากลองโพสต์ลงห้องถนนนักเขียนพันทิปบ้าง
จึงได้มีการดัดแปลงเนื้อเรื่องเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับปี 56
และขออนุญาตแท็กให้ห้องอื่นที่มีกิจกรรมเกี่ยวกับเนื้อหาในเรื่องด้วยนะครับ
อ่านกันขำๆ น๊าาาา
[เรื่องสั้น] จักรยานเสือผู้หญิง
เมื่อใกล้มาถึงตัวผม บิ๊กไบค์คันนั้นก็ยกคันเร่ง บีบคลัตช์ แล้วกระแทกคันเร่งเป็นนัยท้าทายอีก 2-3 ที
ผมลุกขึ้นโยก แล้วกดเท้าลงบันใดอย่างสุดแรงเพื่อเร่งหนีเสียงมอเตอร์ไซค์ทั้งๆ ที่รู้ว่ายังไงก็แพ้
จากนั้นผมก็ถูกแซงหน้าขึ้นไปตามความคาดหมาย แต่ก็ยังไล่ตามอย่างไม่ลดละ
สำหรับหญิงสาวที่นั่งซ้อนท้าย ภาพนี้คงเป็นภาพที่น่าประหลาดใจสำหรับเธอเป็นอย่างมาก
ถึงผมจะปั่นจักรยาน และในสายตาของคนทั่วไปจักรยานของผมอาจดูจิ๊บจ๊อยเมื่อเทียบกับ Z800 คันใหญ่
แต่จักรยานของผมก็มีชิมาโน่ ดูราเอซ กรุ๊ปเซ็ต และที่แน่ๆ บนอานจักรยานก็ยังมีผม
ที่ช่างแสนจะดูเท่ห์ ดูมีเสน่ห์ มีพลัง มีเป้าหมายไม่น้อยไปกว่าคนที่เธอซ้อนอยู่เสียนี่กระไร ผมคิดเข้าข้างตัวเองในใจ
เธอหันกลับมามองพร้อมกับรอยยิ้มและแอบโบกมือเบาๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้
ผมดีดกระดิ่งแคทอายส์ที่ซื้อมาติดเป็นออพชั่นเสริม ไว้สำหรับดีดทักทายพรรคพวกจักรยานด้วยกันโดยเฉพาะ
แต่คราวนี้ไม่ ครั้งนี้ผมดีดกระดิ่งแซวหญิง พร้อมกับยิ้มและโบกมือตอบแบบไม่กลัวคนขี่จะหันมาค้อน
จากนั้นรอยยิ้มของเธอก็เปลี่ยนอาการหัวเราะตาหยีจนเป็นเส้นครึ่งวงกลม
ข้างหน้ามี 2 โค้งตัวเอส ทันใดนั้นคนขี่ Z800 ก็จัดท่าทาง เตรียมแบนโค้งด้วยท่าแฮงค์ออน
จากนั้นพลิกตัวไปมาด้วยลีลาเข่าเช็ดพื้นละม้าย วาเลนติโน่ รอซซี่ เพื่อให้เธอเสียวเล่นๆ
ได้ผล ... เธอตบหลังคนขี่ดังพั๊วะ "ขี่ดีๆ สิยะ!" จากนั้น Z800 คันนั้นก็หายลับตาไป
นี่คือความสุขเล็กน้อยของการได้ล้อเล่นกันระหว่างเสือภูเขากับเหล่าบรรดาสิงห์มอเตอร์ไซค์
ทุกคนมีเป้าหมายที่จะขึ้นมาสัมผัสกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์ในหุบเขาแห่งนี้ แล้วแต่ว่าเขาจะเลือกสร้างความสุขด้วยวิธีใด
ส่วนผมเลือกที่จะมอบความสุขให้กับชีวิตด้วยการให้เหงื่อออกด้วยจักรยาน แล้วขึ้นไปรับลมเย็นเมื่อถึงจุดชมวิวบนยอดเขา
ซึ่งวันนี้ก็เช่นกัน ผมขึ้นเขาอย่างเอาเป็นเอาตายเช่นเคย เมื่อใกล้ถึงยอดเขา บรรยากาศเริ่มเบาบางทุกขณะ
ผมหายใจหอบเหนื่อย ก้มหน้ามองพื้น ขาแทบหมดเรี่ยวแรง ในเวลานั้นจะมีใครสนเราไหมนะ ร่างกายมันช่างเหนื่อยล้าเหลือเกิน
แต่ก็เป็นยังงี้ทุกวันแหละน่ะ อย่าสนใจเลย ปั่นต่อไปเดี๋ยวก็ถึงเอง ผมให้กำลังใจตัวเองไปเรื่อยๆ
ใกล้ถึงจุดหมายแล้ว ทางเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ ขาผมสั่นจนรู้สึกได้ จักรยานเริ่มเซ เป๋อย่างกับงูเลื้อย
แล้วในที่สุดผมก็ถึงยอดเขาจนได้ด้วยสภาพที่หมดแรง ตายังมองพื้นอยู่ ผมรีบปลดคลิปเลสที่เท้าออก
ตั้งใจจะจูงจักรยานไปพิงต้นไม้แต่ว่าไม่ทันแล้ว ผมหมดแรงเกินไปจึงล้มไปพร้อมกับจักรยานบนหญ้านุ่มๆ แถวนั้น
คิดในใจว่าเมื่อกี๊ไม่น่าไล่ Z800 เลยให้ตายสิ ทั้งๆ ที่ยังนอนอยู่ผมเอื้อมมือไปดึงน้ำจากขวดที่ติดอยู่ที่เฟรมจักรยาน
บีบน้ำจากขวดใส่หน้าเพื่อลดความร้อนแรงในร่างกาย อา... ค่อยยังชั่ว
ผมมองหน้าขึ้นฟ้า แม้แสงแดดจะเริ่มหมดไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังสว่างมากพอที่จะทำให้ผมต้องหรี่ตาลงได้
ผมหลับตาตั้งใจจะฟังเสียงไม้เสียงนก
"เหนื่อยไหมคะ" เสียงใสๆ ดังแว่วปะทะเข้ามาในหู
ผมหันไปมองทั้งๆที่นอนอยู่ ก็พบกับหญิงสาวกำลังหัวเราะอยู่ เธอคงขำที่ผมหมดสภาพแบบนี้ แถมตอนใกล้ถึง
ผมยังเซไปเซมาไม่มีมาดของนักกีฬา ตรู เดอ ฟรองซ์ แบบในข่าวกีฬาที่เคยดูเลย
เธอนั่งอยู่ที่ราวไม้ที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ทำไว้ให้นั่งชมวิว หันหน้ามาทางผมด้วยความสนใจ เธอนั่งรอผมอยู่ก่อนแล้ว
ลองนึกอีกที เธอคนนี้ช่างคุ้นตา เหมือนเคยเห็นที่ไหน อา... สาวน้อยที่ซ้อน Z800 คันนั้นนั่นเอง
นัยตาใสแจ๋ว พร้อมรอยยิ้ม มีลักยิ้มเล็กๆ เธอคนนี้ดูใกล้ๆ น่ารักดีไม่น้อย
เธอมาพร้อมกับเพื่อนของเธอที่ขึ้นมาก่อนแล้ว 3-4 คน
แต่ละคนมีกล้องแมนน่วลพร้อมขาตั้ง รวมทั้งเจ้าของ Z800 คันนั้นด้วย
ที่เสื้อปักตัวอักษรไว้ว่า Photo Club 56 กำลังตั้งกล้องกันอยู่เพื่อรอถ่ายภาพอาทิตย์อัสดงยามเย็น
เธอหันหลังตะโกนบอกเจ้าของ Z800 "นี่... เปลี่ยนเลนส์ให้พี่หน่อยสิ อยู่ในกระเป๋ากล้องพี่อ่ะ เอาฟิกซ์ 50 นะ"
เสียงตะโกนกลับมาว่า "โห่... เจ๊อ่ะ ยิ่งรีบๆ อยู่ด้วย แสงจะหมดแล้วด้วย" เจ้าของ Z800 ตอบด้วยอารมณ์วัยรุ่นเซ็ง
เดาว่าพวกเธอคงพารุ่นน้องในชมรมมหาวิทยาลัยแถวๆ เชิงเขานี่ขึ้นมาถ่ายภาพกระมัง
"ขอยืมจักรยานหน่อยได้ไหมคะ?" เธอยิ้มและยิงคำถามมา จากนั้นการสนทนาของเราก็เริ่มต้นขึ้น
=================================
เรื่องสั้นนี้ผมแต่งไว้เมื่อปี 49 และโพสต์ลงในเว็บ thaimtb.com
พอดีค้นเจอ และอยากลองโพสต์ลงห้องถนนนักเขียนพันทิปบ้าง
จึงได้มีการดัดแปลงเนื้อเรื่องเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับปี 56
และขออนุญาตแท็กให้ห้องอื่นที่มีกิจกรรมเกี่ยวกับเนื้อหาในเรื่องด้วยนะครับ
อ่านกันขำๆ น๊าาาา