ต้องสมัครพันทิปมาเพื่อนตั้งกระทู้ถามนี้เลยแหละค่ะ หว้าวุ่นใจพอสมควร ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร
เรื่องมีอยู่ว่า ตอนนี้เราอายุ 20 ต้นๆ ไปแอบชอบพี่คนนึง เขามีหน้าที่การงานดีมาก รับราชการในต่างประเทศไกลโพ้น
เราไม่เคยรู้จักกัน เราเองก้ไม่เคยได้เห็นเขาในชีวิตจริง แม้แต่เสียงก็ไม่เคยได้ยินสักครั้ง
จริงๆคือเราแอบชื่นชมพี่เขามาเกือบสองปีแล้ว ไม่ได้ชอบแบบจะเป็นจะตายเพราะเมื่อก่อนเราเองก็มีแฟน แต่ตอนนี้เราก็โสดมาปีกว่าแล้ว
พี่คนนี้เป็นเหมือนชายในฝันอะค่ะ เค้าดูสูงส่งเกินที่เราจะได้ไปยืนข้างๆเขา สมองเราสั่งให้คิดแบบนี้มาตลอด
แต่บ้าไปแล้วเมื่อใจของเรามันไม่ค่อยคิดได้ตามสมองเลย
เรารู้จักเขาได้เพราะมีคนเล่าเรื่องของเขาให้เราฟังว่าเขาเก่งมากตั้งแต่เด็กๆ เรียกได้ว่า Top Man ตัวจริง ทั้งรุ่นน้อง รุ่นเดียวกัน
และรุ่นผู้ใหญ่ยอมรับในตัวเขามาก อนาคตรุ่งในหน้าที่การงานแน่นอน
เราได้พูดคุยถึงพี่คนนี้มากพอสมควรกับที่เล่าให้เราฟัง เรารู้สึกได้เลยว่า ผู้ชายคนนี้เก่งมาก มีหลายแง่มุมในชีวิตที่น่าสนใจ
และต่อมาเราก็ได้เจอเขาในเฟซบุ๊ค อันนี้จำไม่ได้ว่าเราเจอได้ยังไง พอเราเจอก็แอดเป็นเพื่อนทันที พี่เค้าก็ดีนะคะ รับแอดแล้วก็ทักสวัสดีมา ถามว่าเรารู้จักกันมั้ย
เราก็ต้องไปว่าไม่ค่ะ เราแค่เคยอ่านในสิ่งที่เขาเขียน แล้วเขาก็ถามสารทุกข์สุขดิบในเบื้องต้นได้สามสี่ประโยค พอเราตอบกลับเขา
แต่เขาดันไม่ตอบอีกเลย เราเสียเซลฟ์ เลยไม่กล้าคุยกับเขาอีกเลย ได้แต่กดไลท์รูปเขาบ้าง นานๆที
และเราก็ห่างจากการให้ความสนใจเขาไปสักพักใหญ่ เพราะก็มีแฟนไม่ได้คิดอยากจะจีบเขาแต่ก็อยากรู้จักคนเก่งๆ เพื่อจะได้คุยประดับความรู้ตัวเอง พอดีเราชอบฟังประสบการณ์ชีวิตของคนอะค่ะ เราเรียนมาประมาณนี้เลยชอบ
จนผ่านมาเรื่อยๆ เราก็ไม่ได้เล่นเฟซบุ๊คเท่าไหร่ นานๆจะเปิดที จนมาต้นปีนี้ ปีใหม่เลยแหละค่ะจำได้อยู่ เราเปลี่ยนเฟซบุ๊คใหม่เลยจะนั่งแอดเพื่อนใหม่
แล้วก็ไปเจอเฟซบุ๊คพี่เขา เราก็จำได้ทันที นี่ฉันเคยเสียเซลฟ์กับพี่หนิ แต่นานมากและ ไม่เป็นไร อีกอย่างพี่เขาก็เป็น Idol ของเราตลอด
เราเลยแอดใหม่ๆ ก็เลยแอดพี่เขาไปใหม่ ไม่นานเลยจริงๆให้ตายหลังจากปีใหม่ได้แค่ไม่เกิน 2 ชั่วโมง และหลังจากที่แอดไปไม่เกิน 30 นาที
พี่เค้ารับแอดเราพร้อมทักมาว่า สวัสดีครับ เราดีใจที่สุด เหมือนณเดชเดินมากอด นี่ดีใจกว่าเจอณเดชด้วยซ้ำ
เราก็ตอบไปสิ สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ - -" (เสร่อไงไม่รู้ มองย้อนไป) พี่เขาก็ไม่ได้ตอบกลับมา
ทีนี้แหละค่ะ ด้วยความที่ก็โสดและชอบเขาเป็นทุนเดิม และบวกกับอยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้ อยากเก่ง อยากไปได้ดีในหน้าที่การงานเมื่อจบ
เลยคิดว่าเราจะต้องพยายามและทำให้ชีวิตตัวเองดีพอที่จะทำให้พี่เขามาสนใจเราให้ได้ (จริงๆเอาชีวิตตัวเองไปผูกกับคนอื่นมันไม่ดีหรอกค่ะ แต่เราต้องใช้วิธีประมาณนี้ ถึงจะมีแรงฮึด ชีวิตเราชิวเกินไป ต้องมองหาภาระ หรือความรับผิดชอบสักอย่างให้ตัวเอง)
นับตั้งแต่วันนั้น เราชอบพี่เขามากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่เคยได้คุยกัน เฟซบุ๊คก็ไม่ค่อยได้เล่น จะเล่นทีก็เข้าไปอัพรูปแล้วก็ออกเพราะไม่อยากรับรู้เรื่องคนอื่นมาก
แต่ใจเราก็กลับมาเบิกบานอีกครั้งด้วยความที่ลงรูปตัวเองไปแล้วพี่เขาก็มากดไลท์ เราลงรูปไม่เยอะ ไม่บ่อย เขาก็มากดไลท์อยู่บ่อยครั้ง มันก็พลอยทำให้คนช่างฝัน ช่างจิ้นอย่างเรา รู้สึกว่า "พี่เริ่มเห็นฉันอยู่ในสายตาแล้วใช่ป่าว"
เราจะบอกว่าเราเคลิ้มพี่เขามากๆ ถึงขั้นเซฟรูปเก็บไว้ในโทรศัพท์ จากชื่นชมเพราะพี่เขาเก่ง ตอนนี้มาเป็นความหลงใหลในเสน่ห์ของพี่เขาแล้วแหละค่ะ
สิ่งที่เราทำหลังจากที่คิดไปเองว่าพี่เขาเห็นเราอยู่ในสายตา คือ ...
แอบชอบคนไกลตัว But I'm nobody T.T
เรื่องมีอยู่ว่า ตอนนี้เราอายุ 20 ต้นๆ ไปแอบชอบพี่คนนึง เขามีหน้าที่การงานดีมาก รับราชการในต่างประเทศไกลโพ้น
เราไม่เคยรู้จักกัน เราเองก้ไม่เคยได้เห็นเขาในชีวิตจริง แม้แต่เสียงก็ไม่เคยได้ยินสักครั้ง
จริงๆคือเราแอบชื่นชมพี่เขามาเกือบสองปีแล้ว ไม่ได้ชอบแบบจะเป็นจะตายเพราะเมื่อก่อนเราเองก็มีแฟน แต่ตอนนี้เราก็โสดมาปีกว่าแล้ว
พี่คนนี้เป็นเหมือนชายในฝันอะค่ะ เค้าดูสูงส่งเกินที่เราจะได้ไปยืนข้างๆเขา สมองเราสั่งให้คิดแบบนี้มาตลอด
แต่บ้าไปแล้วเมื่อใจของเรามันไม่ค่อยคิดได้ตามสมองเลย
เรารู้จักเขาได้เพราะมีคนเล่าเรื่องของเขาให้เราฟังว่าเขาเก่งมากตั้งแต่เด็กๆ เรียกได้ว่า Top Man ตัวจริง ทั้งรุ่นน้อง รุ่นเดียวกัน
และรุ่นผู้ใหญ่ยอมรับในตัวเขามาก อนาคตรุ่งในหน้าที่การงานแน่นอน
เราได้พูดคุยถึงพี่คนนี้มากพอสมควรกับที่เล่าให้เราฟัง เรารู้สึกได้เลยว่า ผู้ชายคนนี้เก่งมาก มีหลายแง่มุมในชีวิตที่น่าสนใจ
และต่อมาเราก็ได้เจอเขาในเฟซบุ๊ค อันนี้จำไม่ได้ว่าเราเจอได้ยังไง พอเราเจอก็แอดเป็นเพื่อนทันที พี่เค้าก็ดีนะคะ รับแอดแล้วก็ทักสวัสดีมา ถามว่าเรารู้จักกันมั้ย
เราก็ต้องไปว่าไม่ค่ะ เราแค่เคยอ่านในสิ่งที่เขาเขียน แล้วเขาก็ถามสารทุกข์สุขดิบในเบื้องต้นได้สามสี่ประโยค พอเราตอบกลับเขา
แต่เขาดันไม่ตอบอีกเลย เราเสียเซลฟ์ เลยไม่กล้าคุยกับเขาอีกเลย ได้แต่กดไลท์รูปเขาบ้าง นานๆที
และเราก็ห่างจากการให้ความสนใจเขาไปสักพักใหญ่ เพราะก็มีแฟนไม่ได้คิดอยากจะจีบเขาแต่ก็อยากรู้จักคนเก่งๆ เพื่อจะได้คุยประดับความรู้ตัวเอง พอดีเราชอบฟังประสบการณ์ชีวิตของคนอะค่ะ เราเรียนมาประมาณนี้เลยชอบ
จนผ่านมาเรื่อยๆ เราก็ไม่ได้เล่นเฟซบุ๊คเท่าไหร่ นานๆจะเปิดที จนมาต้นปีนี้ ปีใหม่เลยแหละค่ะจำได้อยู่ เราเปลี่ยนเฟซบุ๊คใหม่เลยจะนั่งแอดเพื่อนใหม่
แล้วก็ไปเจอเฟซบุ๊คพี่เขา เราก็จำได้ทันที นี่ฉันเคยเสียเซลฟ์กับพี่หนิ แต่นานมากและ ไม่เป็นไร อีกอย่างพี่เขาก็เป็น Idol ของเราตลอด
เราเลยแอดใหม่ๆ ก็เลยแอดพี่เขาไปใหม่ ไม่นานเลยจริงๆให้ตายหลังจากปีใหม่ได้แค่ไม่เกิน 2 ชั่วโมง และหลังจากที่แอดไปไม่เกิน 30 นาที
พี่เค้ารับแอดเราพร้อมทักมาว่า สวัสดีครับ เราดีใจที่สุด เหมือนณเดชเดินมากอด นี่ดีใจกว่าเจอณเดชด้วยซ้ำ เราก็ตอบไปสิ สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ - -" (เสร่อไงไม่รู้ มองย้อนไป) พี่เขาก็ไม่ได้ตอบกลับมา
ทีนี้แหละค่ะ ด้วยความที่ก็โสดและชอบเขาเป็นทุนเดิม และบวกกับอยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้ อยากเก่ง อยากไปได้ดีในหน้าที่การงานเมื่อจบ
เลยคิดว่าเราจะต้องพยายามและทำให้ชีวิตตัวเองดีพอที่จะทำให้พี่เขามาสนใจเราให้ได้ (จริงๆเอาชีวิตตัวเองไปผูกกับคนอื่นมันไม่ดีหรอกค่ะ แต่เราต้องใช้วิธีประมาณนี้ ถึงจะมีแรงฮึด ชีวิตเราชิวเกินไป ต้องมองหาภาระ หรือความรับผิดชอบสักอย่างให้ตัวเอง)
นับตั้งแต่วันนั้น เราชอบพี่เขามากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่เคยได้คุยกัน เฟซบุ๊คก็ไม่ค่อยได้เล่น จะเล่นทีก็เข้าไปอัพรูปแล้วก็ออกเพราะไม่อยากรับรู้เรื่องคนอื่นมาก
แต่ใจเราก็กลับมาเบิกบานอีกครั้งด้วยความที่ลงรูปตัวเองไปแล้วพี่เขาก็มากดไลท์ เราลงรูปไม่เยอะ ไม่บ่อย เขาก็มากดไลท์อยู่บ่อยครั้ง มันก็พลอยทำให้คนช่างฝัน ช่างจิ้นอย่างเรา รู้สึกว่า "พี่เริ่มเห็นฉันอยู่ในสายตาแล้วใช่ป่าว"
เราจะบอกว่าเราเคลิ้มพี่เขามากๆ ถึงขั้นเซฟรูปเก็บไว้ในโทรศัพท์ จากชื่นชมเพราะพี่เขาเก่ง ตอนนี้มาเป็นความหลงใหลในเสน่ห์ของพี่เขาแล้วแหละค่ะ
สิ่งที่เราทำหลังจากที่คิดไปเองว่าพี่เขาเห็นเราอยู่ในสายตา คือ ...