**********ถ้าสมมติว่าผมเป็นคุณอภิสิทธิ์*********

กระทู้สนทนา
ผมคงต้องรู้จักประมาณตน เพราะคงไม่มีใครจะรู้จักตัวของเราได้ดีกว่าตัวเราแน่ และจากการเข้าสู่การเมืองมาร่วมยี่สิบปี ตำแหน่งทางการเมืองก็ผ่านมาแล้วหลายตำแหน่ง แต่ก็ไม่มีผลงานอะไรโดดเด่น จนเป็นที่กล่าวถึงของประชาชนแม้แต่นิดเดียว นอกจากการเป็นยอดนักพูดเท่านั้นเอง

เมื่อประเมินตัวเองได้แล้ว ผมก็คงรู้โดยปริยายว่า การที่ผมได้เป็น ส.ส.มี 10 กว่าสมัย ได้ตำแหน่งมาหลายตำแหน่งมานั้น มันมาจาก ภาพของนักการเมืองน้ำใหม่ ที่หน้าตาดี การศึกษาดี และมาจากครอบครัวดีเท่านั้น ไม่ใช่มาจากการสร้างผลงานจนตรึงใจประชาชน

ดังนั้นฐานเสียงของผม
จึงน่ามาจากความลุ่มหลง มากกว่า ความเลื่อมใส
จึงน่ามาจากความชื่นชม มากกว่า ความศรัทธา

ยิ่งจู่ๆผมกลับได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคที่เก่าแก่ มีสมาชิกมากมาย ในขณะที่ผมเองก็โดดเดี่ยว เพราะขาดมนุษยสัมพันธ์ที่ดี แต่กลับมีผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน จนก้าวขึ้นมาถึงตำแหน่งนี้ได้ เพียงเพราะ “ภาพ”ที่บรรจงสร้างกันมา

ดังนั้นสิ่งเดียวที่จะนำพาผมขึ้นสู่อันดับหนึ่งของประเทศได้ ผมต้องพยายามอย่างหนักที่จะรักษา “ภาพ”ดังกล่าวให้มันโดดเด่นยิ่งขึ้น เพราะผมรู้ดีว่า ยังมีคนไทยอีกมากมายที่หลงอยู่กับ “ภาพ”ที่เห็น และฟังจาก “เขาเล่าว่า”เท่านั้นเอง

ถึงแม้ผมกระสันอยากที่จะสร้างความฝันยามเด็กให้เป็นความจริงโดยเร็วก็ตาม แต่ผมก็รู้ว่า ไม่ควรชิงสุกก่อนห่าม ท้องก่อนวัยอันเกินควร ผมก็จะปล่อยให้การเมืองดำเนินไปตามครรลองที่ควรเป็น โดยจะรักษาภาพพจน์ของนักการเมืองน้ำดี เพื่อพิสูจน์ให้ประชาชนได้เห็นถึงจุดยืนความเป็นประชาธิปไตยของพรรค

ในวันนั้น ผมจะไม่ออกมาเรียกร้องขอ นายกฯมาตรา 7 ให้เป็นที่ระคายเคืองเบื้องยุคลบาท
ในวันนั้น ผมจะไม่ยอมส่งคนออกไปร่วมชุมนุม เพื่อขับไล่นายกฯที่มาจากการเลือกตั้ง
ในวันนั้น ผมจะไม่บอยคอตการเลือกตั้ง จนทำให้การเมืองต้องเข้าสู่ทางตัน

และเมื่อผมไม่ทำในเรื่องเหล่านั้น พันธมิตรฯก็จะขาดพลังในการสร้างความวุ่นวาย แล้วกองทัพก็จะขาดข้ออ้างในการทำยึดอำนาจ และฉีกรัฐธรรมนูญของประชาชน

เราก็จะไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการที่กำลังสร้างความขัดแย้งอยู่เวลานี้
เราก็จะไม่มีการพิพากษาอย่างสุกเอาเผากิน หรือ ใช้พจนานุกรมมาแทนข้อกฎหมาย
เราก็จะไม่มีคลิปแสดงถึงความไม่โปร่งใสของเหล่าองค์กรอิสระ
ข้อสำคัญ เราไม่ต้องมีการตัดสินคดีด้วยความเป็นสองมาตรฐานให้ประชาชนต้องขุ่นข้องหมองใจ

และเมื่อเป็นไปตามเหล่านักวิชาการ เหล่ากูรู และเหล่าต่อต้านทั้งหลายที่กำลังกระทำแบบเดียวกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ในเวลานี้ ออกมาวิพากวิพากษ์วิจารณ์กันกระหึ่มในเวลานี้

ประชานิยมของทักษิณก็จะทำให้ประเทศล้มละลาย
ความพยายามขายชาติ ก็จะทำให้ประเทศต้องเสียดินแดน
การทุจริตคอรัปชั่นอย่างมากมาย ก็จะทำให้ประชาชนได้รับความทุกข์อย่างแสนสาหัส

ถึงตอนนั้นประชาชนก็คงไม่ต้องการคุณทักษิณอีกแล้ว และกระบวนการยุติธรรมปกติก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของมัน ไม่จำเป็นต้องอาศัยคู่ปฏิปักษ์ ไม่จำเป็นต้องอาศัยคนรู้ทัน และก็ไม่จำเป็นต้องใช้หลายมาตรฐานในพิจารณาคดี ประเทศชาติก็ไม่ต้องแตกแยกอย่างทุกวันนี้

ส่วนผมก็ไม่ต้องมาเสียเซลฟ์กับการโกหกซ้ำซาก
ไม่ต้องเสียเซลฟ์กับความเป็นนักการเมืองที่มีดีแค่พูด
ไม่ต้องเสียเซลฟ์กับความเป็นนักการเมืองที่สนับสนุนเผด็จการ

ยิ่งไม่ต้องมาป่วนสภาให้คนรังเกียจ
ยิ่งไม่ต้องใช้คำพูดหยาบคายให้เห็นกำพืด
ยิ่งไม่ต้องยอมให้ประเทศแตกแยก ดีกว่าให้ทักษิณครองเมือง
และที่สำคัญ ผมคงไม่ต้องไปพิมพ์ลายมือในข้อหาฆ่าคนไทยโดยเล็งเห็นผล

ถึงตอนนี้ก็จะเป็นทีของผม เหมือนเช่นคุณชวนที่ได้เป็นรัฐบาลสมัยสอง โดยไม่ต้องพึ่งกลุ่มงูเห่า ตอนนี้แหละครับ ผมก็จะได้เป็นนายกฯอย่างสง่างาม

ไปไหนก็ไม่ต้องมีคนขับไล่
ไม่ต้องมีคนมาชูป้ายด่าว่าผมหน้าหนา
ไม่ต้องมีคนมาชูป้ายว่าดีแต่พูด
ไม่ต้องมีใครมาถอดยศผมเพราะหนีทหาร
และยังไม่ต้องทนอับอายที่เล่นการเมืองมาร่วมยี่สิบปี แต่กลับต้องพ่ายแพ้ต่อผู้หญิงที่เข้าสู่การเมืองแค่ 49 วัน

แต่เมื่อมันเป็นแค่เรื่องสมมติ ทุกอย่างก็เลยไม่เป็นไปอย่างที่คิด ดังนั้นจึงต้องพยายามล้มรัฐบาลของคุณยิ่งลักษณ์ให้ได้โดยเร็ว จะด้วยวาทกรรมในสภา หรือ ปลุกระดมข้างถนน จะด้วยความจริงครึ่งเดียว จะด้วยความเท็จทั้งหมด หรือจะต้องแลกกับความบอบช้ำของประเทศก็ช่างมัน ก็คดีมันงวดเข้ามาทุกทีแล้วนี่ครับ แงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่