[CR] ทริปดูไบ 7-11 สิงหาคม 2556 :: กิน เที่ยว เปรี้ยว ช้อปปิ้ง!! EP.1 "in Dubai"
http://ppantip.com/topic/30920636
ตอนแรก เวิ่นเว้อมากไปหน่อยสาระไม่ค่อยจะมี 5555
ตอนนี้จะสาดรูปให้เยอะๆ ค่ะ สารภาพว่าแต่ละรูปสีไม่ค่อยจะเหมือนกัน เพราะใช้กล้อง 3 ตัว
1. กล้องเพื่อน (จำรุ่นไม่ได้)
2. Nikon ของเรา กล้องคอมแพค
3. iPhone4
ต่อจากภาคแรก ขอแปะแผนที่ก่อน เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน
Burj Khalifa และ Dubai Mall อยู่ติดกันค่ะ ถ้าอยากจะขึ้น At the Top (จุดขึ้นชมวิวบนตึก Burj Khalifa) คุณต้องเดินเข้าทาง Dubai Mall ค่ะ อยู่ชั้นใต้ดิน
หากคุณเดินทางด้วย Metro (รถไฟฟ้า) ไอ้เส้นสีแดงนั้น คือทางที่คุณต้องเดินค่ะ = =
ไม่ได้เดินบนถนนนะ แต่เป็น walk way หรือทางเลื่อนแบบในสนามบินบ้านเราอ่ะค่ะ แต่ยาวมากๆๆๆๆๆ กี่กิโลไม่ทราบ แต่ก็หอบแฮ่กเหมือนกัน ไม่ต้องกลัวร้อนเค้าเปิดแอร์ด้วยจ้า
ส่วนในวงสีฟ้า คือตึก Burj Khalifa ตึกที่สูงที่สุดในโลก (เพื่อนเราเรียกว่า หน่อไม้ยักษ์)
ลงมาตรงสีฟ้าๆ คือ Lake Khalifa เป็นจุดที่เราจะชมน้ำพุสุดอลังการของดูไบค่ะ
โดยจะมีโชว์ทุกวัน วันละ 5 รอบ เริ่มเวลา 19.30 น. และมีทุก 30 นาทีค่ะ (ถ้าผิดขออภัย)
ไฮไลท์ของน้ำพุชุดนี้คือ เป็นการแสดงน้ำพุเล่นแสงสีประกอบเพลง ชุดนึงแสดงราวๆ 4-5 นาทีค่ะ
เดี๋ยวมันอลังการยังไง รอชมภาพดีกว่าเน้อ :3
ความเดิมตอนที่แล้ว เราทานอาหารกันที่ Souk Madinat Jemeirah และต่อแท็กซี่เพื่อมาลงที่ Dubai Mall ค่ะ
เดินเข้ามาสักพัก เราจะเจอ Aquarium แสนโด่งดังของที่นี่
ตู้ปลาขนาดยักษ์ที่แม้เราจะไม่เสียเงินก็เดินดูจากข้างนอกได้
เพื่อนบอกว่า ถ้าเข้าไปก็เป็นอุโมงค์ใต้น้ำ สามารถจ้างคนลงไปเลี้ยงอาหารปลาได้ อะไรแบบนั้น
แต่เราดูอยู่ข้างนอกก็ฟินแล้วล่ะ ตู้ปลาใหญ่มากเลย = =
มีฉลามตัวน้อยๆ ว่ายไปมา น่ารักเชียว = =
แต่ตอนที่ถ่าย เรามาเช้าไปค่ะ (ก็เที่ยงละนะ) ปลายังไม่ตื่นกัน 55555
มาดูอีกทีตอนบ่ายๆ เย็นๆ นะ ปลาเพียบบบบบบบ ฉลามว่ายน้ำกันหนุกหนาน เหมือนรู้งานว่าคนจะมาดูเยอะที่สุด 5555
เดินเลยเข้าไปก่อนค่ะ เรามีนัดกันที่ At the Top นะ
หน้าทางเข้า At the Top ค่ะ เงาๆ แว๊บๆ แต่เด่นมาก
ณ จุดนี้ เลยไปอีกนิดจะเป็นเค้าเตอร์ขายตั๋วค่ะ แต่แนะนำว่าให้ซื้อจาก website ล่วงหน้าจะถูกกว่ามาก
ซื้อล่วงหน้า ตั๋วผู้ใหญ่ 125 ดีแรม ถ้าไปซื้อหน้างาน 400 ดีแรม (โขกกันให้เลือดสาดเลย - -)
ดูรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ
http://www.burjkhalifa.ae/en/ObservationDeck/TicketInformation.aspx
ส่วนใครที่ซื้อตั๋วมาก่อนแล้ว พริ้นท์ใบจองออกมาค่ะ แล้วไปที่ตู้ Kiosk ข้างๆ เค้าเตอร์ซื้อตั๋ว
พิมพ์นามสกุลของเราและเลขที่จอง กดตามขั้นตอนแล้วเราจะได้ตั๋วเข้าตึกค่ะ
รูปจำลอง Burj Khalifa
*ลืมบอกไป ในนี้มี Free wifi ให้เล่นนะคะ แต่สัญญาณไม่ค่อยดี ยังไม่ครอบคลุมรอบตึกเท่าที่ควร
เทียบกับ Empire States หรือ Top of the Rock ในนิวยอร์คแล้ว ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่ะ
มีการเปรียบเทียบตึกที่เคยติดอันดับโลก ของพี่สูงที่สุดจ้ะ ชนะขาดเลย - -
ด้วยความที่เป็นตึกระดับโลกนั้น แกก็ต้องมีลูกเล่นอะไรให้ทุกคนแปลกใจ
ทางเดินหลังจากที่เราปั๊มตั๋วแล้ว จะเป็นทางเลื่อนแต่....
ที่สวยนั้นจะเป็นกำแพงที่ฉายภาพเคลื่อนไหวค่ะ มีราวๆ 5 ชุด และสวยมากกกกกกกก
ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ อยากให้ไปดูกันเองถ้ามีโอกาสค่ะ
ส่วนในลิฟท์ก็ต้องไม่ให้น้อยหน้าเนอะ ก็เป็นเพลงประกอบแนวอาหรับๆ หน่อย
มีกราฟฟิคนิดๆ ไม่ให้น่าเกลียด
(แต่อันดับ 1 ในใจอิฉันต้องยกให้ลิฟท์ที่ Top of the Rock นั่นแหล่ะ อันนั้นกินขาด)
ขึ้นมาบน Observation Desk กันบ้างค่ะ
ออกจากลิฟท์มา เราจะโดนต้อนไปที่จุดชมวิวหรือระเบียงสำหรับชมวิวก่อนเลย
ถ่ายลงด้านล่าง เจอ Burj Khalifa Lake จุดแสดงน้ำพุในคืนนี้
รูปนี้ยื่นมือออกไปถ่ายนอกกระจกค่ะ
รูป Sheikh (เชค) แห่งอาบูดาบีและดูไบค่ะ
คนที่นี่จะนับถือ Sheikh ของตัวเองมาก เพราะถือว่าท่านทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง
ตัวเอมิเรตส์นั้น มีประธานาธิบดีซึ่งเป็น Sheikh เป็นผู้ปกครองค่ะ และมี Sheikh ปกครองเมืองใหญ่ๆ 7 เมือง
ดังนั้นการพัฒนาหรือวางผังเมืองก็จะทำได้โดยง่ายค่ะ
ซื้อได้แต่บ้าน ที่ดินซื้อขายไม่ได้นะจ้ะ - - (ข้อมูลผิดพลาดประการใด ขออภัย ฟังมาจากเพื่อน+จำมาอีกทีค่ะ)
คนที่นี่เค้าไม่ได้รวยเพราะขายน้ำมันนะคะ แกรวยเพราะทำท่าเรือค่ะ
จุดนี้ไม่ใช่จุดที่สูงที่สุดนะคะ ยังมีสูงกว่านี้แต่เราขึ้นไปไม่ได้
เลยถ่ายย้อนขึ้นไปให้ดู :3
EID Mubarak !!
เข้ามาด้านในกันบ้าง
เราสนใจไอ้เจ้านี่มากเลยค่ะ 55555
มันก็คือกล้องส่องทางไกลนั่นแหล่ะ แต่มันหรูกว่านั้น ไม่ให้เสียชื่อเมืองมหาเศรษฐีเนาะ
ไอ้เจ้า Telescopes นี่ มันพิเศษตรงที่ว่า
1. ฟรี
2. เป็นกล้องส่องทางไกล แบบเป็นกล้องจริงๆ ไม่ต้องเอาตาไปส่องเลย
ข้อ 3-4-5 จะบอกในรูปถัดไปค่ะ
จิ้มเข้าไปแล้วจะมีหน้าตาแบบนี้ออกมาค่ะ
3. เลือกได้ว่าจะดูวิวแบบไหน Day (กลางวัน) Live (ภาพสดที่เรากำลังยืนดูอยู่นี่) Night (วิวกลางคืน) Historic (ภาพอดีตตอนสร้างตึก)
อยากเลือกอันไหน จิ้มโล้ดค่ะ!
ดูได้ครั้งละ 3 นาที แต่ถึงจะหมดเวลา 3 นาทีแล้ว เราก็กดดูใหม่ได้นะ
อันนี้เราเลือกแบบ Historic ค่ะ ก่อนจะเต็มไปด้วยตึกและถนนหนทาง ดูไบเคยเป็นแบบนี้มาก่อน!!
แบบ Live ค่ะ ระหว่างชมวิวก็มีชื่อตึกขึ้นมาด้วย
กดดูได้ว่าตึกไหน ชื่ออะไร
มีแม้กระทั่งบ้านของท่าน Sheikh ค่ะ
4. ดูวิวได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าเราจะไปตอนกลางวันหรือกลางคืน ไอ้เจ้านี่มีให้เราดูหมดค่ะ
เพื่อนแนะนำว่า ควรไปตอนกลางวันดีกว่า ไปกลางคืนเห็นแต่แสงไฟ ไม่เวิร์คเท่าไหร่
ส่วนข้อเสียของไอ้เจ้า Telescopes นี่คือ...
แม้ว่าจะมีเจ้านี่ติดตั้งอยู่รายรอบ Observation Desk แต่มุมที่อยู่ในกล้อง กลับมีแค่มุมเดียวค่ะ
ก็คือมุมที่เราถ่ายมาให้ดูนั่นเอง...
ถ้าไปดูกล้องตรงมุมอื่นอาจจะงงได้ ทำไมวิวความเป็นจริงกับในกล้องมันถึงไม่เหมือนกันหว่า...
คุณหลอกดาว!!!!
ลองไปเดินหาดูค่ะว่ามุมไหนเป็นมุมที่ใช่ที่สุด ตรงกับวิวในกล้องมากที่สุดค่ะ 55555
ก่อนลงจากตึกก็สักแชะนะ เป็นใบประกาศฯ จาก Guinness World Records ว่าที่เป็นสูงที่สุดในโลกจ้า
มีจุดให้จับผิดด้วยนะ คือ Guinness แกเขียนเดือนมกราคมผิดไป ใครหาเจอว่าอยู่กรอบไหน ไม่มีรางวัลให้จ้า 555555
(ขำมั้ย - -")
บน Observation Desk มีจุดถ่ายรูปและขายของที่ระลึกด้วยค่ะ
ใครเป็นแฟนหนัง Mission Impossible 4 น่าจะพอจำได้ว่าพ่อพระเอกเราก็ไปปีนตึกนี้มาด้วย
แกเลยเอาฉากนั้นมาตัดต่อขายเป็นรูปที่ระลึกค่ะ 555555
รูป Burj Khalifa ตอนปีใหม่ปี 2013 ตอนฉลองแกจุดพลุแบบนี้เลยค่า
สวยมาก น่ามา countdown อย่างยิ่ง (แม้จะต้องเบียดกับพวก อ.ด. ป.ก. อ.ร.บ. สับปะรด ฯลฯ ก็ตาม)
ลงจากตึก Burj Khalifa กันดีกว่า
วิวด้านนอกก็สวยใช่ย่อย กลางคืนได้ดูน้ำพุ กลางวันก็ไม่เลว
รูปบนคือ Souk Al Bahar ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ Dubai Mall โดยมีสะพานเชื่อมกันอยู่ค่ะ
ตัว Souk Al Bahar เป็นตึกที่เน้นร้านอาหารเป็นหลัก มีร้านขายของประปราย
ที่สำคัญ หากใครต้องการชมน้ำพุตอนหัวค่ำให้ได้อรรถรส แนะนำให้มานั่งร้านอาหารชั้น 2 ที่นี่ค่ะ
จะเห็นน้ำพุในมุมที่กว้างและสวยกว่าการยืนมองจากหน้า Dubai Mall
เพราะน้ำพุมีลักษณะคล้ายครึ่งวงกลม มุมจากร้านอาหารเลยเห็นได้ชัดเจนกว่าค่ะ
อีกด้านของ Souk Al Bahar ด้านนี้เป็นร้านอาหารซะส่วนใหญ่
ดูสิคะ มีแกนน้ำพุอยู่ข้างล่างด้วย เห็นชัดสุดๆ
ชอบร้านไหนเลือกได้เลยค่ะ แต่ต้องไปเร็วนิดนึงนะ บางร้านคนจองเต็มหมดแล้ว เพราะอยากดูน้ำพุเหมือนเรานี่แหล่ะ
ด้านล่าง มีเรือโดยสารรับส่งด้วยนะ เรือออกแม้กระทั่งตอนน้ำพุแสดงเลย
เดินมากๆ เหนื่อยค่ะ แวะกินน้ำกินท่ากันเสียก่อน เดี๋ยวเป็น Heat Stroke กันพอดี
เราแวะพักกันที่ร้าน Cafe Bateel (คาเฟ่ บาเตล) อยู่ในโซนของ Waterfall ในห้าง Dubai Mall ค่ะ
อากาศก็ร้อนนะ แต่ก็สั่งชาร้อนกันมาคนละกา 5555
ของเพื่อนเป็นบราวนี่ ของเราเป็นชีสเค้กค่ะ
บราวนี่ เพื่อนบอกว่า มันนุ่มมาก ช็อกโกแลตเข้มข้น หวานพอสมควรแต่ยิ่งกินยิ่งอร่อย
ชีสเค้กของเรา นุ่ม เนียน ไม่เลี่ยน อร่อยสุดๆ
(โดนเพื่อนเบรค..."นั่นชีสทั้งก้อนเลยนะ" อ้าว นานๆ ทีไม่เป็นไรมั้ง 5555)
ดื่มกับชาร้อนๆ นะคะ จะได้ตัดเลี่ยนกันได้
วิวจากโต๊ะที่นั่งเป็น Dubai Mall Waterfall
พักหายเหนื่อยก็ไปกันต่อค่ะ shopping time!!!
เราเดินหลงแล้วหลงอีกในห้างแห่งนี้ (หลงจนเราเก็บมาหลอน ฝันว่าหลงทางไปหลายคืน 5555)
ต่อที่คห.ถัดไปนะคะ
[CR] ทริปดูไบ 7-11 สิงหาคม 2556 :: กิน เที่ยว เปรี้ยว ช้อปปิ้ง!! EP.2 ตึกที่สูงที่สุดในโลก Burj Khalifa
http://ppantip.com/topic/30920636
ตอนแรก เวิ่นเว้อมากไปหน่อยสาระไม่ค่อยจะมี 5555
ตอนนี้จะสาดรูปให้เยอะๆ ค่ะ สารภาพว่าแต่ละรูปสีไม่ค่อยจะเหมือนกัน เพราะใช้กล้อง 3 ตัว
1. กล้องเพื่อน (จำรุ่นไม่ได้)
2. Nikon ของเรา กล้องคอมแพค
3. iPhone4
ต่อจากภาคแรก ขอแปะแผนที่ก่อน เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน
Burj Khalifa และ Dubai Mall อยู่ติดกันค่ะ ถ้าอยากจะขึ้น At the Top (จุดขึ้นชมวิวบนตึก Burj Khalifa) คุณต้องเดินเข้าทาง Dubai Mall ค่ะ อยู่ชั้นใต้ดิน
หากคุณเดินทางด้วย Metro (รถไฟฟ้า) ไอ้เส้นสีแดงนั้น คือทางที่คุณต้องเดินค่ะ = =
ไม่ได้เดินบนถนนนะ แต่เป็น walk way หรือทางเลื่อนแบบในสนามบินบ้านเราอ่ะค่ะ แต่ยาวมากๆๆๆๆๆ กี่กิโลไม่ทราบ แต่ก็หอบแฮ่กเหมือนกัน ไม่ต้องกลัวร้อนเค้าเปิดแอร์ด้วยจ้า
ส่วนในวงสีฟ้า คือตึก Burj Khalifa ตึกที่สูงที่สุดในโลก (เพื่อนเราเรียกว่า หน่อไม้ยักษ์)
ลงมาตรงสีฟ้าๆ คือ Lake Khalifa เป็นจุดที่เราจะชมน้ำพุสุดอลังการของดูไบค่ะ
โดยจะมีโชว์ทุกวัน วันละ 5 รอบ เริ่มเวลา 19.30 น. และมีทุก 30 นาทีค่ะ (ถ้าผิดขออภัย)
ไฮไลท์ของน้ำพุชุดนี้คือ เป็นการแสดงน้ำพุเล่นแสงสีประกอบเพลง ชุดนึงแสดงราวๆ 4-5 นาทีค่ะ
เดี๋ยวมันอลังการยังไง รอชมภาพดีกว่าเน้อ :3
ความเดิมตอนที่แล้ว เราทานอาหารกันที่ Souk Madinat Jemeirah และต่อแท็กซี่เพื่อมาลงที่ Dubai Mall ค่ะ
เดินเข้ามาสักพัก เราจะเจอ Aquarium แสนโด่งดังของที่นี่
ตู้ปลาขนาดยักษ์ที่แม้เราจะไม่เสียเงินก็เดินดูจากข้างนอกได้
เพื่อนบอกว่า ถ้าเข้าไปก็เป็นอุโมงค์ใต้น้ำ สามารถจ้างคนลงไปเลี้ยงอาหารปลาได้ อะไรแบบนั้น
แต่เราดูอยู่ข้างนอกก็ฟินแล้วล่ะ ตู้ปลาใหญ่มากเลย = =
มีฉลามตัวน้อยๆ ว่ายไปมา น่ารักเชียว = =
แต่ตอนที่ถ่าย เรามาเช้าไปค่ะ (ก็เที่ยงละนะ) ปลายังไม่ตื่นกัน 55555
มาดูอีกทีตอนบ่ายๆ เย็นๆ นะ ปลาเพียบบบบบบบ ฉลามว่ายน้ำกันหนุกหนาน เหมือนรู้งานว่าคนจะมาดูเยอะที่สุด 5555
เดินเลยเข้าไปก่อนค่ะ เรามีนัดกันที่ At the Top นะ
หน้าทางเข้า At the Top ค่ะ เงาๆ แว๊บๆ แต่เด่นมาก
ณ จุดนี้ เลยไปอีกนิดจะเป็นเค้าเตอร์ขายตั๋วค่ะ แต่แนะนำว่าให้ซื้อจาก website ล่วงหน้าจะถูกกว่ามาก
ซื้อล่วงหน้า ตั๋วผู้ใหญ่ 125 ดีแรม ถ้าไปซื้อหน้างาน 400 ดีแรม (โขกกันให้เลือดสาดเลย - -)
ดูรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ
http://www.burjkhalifa.ae/en/ObservationDeck/TicketInformation.aspx
ส่วนใครที่ซื้อตั๋วมาก่อนแล้ว พริ้นท์ใบจองออกมาค่ะ แล้วไปที่ตู้ Kiosk ข้างๆ เค้าเตอร์ซื้อตั๋ว
พิมพ์นามสกุลของเราและเลขที่จอง กดตามขั้นตอนแล้วเราจะได้ตั๋วเข้าตึกค่ะ
รูปจำลอง Burj Khalifa
*ลืมบอกไป ในนี้มี Free wifi ให้เล่นนะคะ แต่สัญญาณไม่ค่อยดี ยังไม่ครอบคลุมรอบตึกเท่าที่ควร
เทียบกับ Empire States หรือ Top of the Rock ในนิวยอร์คแล้ว ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่ะ
มีการเปรียบเทียบตึกที่เคยติดอันดับโลก ของพี่สูงที่สุดจ้ะ ชนะขาดเลย - -
ด้วยความที่เป็นตึกระดับโลกนั้น แกก็ต้องมีลูกเล่นอะไรให้ทุกคนแปลกใจ
ทางเดินหลังจากที่เราปั๊มตั๋วแล้ว จะเป็นทางเลื่อนแต่....
ที่สวยนั้นจะเป็นกำแพงที่ฉายภาพเคลื่อนไหวค่ะ มีราวๆ 5 ชุด และสวยมากกกกกกกก
ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ อยากให้ไปดูกันเองถ้ามีโอกาสค่ะ
ส่วนในลิฟท์ก็ต้องไม่ให้น้อยหน้าเนอะ ก็เป็นเพลงประกอบแนวอาหรับๆ หน่อย
มีกราฟฟิคนิดๆ ไม่ให้น่าเกลียด
(แต่อันดับ 1 ในใจอิฉันต้องยกให้ลิฟท์ที่ Top of the Rock นั่นแหล่ะ อันนั้นกินขาด)
ขึ้นมาบน Observation Desk กันบ้างค่ะ
ออกจากลิฟท์มา เราจะโดนต้อนไปที่จุดชมวิวหรือระเบียงสำหรับชมวิวก่อนเลย
ถ่ายลงด้านล่าง เจอ Burj Khalifa Lake จุดแสดงน้ำพุในคืนนี้
รูปนี้ยื่นมือออกไปถ่ายนอกกระจกค่ะ
รูป Sheikh (เชค) แห่งอาบูดาบีและดูไบค่ะ
คนที่นี่จะนับถือ Sheikh ของตัวเองมาก เพราะถือว่าท่านทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง
ตัวเอมิเรตส์นั้น มีประธานาธิบดีซึ่งเป็น Sheikh เป็นผู้ปกครองค่ะ และมี Sheikh ปกครองเมืองใหญ่ๆ 7 เมือง
ดังนั้นการพัฒนาหรือวางผังเมืองก็จะทำได้โดยง่ายค่ะ
ซื้อได้แต่บ้าน ที่ดินซื้อขายไม่ได้นะจ้ะ - - (ข้อมูลผิดพลาดประการใด ขออภัย ฟังมาจากเพื่อน+จำมาอีกทีค่ะ)
คนที่นี่เค้าไม่ได้รวยเพราะขายน้ำมันนะคะ แกรวยเพราะทำท่าเรือค่ะ
จุดนี้ไม่ใช่จุดที่สูงที่สุดนะคะ ยังมีสูงกว่านี้แต่เราขึ้นไปไม่ได้
เลยถ่ายย้อนขึ้นไปให้ดู :3
EID Mubarak !!
เข้ามาด้านในกันบ้าง
เราสนใจไอ้เจ้านี่มากเลยค่ะ 55555
มันก็คือกล้องส่องทางไกลนั่นแหล่ะ แต่มันหรูกว่านั้น ไม่ให้เสียชื่อเมืองมหาเศรษฐีเนาะ
ไอ้เจ้า Telescopes นี่ มันพิเศษตรงที่ว่า
1. ฟรี
2. เป็นกล้องส่องทางไกล แบบเป็นกล้องจริงๆ ไม่ต้องเอาตาไปส่องเลย
ข้อ 3-4-5 จะบอกในรูปถัดไปค่ะ
จิ้มเข้าไปแล้วจะมีหน้าตาแบบนี้ออกมาค่ะ
3. เลือกได้ว่าจะดูวิวแบบไหน Day (กลางวัน) Live (ภาพสดที่เรากำลังยืนดูอยู่นี่) Night (วิวกลางคืน) Historic (ภาพอดีตตอนสร้างตึก)
อยากเลือกอันไหน จิ้มโล้ดค่ะ!
ดูได้ครั้งละ 3 นาที แต่ถึงจะหมดเวลา 3 นาทีแล้ว เราก็กดดูใหม่ได้นะ
อันนี้เราเลือกแบบ Historic ค่ะ ก่อนจะเต็มไปด้วยตึกและถนนหนทาง ดูไบเคยเป็นแบบนี้มาก่อน!!
แบบ Live ค่ะ ระหว่างชมวิวก็มีชื่อตึกขึ้นมาด้วย
กดดูได้ว่าตึกไหน ชื่ออะไร
มีแม้กระทั่งบ้านของท่าน Sheikh ค่ะ
4. ดูวิวได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าเราจะไปตอนกลางวันหรือกลางคืน ไอ้เจ้านี่มีให้เราดูหมดค่ะ
เพื่อนแนะนำว่า ควรไปตอนกลางวันดีกว่า ไปกลางคืนเห็นแต่แสงไฟ ไม่เวิร์คเท่าไหร่
ส่วนข้อเสียของไอ้เจ้า Telescopes นี่คือ...
แม้ว่าจะมีเจ้านี่ติดตั้งอยู่รายรอบ Observation Desk แต่มุมที่อยู่ในกล้อง กลับมีแค่มุมเดียวค่ะ
ก็คือมุมที่เราถ่ายมาให้ดูนั่นเอง...
ถ้าไปดูกล้องตรงมุมอื่นอาจจะงงได้ ทำไมวิวความเป็นจริงกับในกล้องมันถึงไม่เหมือนกันหว่า...
คุณหลอกดาว!!!!
ลองไปเดินหาดูค่ะว่ามุมไหนเป็นมุมที่ใช่ที่สุด ตรงกับวิวในกล้องมากที่สุดค่ะ 55555
ก่อนลงจากตึกก็สักแชะนะ เป็นใบประกาศฯ จาก Guinness World Records ว่าที่เป็นสูงที่สุดในโลกจ้า
มีจุดให้จับผิดด้วยนะ คือ Guinness แกเขียนเดือนมกราคมผิดไป ใครหาเจอว่าอยู่กรอบไหน ไม่มีรางวัลให้จ้า 555555
(ขำมั้ย - -")
บน Observation Desk มีจุดถ่ายรูปและขายของที่ระลึกด้วยค่ะ
ใครเป็นแฟนหนัง Mission Impossible 4 น่าจะพอจำได้ว่าพ่อพระเอกเราก็ไปปีนตึกนี้มาด้วย
แกเลยเอาฉากนั้นมาตัดต่อขายเป็นรูปที่ระลึกค่ะ 555555
รูป Burj Khalifa ตอนปีใหม่ปี 2013 ตอนฉลองแกจุดพลุแบบนี้เลยค่า
สวยมาก น่ามา countdown อย่างยิ่ง (แม้จะต้องเบียดกับพวก อ.ด. ป.ก. อ.ร.บ. สับปะรด ฯลฯ ก็ตาม)
ลงจากตึก Burj Khalifa กันดีกว่า
วิวด้านนอกก็สวยใช่ย่อย กลางคืนได้ดูน้ำพุ กลางวันก็ไม่เลว
รูปบนคือ Souk Al Bahar ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ Dubai Mall โดยมีสะพานเชื่อมกันอยู่ค่ะ
ตัว Souk Al Bahar เป็นตึกที่เน้นร้านอาหารเป็นหลัก มีร้านขายของประปราย
ที่สำคัญ หากใครต้องการชมน้ำพุตอนหัวค่ำให้ได้อรรถรส แนะนำให้มานั่งร้านอาหารชั้น 2 ที่นี่ค่ะ
จะเห็นน้ำพุในมุมที่กว้างและสวยกว่าการยืนมองจากหน้า Dubai Mall
เพราะน้ำพุมีลักษณะคล้ายครึ่งวงกลม มุมจากร้านอาหารเลยเห็นได้ชัดเจนกว่าค่ะ
อีกด้านของ Souk Al Bahar ด้านนี้เป็นร้านอาหารซะส่วนใหญ่
ดูสิคะ มีแกนน้ำพุอยู่ข้างล่างด้วย เห็นชัดสุดๆ
ชอบร้านไหนเลือกได้เลยค่ะ แต่ต้องไปเร็วนิดนึงนะ บางร้านคนจองเต็มหมดแล้ว เพราะอยากดูน้ำพุเหมือนเรานี่แหล่ะ
ด้านล่าง มีเรือโดยสารรับส่งด้วยนะ เรือออกแม้กระทั่งตอนน้ำพุแสดงเลย
เดินมากๆ เหนื่อยค่ะ แวะกินน้ำกินท่ากันเสียก่อน เดี๋ยวเป็น Heat Stroke กันพอดี
เราแวะพักกันที่ร้าน Cafe Bateel (คาเฟ่ บาเตล) อยู่ในโซนของ Waterfall ในห้าง Dubai Mall ค่ะ
อากาศก็ร้อนนะ แต่ก็สั่งชาร้อนกันมาคนละกา 5555
ของเพื่อนเป็นบราวนี่ ของเราเป็นชีสเค้กค่ะ
บราวนี่ เพื่อนบอกว่า มันนุ่มมาก ช็อกโกแลตเข้มข้น หวานพอสมควรแต่ยิ่งกินยิ่งอร่อย
ชีสเค้กของเรา นุ่ม เนียน ไม่เลี่ยน อร่อยสุดๆ
(โดนเพื่อนเบรค..."นั่นชีสทั้งก้อนเลยนะ" อ้าว นานๆ ทีไม่เป็นไรมั้ง 5555)
ดื่มกับชาร้อนๆ นะคะ จะได้ตัดเลี่ยนกันได้
วิวจากโต๊ะที่นั่งเป็น Dubai Mall Waterfall
พักหายเหนื่อยก็ไปกันต่อค่ะ shopping time!!!
เราเดินหลงแล้วหลงอีกในห้างแห่งนี้ (หลงจนเราเก็บมาหลอน ฝันว่าหลงทางไปหลายคืน 5555)
ต่อที่คห.ถัดไปนะคะ