ฮัลโหลว สวัสดีค่ะ นี่กระทู้แรกที่จะมารีวิวเที่ยวอะไรแบบนี้ (ตื่นเต้น)
ออกแนวจะเขียนไว้เหมือนไดอารี่ให้ตัวเองอ่านมากกว่า เพราะโพสรูปใน FB มันไม่ได้เล่าเรื่องราว
รูปไม่ลึกซึ้ง ออกแนวอยากถ่ายก็ถ่าย ไม่ได้คิดว่าจะมาเขียนอันนี้
เดี๋ยวคนมาอ่านตามเวลาไปเที่ยวดันเห็นหมดก่อนแล้ว มันจะไม่แอ้ดเวนเจอร์ ฮ่าาๆๆ
แต่มันมีหลายอย่างที่อยากแชร์ให้เพื่อนร่วมโลกได้รู้ก่อนไป เพราะตอนเราไปเราไม่รู้ มันไม่มีใครบอกอ่ะ


เริ่มม !

วันที่ 1
บิน TG ไฟลท์บ่าย4กว่าๆ
คนไทยในเครื่องน้อยมาก เพราะ ถ้าบิน TG จะต้องทำวีซ่าเอง
แต่ถ้าไม่อยากวุ่นวายบิน Emirates เค้าทำวีซ่าให้ด้วย สะดวกกว่า
(ราคาบวกมาแล้ว ทำวีซ่าเอง ถูกกว่านิดหน่อย)
(ทำวีซ่าเอง คือ ติดต่อในเนตล้วนๆ แล้วจะสุดท้ายเค้าจะอีเมลล์มา เราก็ปริ้นออกมาได้เลย
.. พูดตรงๆ หน้าตาวีซ่าเหมือนจะได้ไม่ได้เข้าประเทศอ่ะ)


สภาพหลังผ่านศึกมาแล้ว
ตอนแรกแค่พับครึ่ง..นี่ยังดีไม่ขยำแล้วยัดกระเป๋า ฮ่าาๆ

ไปถึงก็ดึกพอดี บินไปประเทศนี้เหมือนมีแต่ไฟลท์เวลาแบบนี้
ขึ้นแท็กซี่ / check-in / นอน
ไม่ต้องรีวิวโรงแรม ใครนอนไหนก็ตามนั้นนะจ๊ะ GN*

วันที่ 2
ตารางว่าง เลยซื้อ One Day Tour ไปชะโงก Abu Dhabi เล่นๆ
เน้นว่า *ชะโงก*จริงๆ ..

ทัวร์มีรถตู้มารับที่โรงแรม แล้วก็ไปขึ้นรถบัสคันใหญ่
(ไม่มีเอเชียหัวดำๆร่วมชะตากรรมเลย ฝรั่งล้วนๆ)

แวะปั๊มแรก หากาแฟกินแก้ง่วง เจอกาแฟยี่ห้อดัง

โดนไป 18AED (คิดง่ายๆ x10 ได้เป็นเงินบาทไทย)

เดินทางต่อ ..


** สำหรับสาวกโปเกม่อน .. น้ำตาปริ่มมาก แทบไม่เจอนก หรือหนูเลยยยย **



Ferrari World ; คือสวนสนุก ที่มีธีมสีแดง น่าเข้ามากกกก
ค่าเข้ามีราคาเด็ก และ ผู้ใหญ่ ประมาน 5XX AED .. จำไม่ได้ เพราะแวะมาดูเฉยๆ
คิวแอบยาว คนก็เยอะ น่าจะเพราะปีใหม่พอดี





ขับผ่านเมืองมาเรื่อยๆ..
สวยตรงที่ ข้างนึงเป็นเมืองสะอาด อีกข้างมีทะเลคนนอนอาบแดดสบายๆเลย
(ไม่มีรูปอีกฝั่ง เพราะต้นไม้รัวมาก แต่เอาเป็นว่าสวยละกัน)
มาแวะที่ มุมถ่ายรูป เป็นเหมือนอ่าวเห็นเป็นเมือง 2 ข้างเลยยย





UAE Heritage Village ; เอาจริงๆเหมือนสวนอาหารของบ้านเรามากกว่า
อารมณ์แบบ มีกิจกรรมให้ดูเยอะๆ มีของขาย แต่เหมือนเป็นร้านอาหารที่ใหญ่มากๆขายอาหารเจ้าเดียว
เครื่องทอผ้า .. หรือเครื่องทอพรม ?

โซนร้านขายของจุ๋มจิ๋ม
มี demo ให้ดูด้วย
แวะตรงนี้นานเป็นชั่วโมง เพราะให้กินข้าวด้วย / บุฟเฟ่ หัวละ 75AED
แต่ราคาทัวร์ไม่รวมข้าวนะ ละเราก็ไม่อยากกินร้านนี้ด้วย
จริงๆก็ดูน่ากินนะ แต่ไม่กิน เพราะไม่มีทางเลือกรู้สึกโดนมัดมือชก เลยไม่กิน ..ติ๊ดค่ะ ฮ่าาา





เป็นเหมือนทางเข้า หนึ่งในร้อยแปดล้านคฤหาสน์ของ Sheikh(ชีค) ที่นี่
คือ เค้ามีเยอะมาก และแต่ละอันคือใหญ่มาก
(เค้าคือชีค ชีคคือคำนาม แปลว่ากษัตริย์..มั้ง) <- ผู้รู้มาตอบให้กระจ่างได้จะขอบคุณมากค่ะ





ขับรถดูเมือง และเห็นทางเข้าคฤหาสน์อีกหลายๆอัน

- เดอะ แกรนด์ ชะโงก -

Sheikh Zayed Mosque ; คือ สุเหร่าอันใหญ่ที่สุดในประเทศ
#สาระ .. สุเหร่าทั้งประเทศไม่อนุญาติให้คนที่ไม่ใช่อิสลามเข้าเลย นอกจากอันนี้ กับอีกอันที่ Dubai
#สาระที่ 2 .. ผญ.ต้องใส่ขายาว แขนยาว และเตรียมผ้าโพกหัวไป *ถ้าไม่มีเค้ามีให้ยืม เหมือนชุดพ่อมดเลย ฮ่าาาๆ


ป้ายข้อห้ามต่างๆ

หลักๆที่เรียนรู้มาด้วยตัวเองคือ ห้ามนั่งกับพื้น และห้ามยกแขน
แต่จะแอ็คท่าเท้าเอวก็ได้ เพราะเราไม่รู้ ถ่ายรูปนั่งและยกมือ .. การ์ดเรียกมาลบรูปไปตามกติกา

** ไม่ลงรูปตรงนี้เยอะ อยากให้ไปดูด้วยตาตัวเองกันมากกว่า ว่ามันอลังการมากกกกก **

จบทัวร์ชะโงก Abu Dhabi ลงแค่นี้
.. รถตู้ก็มาส่งโรงแรม แต่กว่าจะถึงคือแอบดึก
* แนะนำว่าอย่าพลาดจองทัวร์เช้าของวันต่อไป *



วันที่ 3
พลาด .. จองทัวร์เช้า
แต่ไม่เช้าไม่ได้ เพราะวันนี้จะไปขึ้น  Hot Air Balloon !
รถมารับที่โรงแรม ตี4.30 ไสยๆ
สาเหตุที่ขึ้นเช้า เพราะจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นนั่นเอง
*ถ้าจะไปเตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วย แบบหนาวจริง ฟันออกปาก*
ระหว่างรอคือหนาวสั่นเลย แต่ได้ไออุ่นจากบอลลูนนิดหน่อยตอนเค้าเป่า
ไปเป็นแก็งค์ ลำอื่นต้องได้ออกก่อนเรียงลำดับกัน
ตอนลอยขึ้นคือ ไม่รู้สึกเร็วเลย แต่ถ้ามองลงก็เห็นว่าเร็วนะ
บอลลูนจะหมุน 360องศาได้ ทุกคนได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นแน่นอน
ไม่ต้องแย่งที่กันเหมือนเอเชีย2นางที่ได้ขึ้นไปก่อนเรา

ระหว่างอยู่บนอากาศ (ประมาณ1ชม.) ก็มีโชว์เหยี่ยว Falcon ด้วย
มันจะบินรอบๆให้ชมกันเป็นขวัญตา แล้วกลับมากินเหยื่อที่ห้อยไว้ใต้บอลลูน



#สาระ .. วันนั้นโชคดีมาก ฟ้าไม่มีเมฆเลย ทำให้สามารถเห็น Burj Khalifa ได้จากทะเลทราย
แต่เห็นเป็นเหมือนไฟสว่างๆดวงนึงอยู่ไกลๆ คือยอดตึกสะท้อนแดดพอดีเป๊ะ
ถ่ายรูปไม่ติดอ่ะ .. แต่คือสวย โอเคนะ ฮ่าๆๆ

ตอนลงจอด ~ เตรียมใจหงายท้องไว้ เพราะ 80% กระเช้าจะคว่ำ
แต่ทุกคนจะมีสายรัดเซฟตี้ ไม่มีอะไรน่าตกใจ ออกแนวสนุกสนาน คึกคัก

ลงมาอย่างปลอดภัยแล้ว เค้าก้พาไปกินข้าวเช้า
ระหว่างนั้นก็ขายคลิปที่ถ่ายจาก Droneช่วงก่อนขึ้น
กับ GoPro ที่ปักไว้กับบอลลูนอันนึง .. ก้ไม่ได้ซื้อ

รถตู้กลับมาส่งที่โรงแรม ก็ประมาณ 10โมงละ
.. นอนต่อภาค2


METRO
รถไฟฟ้า ที่ตื๊ดบัตรเข้า เป็นเหมือนMRT/AirportLinkของบ้านเรา
แต่เป็นบัตรกระดาษ ขาออกก็ตื๊ดออกแล้วเอากลับบ้านไปเลย

#สาระ .. บัตรนี้ซื้อหลายเที่ยวได้(ไม่ใช่แบบเติมเงิน) สมมุติรู้ว่านั่งไปต้องนั่งกลับ ก็กดซื้อ 2เที่ยวไว้เลย
จะได้ไม่ต้องต่อแถว แถมถูกกว่าอีก แต่ห้ามทำบัตรหายนะ
*ราคาตั๋วคิดเป็นโซน ต้องไปดูในแผนที่ที่สถานีว่าเราข้ามกี่โซน

เย็นนี้ไปกินข้าวดูน้ำพุหน้า Burj Khalifa
เหลี่ยมที่ดีงามคือต้องข้ามไปกินที่ฝั่ง Souk Al Bahar ก็จะได้นั่งริมระเบียงดูน้ำพุเลย
ราคาก็มีทั้งน่ารัก และไม่น่ารักปนๆกัน

โชว์น้ำพุมีทุก 30 นาทีตั้งแต่ 6โมงเย็น ถึงเที่ยงคืน ..มั้ง ไม่ชัวร์อ่ะ
หรือถ้าไม่อยากกระเป๋าฉีก ยืนดูริมสระก็ได้เห็นเหมือนกัน

#สาระ .. คนชอบไปยืนเบียดกันดูบนสะพานที่ข้ามมาจากฝั่ง Dubai Mall
***ชี้เป้า พอข้ามมาเดินเลาะขวาริมร้านอาหารมาเรื่อยๆ คนก็เริ่มน้อยลง
ในรูปข้างบน คือ ถ่ายจากระเบียงร้าน ตรงนั้นคนยืนกันสบายๆมาก

หรือ จะ VIP ไปอีก ก็ไปนั่งดูในเรือ (มุมซ้ายในรูป)


จบวันที่ 3
พรุ่งนี้ ตื่นสายๆเลย หมดพลังงงง ..
คิดจะนั่ง Metro มา Dubai Mall คือเดินไกลมาก แบบ มากกกกกกกกกกกกกก
กว่าจะเดินจากสถานีถึงห้าง มี 10นาทีอ่ะ แต่เค้ามีทางเลื่อนช่วงผ่อนแรงหน่อย
GN*