ไปเที่ยวกันต่อดีกว่าค่ะ กับ DUBAI – ABU DHABI
กว่าจะผ่านจุดตรวจสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามัสยิดมาได้ ช่างลุ้นซะเหลือเกิน อย่างงี้ก็ต้องแชะๆ ให้คุ้มซะหน่อย ไปเที่ยวชมด้านในมัสยิดกันดีกว่าค่ะ
มัสยิดสร้างประมาณปี 2001 กว่าจะเสร็จก็ปี 2008 ด้านในตกแต่งด้วยหินอ่อนจากสเปน ส่วนด้านนอกจากอิตาลี
มีต้นแบบมากจาก Taj Mahal แต่ที่นี่มี 72 โดม โดยโดมที่มีจะช่วยให้เสียงสวดก้องเวลามีการนำสวด
การ
ทั้งมัสยิดจุคนด้านในได้ 6 หมื่นกว่าคนเพื่อให้ใช้เป็นที่ละหมาดรวมกันได้ การละหมาดพร้อมกันจะได้บุญมากกว่าละหมาดคนเดียว
ส่วนพรมที่ตกแต่ง เป็นพรมทอมือจาก wool ผสม silk จากประเทศอิหร่าน
การทอพรมใช้เวลาทอประมาณ 8 ปี โดยให้ผู้หญิงทอเท่านั้น
ที่นี่นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ ภายในตกแต่งสวยงามอลังการมากมาย
ถ่ายรูปจนฟินแล้ว ถึงเวลานัดหมาย เตรียมไปเที่ยวต่อกันค่ะ
ออกจาก Grand Mosque ก็ได้แวะถ่ายภาพหน้าโรงแรม Emirate Palace อยู่ในส่วนหนึ่งของพระราชวัง ใช้ทุนก่อสร้างสูงถึง 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ พื้นที่ 850,000 ตารางเมตร เราได้แค่ถ่ายรูปกับประตูหน้าเท่านั้นเพราะเค้าไม่ได้ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปด้านใน สงวนไว้กับผู้ที่เข้าพักเท่านั้น
ตรงข้าม Emirate Palace ก็มีตึก Etihad Towers ถ้าใครจำได้ตึกนี้เป็นตึกที่ถ่ายภาพยนต์เรื่อง Fast And Furious 7 หนังเรื่องโปรด แถมฉากนั้นก็ตื่นเต้นซะ ขอเก็บภาพเป็นที่ระลึกหน่อยละกันน้า
แดดเริ่มร้อนเดินถ่ายรูปได้นิดหน่อยก็ต้องเผ่นขึ้นรถ ไปต่อกันที่ Ferrari World ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก
มาถึง ABU DHABI แล้วก็ต้องแวะมาที่นี่ซักหน่อย
ระหว่างเดินชมก็จะได้ยินเสียงเครื่องยนต์เป็นพักๆ ก็สงสัยอยู่นะว่าเสียงมาจากไหน ซักพักก็ถึงบางอ้อ ข้างกำแพงจะมีปุ่มแดงๆ ให้กด พอกดๆ มันก็จะมีเสียงเครื่องยนต์ออกมา เด็กๆ แย่งกันกดเล่นใหญ่เลย
เดินเข้าไปด้านในถ่ายรูปกับรถสวยๆ ซะหน่อย
มีจอดไว้สวยๆ อวดเราอยู่ 2-3 คัน นักท่องเที่ยวก็แย่งกันถ่าย กว่าจะได้มุมปลอดคนก็นานอยู่นะฮะ
แชะภาพเล็กๆ น้อยๆ พอเป็นพิธี ก่อนเดินทางกลับ DUBAI เพื่อทานอาหารที่ Dubai Mall พร้อมชมน้ำพุเต้นระบำ
เราเดินทางมาถึง Dubai Mall ตอนใกล้ค่ำ ได้เดินเล่นถ่ายรูป Dubai Aquarium and Dubai Discovery Center
ซึ่งเป็นตู้ปลาขนาดใหญ่ที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า
และได้เดิน shopping กันนิดหน่อยก่อนจะไปรอชมน้ำพุเต้นระบำ (Fontana Show)
ซึ่งรอบแรกเริ่ม 18.00 น. เราเดินเล่นอยู่แถวๆ นั้นพอดี เลยได้ดูจากมุมห่างๆ เพราะคนเยอะเชียวค่ะสำหรับรอบแรก
นักท่องเที่ยวจำนวนมากมาจับจองทำเลริมน้ำกัน ไม่เหลือที่ว่างให้เราแทรกตัวเข้าไปเลย
จบการแสดงน้ำพุรอบแรก คนก็ซาลงหน่อย เราเองก็เดินเล่นอยู่แถวๆ นั้น ถ่ายรูปไปเรื่อย
และการแสดงน้ำพุจะแสดงทุกๆ ครึ่งชั่วโมง เราเลยหาทำเลเหมาะๆ เพื่อเก็บภาพน้ำพุเต้นระบำซะหน่อย
ยืนรอดูน้ำพุ 2 รอบ ก็สังเกตว่าแต่ละรอบเค้าใช้เพลงประกอบไม่เหมือนกันด้วยล่ะ
ถ่ายภาพมาได้นิดๆ หน่อยๆ
ก่อนจะไปทานอาหารอร่อยๆ พร้อมชมน้ำพุเต้นระบำไปด้วย รวมๆ แล้วก็ได้ดูหลายรอบอยู่นะ อิ่มท้องแล้วกลับไปนอนได้ อิอิ
วันสุดท้ายแล้วกับที่ DUBAI - ABU DHABI
แวะชมย่าน Mardinat หรือ Little Venice
เป็นแหล่ง shopping mall
สามารถเดินชมบรรยากาศ หาซื้อของฝากต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาอูฐ ไพ่เงิน ไพ่ทอง magnet เป็นต้น
แต่แอบกระซิบที่นี่ราคาค่อนข้างสูงนะคะ สูงมากถ้าเทียบกับตลาดทอง เราเลยได้แค่เดินเล่นถ่ายรูปเท่านั้นแหละ
นอกจากร้านขายของที่ระลึก ก็ยังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟที่ตกแต่งชิคๆ ให้ได้นั่งชิวๆ อีกหลายร้าน
สำหรับเราที่นี่เหมาะสำหรับเดินเล่นถ่ายภาพเพลินๆ เพราะขนาดเพดานและหลังคาก็ยังมี detail สวยๆ
เดินเล่นเก็บภาพอีกนิดหน่อยก่อนจะไปเที่ยวกันต่อ
รีบทำเวลา จะได้มีเวลาเที่ยวอีกซักหน่อย
จากนั้นก็ได้ลงเรือข้ามฟาก ที่เรียกว่า ABRA
ABRA เป็นเรือรับจ้างขนาดเล็กนั่งได้ประมาณ 20 คน
เพื่อข้ามฝั่งไปยังตลาดทอง หรือ Gold Souk คำว่า Souk แปลว่า ตลาด ค่ะ อยู่ใกล้ๆ กันกับตลาดเครื่องเทศน์ หรือ Spice Souk
ที่นี่เพื่อนๆ สามารถหาซื้อไพ่ทอง และไพ่เงิน ไปฝากเพื่อนๆ ได้ ราคาที่นี่ถูกว่าที่ Mardinat มาก แต่ก็ต้องต่อราคาเยอะๆ นะคะ อิอิ
หมดเวลาสนุกแล้วกับที่นี่ DUBAI - ABU DHABI 555 ระหว่างทางไปสนามบิน local guide ก็เล่าให้ฟังอีกว่า อดีต UAE เป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ ดังนั้นคนที่นี่เลยพูดภาษาอังกฤษได้ดี จนปี 1971 ได้มีการลงนามในสนธิสัญญา เพื่อประกาศอิสรภาพ ในวันที่ 1DEC1971 แล้วกำหนดให้วันที่ 2DEC1971 เป็นวันชาติ
พาเที่ยวกันพอหอมปากหอมคอ หากเพื่อนๆ คนไหนมีโอกาสไปเที่ยวที่นี่ ก็มาโม้ให้ฟังกันบ้างนะคะ
ไว้ได้ไปเที่ยวไหนจะมาเล่าให้ฟังอีกน้า
แต่...สำหรับที่นี่ DUBAI - ABU DHABI ไปไป มามา ก็ดีนะ ^^
https://ppantip.com/topic/37103638
[CR] DUBAI – ABU DHABI ไปไป มามา ก็ดีนะ PART2
กว่าจะผ่านจุดตรวจสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามัสยิดมาได้ ช่างลุ้นซะเหลือเกิน อย่างงี้ก็ต้องแชะๆ ให้คุ้มซะหน่อย ไปเที่ยวชมด้านในมัสยิดกันดีกว่าค่ะ
มัสยิดสร้างประมาณปี 2001 กว่าจะเสร็จก็ปี 2008 ด้านในตกแต่งด้วยหินอ่อนจากสเปน ส่วนด้านนอกจากอิตาลี
มีต้นแบบมากจาก Taj Mahal แต่ที่นี่มี 72 โดม โดยโดมที่มีจะช่วยให้เสียงสวดก้องเวลามีการนำสวด
การ
ทั้งมัสยิดจุคนด้านในได้ 6 หมื่นกว่าคนเพื่อให้ใช้เป็นที่ละหมาดรวมกันได้ การละหมาดพร้อมกันจะได้บุญมากกว่าละหมาดคนเดียว
ส่วนพรมที่ตกแต่ง เป็นพรมทอมือจาก wool ผสม silk จากประเทศอิหร่าน
การทอพรมใช้เวลาทอประมาณ 8 ปี โดยให้ผู้หญิงทอเท่านั้น
ที่นี่นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ ภายในตกแต่งสวยงามอลังการมากมาย
ถ่ายรูปจนฟินแล้ว ถึงเวลานัดหมาย เตรียมไปเที่ยวต่อกันค่ะ
ออกจาก Grand Mosque ก็ได้แวะถ่ายภาพหน้าโรงแรม Emirate Palace อยู่ในส่วนหนึ่งของพระราชวัง ใช้ทุนก่อสร้างสูงถึง 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ พื้นที่ 850,000 ตารางเมตร เราได้แค่ถ่ายรูปกับประตูหน้าเท่านั้นเพราะเค้าไม่ได้ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปด้านใน สงวนไว้กับผู้ที่เข้าพักเท่านั้น
ตรงข้าม Emirate Palace ก็มีตึก Etihad Towers ถ้าใครจำได้ตึกนี้เป็นตึกที่ถ่ายภาพยนต์เรื่อง Fast And Furious 7 หนังเรื่องโปรด แถมฉากนั้นก็ตื่นเต้นซะ ขอเก็บภาพเป็นที่ระลึกหน่อยละกันน้า
แดดเริ่มร้อนเดินถ่ายรูปได้นิดหน่อยก็ต้องเผ่นขึ้นรถ ไปต่อกันที่ Ferrari World ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก
มาถึง ABU DHABI แล้วก็ต้องแวะมาที่นี่ซักหน่อย
ระหว่างเดินชมก็จะได้ยินเสียงเครื่องยนต์เป็นพักๆ ก็สงสัยอยู่นะว่าเสียงมาจากไหน ซักพักก็ถึงบางอ้อ ข้างกำแพงจะมีปุ่มแดงๆ ให้กด พอกดๆ มันก็จะมีเสียงเครื่องยนต์ออกมา เด็กๆ แย่งกันกดเล่นใหญ่เลย
เดินเข้าไปด้านในถ่ายรูปกับรถสวยๆ ซะหน่อย
มีจอดไว้สวยๆ อวดเราอยู่ 2-3 คัน นักท่องเที่ยวก็แย่งกันถ่าย กว่าจะได้มุมปลอดคนก็นานอยู่นะฮะ
แชะภาพเล็กๆ น้อยๆ พอเป็นพิธี ก่อนเดินทางกลับ DUBAI เพื่อทานอาหารที่ Dubai Mall พร้อมชมน้ำพุเต้นระบำ
เราเดินทางมาถึง Dubai Mall ตอนใกล้ค่ำ ได้เดินเล่นถ่ายรูป Dubai Aquarium and Dubai Discovery Center
ซึ่งเป็นตู้ปลาขนาดใหญ่ที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า
และได้เดิน shopping กันนิดหน่อยก่อนจะไปรอชมน้ำพุเต้นระบำ (Fontana Show)
ซึ่งรอบแรกเริ่ม 18.00 น. เราเดินเล่นอยู่แถวๆ นั้นพอดี เลยได้ดูจากมุมห่างๆ เพราะคนเยอะเชียวค่ะสำหรับรอบแรก
นักท่องเที่ยวจำนวนมากมาจับจองทำเลริมน้ำกัน ไม่เหลือที่ว่างให้เราแทรกตัวเข้าไปเลย
จบการแสดงน้ำพุรอบแรก คนก็ซาลงหน่อย เราเองก็เดินเล่นอยู่แถวๆ นั้น ถ่ายรูปไปเรื่อย
และการแสดงน้ำพุจะแสดงทุกๆ ครึ่งชั่วโมง เราเลยหาทำเลเหมาะๆ เพื่อเก็บภาพน้ำพุเต้นระบำซะหน่อย
ยืนรอดูน้ำพุ 2 รอบ ก็สังเกตว่าแต่ละรอบเค้าใช้เพลงประกอบไม่เหมือนกันด้วยล่ะ
ถ่ายภาพมาได้นิดๆ หน่อยๆ
ก่อนจะไปทานอาหารอร่อยๆ พร้อมชมน้ำพุเต้นระบำไปด้วย รวมๆ แล้วก็ได้ดูหลายรอบอยู่นะ อิ่มท้องแล้วกลับไปนอนได้ อิอิ
วันสุดท้ายแล้วกับที่ DUBAI - ABU DHABI
แวะชมย่าน Mardinat หรือ Little Venice
เป็นแหล่ง shopping mall
สามารถเดินชมบรรยากาศ หาซื้อของฝากต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาอูฐ ไพ่เงิน ไพ่ทอง magnet เป็นต้น
แต่แอบกระซิบที่นี่ราคาค่อนข้างสูงนะคะ สูงมากถ้าเทียบกับตลาดทอง เราเลยได้แค่เดินเล่นถ่ายรูปเท่านั้นแหละ
นอกจากร้านขายของที่ระลึก ก็ยังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟที่ตกแต่งชิคๆ ให้ได้นั่งชิวๆ อีกหลายร้าน
สำหรับเราที่นี่เหมาะสำหรับเดินเล่นถ่ายภาพเพลินๆ เพราะขนาดเพดานและหลังคาก็ยังมี detail สวยๆ
เดินเล่นเก็บภาพอีกนิดหน่อยก่อนจะไปเที่ยวกันต่อ
รีบทำเวลา จะได้มีเวลาเที่ยวอีกซักหน่อย
จากนั้นก็ได้ลงเรือข้ามฟาก ที่เรียกว่า ABRA
ABRA เป็นเรือรับจ้างขนาดเล็กนั่งได้ประมาณ 20 คน
เพื่อข้ามฝั่งไปยังตลาดทอง หรือ Gold Souk คำว่า Souk แปลว่า ตลาด ค่ะ อยู่ใกล้ๆ กันกับตลาดเครื่องเทศน์ หรือ Spice Souk
ที่นี่เพื่อนๆ สามารถหาซื้อไพ่ทอง และไพ่เงิน ไปฝากเพื่อนๆ ได้ ราคาที่นี่ถูกว่าที่ Mardinat มาก แต่ก็ต้องต่อราคาเยอะๆ นะคะ อิอิ
หมดเวลาสนุกแล้วกับที่นี่ DUBAI - ABU DHABI 555 ระหว่างทางไปสนามบิน local guide ก็เล่าให้ฟังอีกว่า อดีต UAE เป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ ดังนั้นคนที่นี่เลยพูดภาษาอังกฤษได้ดี จนปี 1971 ได้มีการลงนามในสนธิสัญญา เพื่อประกาศอิสรภาพ ในวันที่ 1DEC1971 แล้วกำหนดให้วันที่ 2DEC1971 เป็นวันชาติ
พาเที่ยวกันพอหอมปากหอมคอ หากเพื่อนๆ คนไหนมีโอกาสไปเที่ยวที่นี่ ก็มาโม้ให้ฟังกันบ้างนะคะ
ไว้ได้ไปเที่ยวไหนจะมาเล่าให้ฟังอีกน้า
แต่...สำหรับที่นี่ DUBAI - ABU DHABI ไปไป มามา ก็ดีนะ ^^
https://ppantip.com/topic/37103638