13 วัน กับ 3ทวีป ก็พอนะ

สวัสดีค่ะ เราเป็นนคนนึงที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวมากๆ เลยอยากจะเล่าเรื่องผ่านประสบการณ์ ที่ไปพบเจอมาค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้ท่องเที่ยวอันแรกค่ะ ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ จะเป็นสไตล์การเล่าเรื่องค่ะ ถ้าอยากรู้ข้อมูล เช่นการเดินทาง หรืออาหารการกิน รายละเอียดตั๋วโดยสาร สามารถอินบ๊อกซ์มาได้เลยนะคะ เพราะบางข้อมูลก็อาจจะหลงๆลืมๆเขียนไปค่ะ  ส่วนหนึ่งที่อยากตั้งกระทู้เที่ยวก็เพราะว่าอยากฝึกการเล่าเรื่องค่ะ เพราะตัวเราเองเป็นคนที่พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง 5555 เลยมาฝึกทักษะผ่านทางนี้ค่ะ

ในทริปนี้ วางแผนไว้ว่าจะไปเที่ยว ทั้งหมด 3ทวีป แต่มีเวลา 13 วัน ยังไงก็ต้องพอ บอกตัวเองว่าต้องไหว เมืองที่จะไปมีดังนี้ค่ะ
4 oct-17oct 2018
1.เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
2. นครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา
3. กรุงโรม ปอมเปอี Positano ประเทศอิตาลี
4. เมืองนีซประเทศฝรั่งเศส

อีกซักครั้งที่ดูไบ

เริ่มต้นที่มหานครดูไบ รอบนี้มาเป็นครั้งที่2ค่ะ รอบที่แล้วข้อมูลว่างเปล่ามากๆเพราะมีคนพาเที่ยวค่ะ รอบนี้เลยลุยเองขึ้นรถเองอะไรเองค่ะ พักร่างที่นี่3วัน เปรียบเป็นอาหารก่อนจานหลัก มาในช่วงเวลาที่ร้อนมาก น่าจะซัก40องศาได้ เมืองนี้เป็นเมืองเศรษฐกิจ และเป็นเมืองที่ั่โตเร็วมากๆ ถ้าอยากจะไปสถานที่เที่ยวสำคัญๆ รถไฟฟ้ามีผ่านทุกจุด แทกซี่โอเคมาก กดมิเตอร์ทุกครั้งที่ขึ้น ใกล้ไกล ไปหมด ไปสนามบินไม่มีชาร์จราคาเพิ่ม เยี่ยม มาก ใน เรื่อง ของ อาหาร เนื่องจากมีคนจากทุกมุมโลกมาทำงานที่นี่ การหาของกินจึงไม่ยากจนเกินความสามารถ เพราะห้างเยอะมาก และเฟรนไชส์ร้านอาหารดังๆ มีอยู่ให้เกลื่อน

เราอยู่ที่นี่3วัน 2คืน แพลนในตอนแรกคิดว่าจะไป มัสยิดที่อาบูดาบี แต่ลืมเชคว่าทุกวันศุกร์จะมีพิธีกรรมสำคัญทางศาสนา แล้วเขาเปิดให้เข้าอีกทีตอน 4โมงเย็นค่ะ ก็เลยตัดไปดีกว่า เพราะว่ากลัวกลับมาดูไบดึก แล้วจะน่ากลัว  เลยตัดเมืองอาบูดาบีทิ้งไปค่ะ
ทั้งทริปเดินทางด้วยสายการบินเอมิเรตส์  ส่วนเรื่องวีซ่าก็ให้ทางสายการบินจัดการให้เลยค่ะ ส่วนใครที่ไม่ได้เดินทางกับสายการบินเอมิเรตส์ก็สามารถทำวีซ่าโดยตอนนี้เขามีโปร 96 ชั่วโมงอยู่ที่ราวๆ1000 บาทค่ะ ถือว่าคุ้ม

วันแรกมาถึงร้อนมาก หนีร้อนมาเจอร้อนกว่า ใช้เวลาราวๆเกือบ 6ชั่วโมง ก็มาถึงค่ะ ผ่าน ตม.เสร็จเราก็มุ่งหน้าไปรับซิมค่ะ เราจองผ่าน Klook ค่ะ ของเครื่องข่าย DU 900MB โทรฟรีทั่วโลก 20นาที ในราคาเพียง580 บาท เราจำได้เมื่อครั้งแรกที่ไป ได้ไปซื้อกับร้าน DU โดยตรง ตอนนั้นเนตแค่ 500 MB ตั้ง500 บาทแล้ว แพงสุด รอบนี้เราพักที่ โรงแรม AVANI ค่ะ อยู่ย่านเดียร่าค่ะ โรงแรมดีห้องกว้างขวางค่ะ มาที่นี่ต้องเสีย city tax 20เดอแฮมนะคะ  ชอบห้องน้ำที่เมืองนี้เพราะว่า มีสายชำระค่ะ อิอิ


ดูไบมีอะไรเที่ยว แล้วได้ไปไหนมาบ้าง??
สำหรับ คน ที่ มา ครั้ง แรก ๆ ก็คงหนีไม่พ้น1.dubai mall อยู่ติดกับ2. burjkalifa ตามรอย fast and furious ภาค7มั้ง จุดสำคัญคือ ต้องมาดูน้ำพุให้ได้ โดยจะเริ่มรอบแรก 6โมงเย็นเป็นต้นไป และทุกๆครึ่งชั่วโมง มันดีมาก และฟรีด้วย

2.bastakiya เป็นย่านเมืองเก่าของดูไบ ซึ่งจะบอกเรื่องราวของผู้คนที่อพยพมาเมืองนี้ เอาไว้ถ่ายรูปสวยๆกับ บ้านลักษณะตะวันออกกลางแบบสมัยก่อน วิวดี โลเคชั่นสวยงาม เพราะอยู่ติดกับแม่น้ำ ที่สามารถข้ามไป old souk และ gold souk ได้

3.old souk แนะนำว่าเออควรไปแต่ไม่ควรไปคนเดียวถ้าเป็นผู้หญิง เพราะพ่อค้าที่นี่ส่วนใหญ่เป็น แขก อินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ และอื่นๆ ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องการขายอยู่แล้ว และแซวเก่ง พี่ๆแก ประชิดตัวมากๆ อยู่ไทยไม่เคยมีผู้ชายมาเหลียวมอง มาเมืองนี้รู้สึกว่าสวยมากๆ 55 เลยไม่ชินทำให้ต้องรีบเดินและรีบ ขึ้นเรือเพื่อไปที่อื่นต่อ เลยไม่ได้ถ่ายรูปและไม่ทันได้ดูของเลย

4.Dubai marina ที่สุดแห่งการชิว เอาจริงๆก็คล้ายๆกับมาริน่าที่สิงคโปร์ แต่ที่ตรงนี้จะให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะมีแต่คนที่อาศัยอยู่แถบนั้น มา วิ่ง มานั่งพักผ่อนกัน ไม่ได้หนาแน่นโดยนักท่องเที่ยว เช่นที่สิงคโปร์ ย่านนี้จะเป็นแหล่งของคนที่มีรายได้ดี ช่วงที่มาอากาศร้อนมาก และหมอกหนาด้วย แต่การหายใจถือว่าโล่งพอควร มลพิษทางอากาศมีไม่เยอะ

5.jumeirabeach เป็นชายหาด มีทะเลด้วยนะ ถึงแม้ทะเลเค้าจะสู้บ้านเราไม่ได้เลยแต่ความที่เป็น rare item ก็ควรที่จะแวะมาดูหน่อยนะ

6.jumeirawalk ก็อยู่ตรงชายหาดแหละ ในส่วนนี้จะมีพวกร้านค้าเยอะมาก ร้าน อาหาร ร้าน ขนม มากมายจริงๆ คนที่นี่ชอบกินมาก ของกินขายดีสุดๆ ถ้าได้ไปเปิดร้านชานมนะ มันจะดีมากเลย

7.Kitebeach เป็นไฮไลท์สำคัญถ้าต้องการจะหาพื้นหลังเป็นตึก burj Al Arab เป็นที่ตั้งของ รร.7ดาว รูปเรือไบ สัญลักษณ์ที่มาแล้วรู้เลยว่าอยู่ดูไบแล้ว เป็นชายหาด ที่คนที่นี่นิยมมาอาบแดดกันนะ
ในเวลา3วันเราไปมา 7จุดใหญ่ๆค่ะ
สถานที่อื่นๆก็จะมีอีกมากมาย เช่น Atlantis hotel ,souk madinat ,gold soukไปเที่ยวทะเลทรายขี่อูฐ ไปชมสวนดอกไม้ สนามฟอมูล่า1  หรือจะข้ามไปเขต Abu Dhabi เพื่อไปดูมัสยิด Shiek Zayed mosque ก็ไม่ยากเกินไป นะอย่าไปวันศุกร์ก็พอค่ะ Emirates palace hotel หมู่บ้านสมัยก่อนบอกเล่าความเป็นมาของคนที่นี่ตั้งแต่ยุคเเรกๆ   ด้วยอากาศที่ร้อนแรง และแดดที่แผดเผา ก็ขอเดินในห้างชิวๆดีกว่า ยิ้ม เดือนที่เหมาะแก่การไปเที่ยวดูไบ คือ ช่วง ธันวาคม-มีนาคม เพราะอากาศดีมากไม่ร้อน จะอยู่ที่22-30 องศา ลมพัดเย็นสบายมากๆ เมืองนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นเที่ยวเมืองตะวันออกกลาง แต่ไม่ชอบความลำบาก เมืองนี้เปิดกว้างมาก ไม่ได้เคร่งเรื่องการแต่งกาย เหมือนในประเทศแถบเดียวกัน
ความปลอดภัยสูง มาก รถไฟฟ้าจะมีการแยกตู้พิเศษสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ทุกคนรักษากฏหมาย เดินตอนดึกได้ไม่น่ากลัว แต่ทุกที่ก็มีด้านมืดนะ แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละบุคคล

การ เดิน ทาง สะดวก สบาย มาก มีทั้ง ทาง รถ ไฟ ฟ้า รถราง เรือ แทกซี่ อูเบอร์ ทุกสิ่งทันสมัยและตรงเวลา goodgle map แม่นสุดยอด

วีซ่า ถ้าซื้อตั๋วกับสายการบินเอมิเรต มีบริการออกวีซ่าให้เลย สะดวกสบายมากๆ

ภาษา ที่ ใช้ 90%คนพูดอังกฤษได้

ห้อง พัก ส่วนใหญ่กว้าง ครบ ครัน สะดวก ราคา ไม่ แพง

ค่า ครอง ชีพ ค่อน ข้าง สูง แต่เราสามารถเลือกกินเลือกใช้ตามงบ ของเราได้ไม่ยุ่งยาก

น้ำ ดื่ม เห็นเป็นเมืองทะเลทรายแต่ราคาเท่าบ้านเรานะจ๊ะ ฟินมากๆ

อินเตอร์เนต มีwifi ทุกที่ในห้าง รถไฟฟ้า และสนามบิน แต่ครั้งนี้ เลือกซื้อซิมผ่าน klook 900 mb โทรฟรีทั่วโลก 20นาที 580บาท ไปรับซิมที่สนามบินดูไบจ้า

ถ้าร้อนเดินเข้าห้างค่ะ แอร์เย็นมากๆ

ขออวดรูปหน่อยนะคะ

-เป็น Apple store ที่ห้าง Dubai mall เป็นจุดชมน้ำพุเต้นระบำที่ดีเชียวค่ะ


-Souk albahar ถ้าเข้าไปแล้วจะมีจุดลับสุดยอดในการดูน้ำพุเต้นระบำเพราะไม่มีคนเลยค่ะ ไม่ต้องเบียดคนค่ะ




ย่านเมืองเก่า Bastakiya ค่ะ สวยมาก ร้อนมากเช่นกัน

บรรยากาศตอนช่วงเย็นของ หน้าห้าง Dubai mallและเป็นจุดที่น้ำพุเต้นระบำค่ะ


Jumeira beach

-kitebeach ค่ะ

วิวข้ามเรือท้องถิ่นเพื่อไป oldsouk ค่ะ




อยากแทรกวิดีโอน้ำพุเต้นระบำจัง แต่ทำไม่เป็นค่ะ อิอิ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่