สวัสดีครับเพื่อนๆ
วันนี้มาคุยเรื่องสบายๆ(อย่าได้เอาสาระอะไรมาก)เกี่ยวกับเรื่องความสุขกันครับ
มีที่มาคือ เช้านี้มีแขกมาเยี่ยมพร้อมหอบของฝากจากแดนไกลมีทั้งเนยแข็งหลากชนิดและลูกฟักแฟงสีเหลืองหน้าตาไม่คุ้นเคยในบ้านเรามาด้วย 3 ลูก เธอไม่ไม่ได้บอกว่ามันคืออะไร เพียงแต่เรียกมันว่า “Indian butternut”
ผมคุ้นแต่ก็นึกชื่อไม่ออกแต่ก็ต้องรักษาฟอร์ม(หน้าของตัวเอง)ไม่ได้ถามแหม่มว่ามันคืออะไร ก็ต้องวางฟอร์มไว้หน่อยหน่ะครับ แหม่มคุยด้วยพักใหญ่และบอกขอตัวต้องนำของฝากไปส่งให้อีกหลายบ้าน สองตายายกล่าวขอบคุณอีกครั้งในไมตรีที่ทั้งต้องเสียเงินซื้อหาและนำมาให้ถึงบ้าน ก่อนขึ้นรถแหม่มยิ้มให้และยังเน้นว่า “หวังว่าคุณชอบ เอพิคิวเรียส ฟู๊ด”
อีกแล้วที่เราไม่คุ้นกับคำนี้ครับ สองตายายมีเนยแข็งไว้ทานอร่อยหลายสัปดาห์ แต่ยังงงว่าจะทำอะไรดีกับเจ้า “เนยอินเดีย” 3 ลูกนี้ และตัดสินใจว่าคงจะนำไปให้เพื่อนบ้านต่างชาติทำเป็นอาหารแทนในวันต่อไป
หมดปัญหาเรื่องเนยอินเดีย ก็ต้องค้นคำว่า “เอพิคิวเรียส” ได้ความรู้ดังนี้ครับ
Epicurious เป็นการเล่นคำของคำสองคำคือ epicurean (ผู้แสวงหาความสุขสบายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการใช้ชีวิตและรสชาติของอาหาร) กับคำว่า curious (อย่างอยากรู้อยากเห็นหรืออย่างกระตือรือร้น)
ดังนั้น ผมแปลเอาเองว่า Epicurious food คือ อาหารอันโอชะ(อะไรทำนองนี้ครับ)
♥
ความสุข
วันนี้มาคุยเรื่องสบายๆ(อย่าได้เอาสาระอะไรมาก)เกี่ยวกับเรื่องความสุขกันครับ
มีที่มาคือ เช้านี้มีแขกมาเยี่ยมพร้อมหอบของฝากจากแดนไกลมีทั้งเนยแข็งหลากชนิดและลูกฟักแฟงสีเหลืองหน้าตาไม่คุ้นเคยในบ้านเรามาด้วย 3 ลูก เธอไม่ไม่ได้บอกว่ามันคืออะไร เพียงแต่เรียกมันว่า “Indian butternut”
ผมคุ้นแต่ก็นึกชื่อไม่ออกแต่ก็ต้องรักษาฟอร์ม(หน้าของตัวเอง)ไม่ได้ถามแหม่มว่ามันคืออะไร ก็ต้องวางฟอร์มไว้หน่อยหน่ะครับ แหม่มคุยด้วยพักใหญ่และบอกขอตัวต้องนำของฝากไปส่งให้อีกหลายบ้าน สองตายายกล่าวขอบคุณอีกครั้งในไมตรีที่ทั้งต้องเสียเงินซื้อหาและนำมาให้ถึงบ้าน ก่อนขึ้นรถแหม่มยิ้มให้และยังเน้นว่า “หวังว่าคุณชอบ เอพิคิวเรียส ฟู๊ด”
อีกแล้วที่เราไม่คุ้นกับคำนี้ครับ สองตายายมีเนยแข็งไว้ทานอร่อยหลายสัปดาห์ แต่ยังงงว่าจะทำอะไรดีกับเจ้า “เนยอินเดีย” 3 ลูกนี้ และตัดสินใจว่าคงจะนำไปให้เพื่อนบ้านต่างชาติทำเป็นอาหารแทนในวันต่อไป
หมดปัญหาเรื่องเนยอินเดีย ก็ต้องค้นคำว่า “เอพิคิวเรียส” ได้ความรู้ดังนี้ครับ
Epicurious เป็นการเล่นคำของคำสองคำคือ epicurean (ผู้แสวงหาความสุขสบายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการใช้ชีวิตและรสชาติของอาหาร) กับคำว่า curious (อย่างอยากรู้อยากเห็นหรืออย่างกระตือรือร้น)
ดังนั้น ผมแปลเอาเองว่า Epicurious food คือ อาหารอันโอชะ(อะไรทำนองนี้ครับ)
♥