สหการประมูล ชี้ราคาตลาดประมูลรถมือสองยังตกต่อเนื่อง จากปัจจัยลบเศรษฐกิจ-การเมือง-ราคาสินค้าเกษตร-รถไฟแนนซ์ยึดเพิ่ม
นายเอกพิทยา เอี่ยมคงเอก กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ AU เปิดเผยว่า ข้อมูลของผู้ใช้สิทธิโครงการรถยนต์คันแรกจากกรมสรรพสามิตระบุว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 1.25 ล้านราย มูลค่าเงินคืนภาษีจำนวน 92,168 ล้านบาท ล่าสุดพบว่ามีการยกเลิกการใช้สิทธิไปแล้ว 4,837 ราย และไม่ได้รับสิทธิเนื่องจากไม่เข้าเงื่อนไขอีก 750 ราย ขณะที่ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ รายงานว่ามีการส่งมอบรถยนต์ไปแล้ว 1.04 ล้านคัน ยังเหลืออีกเพียง 2 แสนคันที่จะทยอยรับรถไปจนถึงต้นปี 57
ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ภาวะอุปทานรถยนต์จากโครงการรถยนต์คันแรก ยังเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความไม่แน่นอนเกี่ยวตัวเลขยกเลิกการจอง และลูกหนี้ที่อาจจะไม่สามารถชำระค่างวดได้ ส่งผลให้ภาวะตลาดประมูลน่าจะหาจุดสมดุลได้ในช่วงต้นปี 2557 และทำให้สถานการณ์ด้านราคาของรถยนต์มือสองยังคงอ่อนตัว จึงเป็นช่วงที่น่าประมูลซื้อเนื่องจากรถนั่งส่วนบุคคลขนาด 1300-1500 cc (ปี 2006-2008>) ระดับราคาอยู่ที่คันละ 245,300-280,800 บาท และรถยนต์ขนาด 1600-2000 cc (ปี 2006-2008>) ที่ระดับราคาอยู่ที่คันละ 354,000 - 385,750 บาท
สำหรับแนวโน้มตลาดประมูลรถกระบะ เดือนส.ค. ยังมีปัจจัยลบเรื่องกำลังซื้อจากกลุ่มลูกค้าเกษตรกรที่เริ่มหดตัวลงจากข่าวความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายจำนำข้าวในปีการผลิต 2556-2557 นอกจากนี้แล้วราคาสินเกษตรบางชนิด เช่น ยางพารา มันสำปะหลัง ยังมีแนวโน้มไม่ดีนัก ในขณะที่ในไตรมาส 3 เป็นช่วงโลว์ซีซั่นของตลาดรถยนต์
อย่างไรก็ตาม ในส่วนตลาดรถกระบะมือสอง สหการประมูลประเมินว่าเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายรถยนต์คันแรก มีน้อยกว่ารถยนต์นั่ง เพราะไม่อยู่ในกลุ่มได้รับประโยชน์จากนโยบายรถยนต์คันแรกมากนัก เมื่อเทียบกับรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ดังนั้น ตลาดน่าจะฟื้นตัวได้ก่อน โดยคาดว่าจะเริ่มชัดเจนขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งระดับราคาประมูลเฉลี่ยปัจจุบันของรถกระบะ ปรับตัวลดลง 50,000-70,000 บาทต่อคัน หากจะปรับลดลงอีกคาดว่าไม่มากนัก อยู่ในภาวะน่าซื้อ เช่น รถกระบะ Single Cab (ปี 2006 - 2008 >) ระดับราคาอ่อนมาที่คันละ 240,000 บาท และรถกระบะ Double Cab ( ปี 2006- 2008 >) ระดับราคาอ่อนมาที่คันละ 340,000 บาท
ส่วนตลาดประมูลจักรยานยนต์มือสอง ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว จากปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และราคาสินค้าเกษตรบางตัวลดต่ำลง ประกอบกับอยู่ในฤดูฝนซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่น นอกจากนี้ปริมาณรถยึดจากบริษัทไฟแนนท์ ยังคงมีปริมาณมาก เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคสามารถขอสินเชื่อค่อนข้างง่าย แต่เมื่อไม่สามารถผ่อนชำระได้รถจึงถูกยึดเข้าสู่ตลาดประมูลมากขึ้น ส่งผลให้ราคารถจักรยานยนต์มือสองยังอยู่ในภาวะขาลง และคาดว่าจะมีแนวโน้มชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลโดย : www.bangkokbiznews.com
****************************************************
ถ้าเป็นตามนี้นะ ผมว่าราคาจะตกไปถึงปลายปี หรือไม่ถึงต้นปีหน้าถึงจะมีฟื้นเพราะเมื่อรถคันแรก ส่งถึงมือแล้ว เริ่มเข้าสู่ตลาดปกติ รถที่ราคาตกๆ อยู่ตอนนี้ ถ้ายังอยู่ในมือถึงช่วงต้นปี อาจกลับมามีราคาอีกเล็กน้อย เพราะคนที่ถูกตัดสิทธิ คนที่ผ่อนไม่ไหว จะกลับมามองรถมือสอง รถเต๊นท์ อีกครั้ง เว้นเสียแต่ว่าบริษัทรถจะมีโปรโมชั่นดอกถูกออกมา ซึ่งเมื่อเป็นช่วงไตรมาสแรกๆ ก็คงยังไม่รีบกระตุ้นยอดขาย เชื่อว่าราคาีรถมือสอง จะทรงๆ ไม่ร่วงเร็วแล้วล่ะ
ราคารถมือสองดิ่งต่อเนื่องพิษศก.-รถคันแรก
นายเอกพิทยา เอี่ยมคงเอก กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ AU เปิดเผยว่า ข้อมูลของผู้ใช้สิทธิโครงการรถยนต์คันแรกจากกรมสรรพสามิตระบุว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 1.25 ล้านราย มูลค่าเงินคืนภาษีจำนวน 92,168 ล้านบาท ล่าสุดพบว่ามีการยกเลิกการใช้สิทธิไปแล้ว 4,837 ราย และไม่ได้รับสิทธิเนื่องจากไม่เข้าเงื่อนไขอีก 750 ราย ขณะที่ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ รายงานว่ามีการส่งมอบรถยนต์ไปแล้ว 1.04 ล้านคัน ยังเหลืออีกเพียง 2 แสนคันที่จะทยอยรับรถไปจนถึงต้นปี 57
ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ภาวะอุปทานรถยนต์จากโครงการรถยนต์คันแรก ยังเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความไม่แน่นอนเกี่ยวตัวเลขยกเลิกการจอง และลูกหนี้ที่อาจจะไม่สามารถชำระค่างวดได้ ส่งผลให้ภาวะตลาดประมูลน่าจะหาจุดสมดุลได้ในช่วงต้นปี 2557 และทำให้สถานการณ์ด้านราคาของรถยนต์มือสองยังคงอ่อนตัว จึงเป็นช่วงที่น่าประมูลซื้อเนื่องจากรถนั่งส่วนบุคคลขนาด 1300-1500 cc (ปี 2006-2008>) ระดับราคาอยู่ที่คันละ 245,300-280,800 บาท และรถยนต์ขนาด 1600-2000 cc (ปี 2006-2008>) ที่ระดับราคาอยู่ที่คันละ 354,000 - 385,750 บาท
สำหรับแนวโน้มตลาดประมูลรถกระบะ เดือนส.ค. ยังมีปัจจัยลบเรื่องกำลังซื้อจากกลุ่มลูกค้าเกษตรกรที่เริ่มหดตัวลงจากข่าวความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายจำนำข้าวในปีการผลิต 2556-2557 นอกจากนี้แล้วราคาสินเกษตรบางชนิด เช่น ยางพารา มันสำปะหลัง ยังมีแนวโน้มไม่ดีนัก ในขณะที่ในไตรมาส 3 เป็นช่วงโลว์ซีซั่นของตลาดรถยนต์
อย่างไรก็ตาม ในส่วนตลาดรถกระบะมือสอง สหการประมูลประเมินว่าเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายรถยนต์คันแรก มีน้อยกว่ารถยนต์นั่ง เพราะไม่อยู่ในกลุ่มได้รับประโยชน์จากนโยบายรถยนต์คันแรกมากนัก เมื่อเทียบกับรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ดังนั้น ตลาดน่าจะฟื้นตัวได้ก่อน โดยคาดว่าจะเริ่มชัดเจนขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งระดับราคาประมูลเฉลี่ยปัจจุบันของรถกระบะ ปรับตัวลดลง 50,000-70,000 บาทต่อคัน หากจะปรับลดลงอีกคาดว่าไม่มากนัก อยู่ในภาวะน่าซื้อ เช่น รถกระบะ Single Cab (ปี 2006 - 2008 >) ระดับราคาอ่อนมาที่คันละ 240,000 บาท และรถกระบะ Double Cab ( ปี 2006- 2008 >) ระดับราคาอ่อนมาที่คันละ 340,000 บาท
ส่วนตลาดประมูลจักรยานยนต์มือสอง ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว จากปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และราคาสินค้าเกษตรบางตัวลดต่ำลง ประกอบกับอยู่ในฤดูฝนซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่น นอกจากนี้ปริมาณรถยึดจากบริษัทไฟแนนท์ ยังคงมีปริมาณมาก เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคสามารถขอสินเชื่อค่อนข้างง่าย แต่เมื่อไม่สามารถผ่อนชำระได้รถจึงถูกยึดเข้าสู่ตลาดประมูลมากขึ้น ส่งผลให้ราคารถจักรยานยนต์มือสองยังอยู่ในภาวะขาลง และคาดว่าจะมีแนวโน้มชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลโดย : www.bangkokbiznews.com
****************************************************
ถ้าเป็นตามนี้นะ ผมว่าราคาจะตกไปถึงปลายปี หรือไม่ถึงต้นปีหน้าถึงจะมีฟื้นเพราะเมื่อรถคันแรก ส่งถึงมือแล้ว เริ่มเข้าสู่ตลาดปกติ รถที่ราคาตกๆ อยู่ตอนนี้ ถ้ายังอยู่ในมือถึงช่วงต้นปี อาจกลับมามีราคาอีกเล็กน้อย เพราะคนที่ถูกตัดสิทธิ คนที่ผ่อนไม่ไหว จะกลับมามองรถมือสอง รถเต๊นท์ อีกครั้ง เว้นเสียแต่ว่าบริษัทรถจะมีโปรโมชั่นดอกถูกออกมา ซึ่งเมื่อเป็นช่วงไตรมาสแรกๆ ก็คงยังไม่รีบกระตุ้นยอดขาย เชื่อว่าราคาีรถมือสอง จะทรงๆ ไม่ร่วงเร็วแล้วล่ะ