เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อสักประมาณ ต้นปี ผมก็เปิดร้านขายเสื้อผ้าของเล่นออนไลน์ก็ขายของไปเรื่อยเปื่อยเป็นงานอดิเรค จนถึงจุด ๆ เมื่อออร์เดอร์มีน้อยสั่งได้ไม่คุ้มเสีย ร้านก็จึงปิดตัวไปพร้อมกับคืนเงินลูกค้าทั้งหมดเรื่องเหมือนน่าจะจบด้วยดี แต่แล้วก็มี หนังสือจาก สคบ เรียกให้มาชี้แจงว่า มีลูกค้าที่สั่งของจากร้านเราไปแล้วไม่ได้รับสินค้า กรุณาเข้ามาชี้แจง ที่ สคบ  ผมก็เข้าไปทันที ณ ศูนย์ราชการตึก รัฐประศาสนภักดี ชั้น 5 (ตึกใหญ่ ๆ ในศูนย์ราชการ) นั่นหละครับ ก็ได้ความว่า เป็นลูกค้าที่ตกหล่นจากการเรียกคืนเงิน ก็ทำการติดต่อคืนเงินให้กับลูกค้าเรียบร้อย

แต่ก่อนจาก จนท ได้ฝากความรู้อย่างนึงที่ทำให้ผมอึ้งมาจนถึงปัจจุบันนี้

จนท เค้าได้บอกว่า การขายของแบบนี้ ที่เปิดร้านผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ แล้วให้ลูกค้าเข้ามาเปิดดูสินค้าโดยไม่ได้เห็นของจริง เข้าข่ายธุรกิจแบบขายตรง ถ้าคุณไม่ได้จดทะเบียนกับ สคบ จะต้องโดนโทษปรับ 1 แสนบาท และปรับวันละ 1 หมื่นบาทจนกว่า คุณจะปิดกิจการ

ผมจึงถามด้วยความสงสัยว่า เท่าที่ผมทราบมา การจะขายของออนไลน์เราแค่ไปจดทะเบียนพาณิชย์ออนไลน์กับทาง DBD เท่านั้นก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือครับ เค้าก็บอกว่า นั่นก็กฎหมายนึงแต่จริง ๆ แล้วต้องจดกับ สคบ ด้วยเพราะมันเข้าข่ายขายตรง ผมจึงบอกว่าถ้าเป็นอย่างนั้นจริงทุกวันนี้มีคนขายของออนไลน์เป็นหมื่น แสน ๆ รายด้วยซ้ำ แสดงว่าคนเหล่านี้ผิด พรบ ขายตรงหมดเลยหรือ? เค้าก็พยักหน้า ผมก็บอกถ้าเป็นอย่างนั้นจริง สคบ ควรมีหนังสือออกมาหรือแจ้งหน้าเว็บเพื่อชี้แจงต่อคนที่ขายของออนไลน์ว่าผิด พรบ ขายตรง นะ ไม่อย่างนั้นคนขายของไม่รู้เรื่องนี่โดนปรับตายเลย เค้าก็ไม่ตอบอะไร สุดท้ายเค้าก็ให้ผมเขียนใบบันทึก ก็จบ ก่อนจบยังมีบอกผมทิ้งท้ายด้วยนะ ครั้งนี้ผมถือว่าคุณปิดร้านไปแล้วก็จะไม่ดำเนินคดี หรือปรับ ในพรบ ขายตรง แต่ว่าถ้ามีครั้งหน้าเปิดร้านออนไลน์อีก ผมจะปรับคุณนะ ผมก็ทำท่าอึ้ง ๆ แล้วก็บอกครับ ๆ ได้ครับผม

สรุป  จากที่ จนท พูดในวันนี้ทำให้ได้รู้ว่า ขายของออนไลน์ ต้องขึ้นทะเบียนกับ สคบ ถ้าไม่จดจะมีโทษปรับ 100000 บาท และปรับวันละ 10000 บาท เลยทีเดียว

ปล. แต่ผมว่า จนท คนนี้ น่าจะเข้าใจผิดระหว่างคำว่า ขายตรงกับคำว่าขายสินค้าออนไลน์ ครับ
ปล.2 เคยมีคดีตัวอย่างหรือคำตัดสินของศาล ที่เกี่ยวข้องกับกรณี นี้บ้างหรือเปล่าครับ แล้วศาลท่านพิจารณาอย่างไรกับ คำว่า "ขายตรง" กับคำว่า "ขายสินค้าออนไลน๋"