พระ มจร.กับพระ มมร. กับ ร.ร. พระปริยัติธรรม แผนกสามัญฯ เป็นพระเณรที่มีปัญหา?

จริงๆแล้วพระสงฆ์ที่บวชเข้ามาในพระพุทธศาสนาต้องเล่าเรียนพระธรรม  วินัย แล้ว นำไปปฏิบัติ เมื่อได้มรรคได้ผลจึงนำไปขยายสู่มวลชนต่อไป
ต่อมาพระสงฆ์มุ่งเรียนพระธรรม วินัยเพื่อท่องจำ นำมาวิจัย แต่ขาดการปฏิบัติ ไม่ได้มรรคผลที่แท้จริง ได้เพียงบางส่วนที่เป็นเปลือกๆ แล้วนำไปขายายสู่มวลชนโดยเฉพาะธรรมชั้นโลกุตระจึงเกิดการขยายผลแบบผิดๆถูกๆ เกิดธรรมปฏิรูป สัทธรรมปฏิรูป คำสอนเริ่มผิดเพี้ยน เอาคำสอนของพระพุทธเจ้าไปหลอกลวงชาวบ้าน ส่วนที่สอนในส่วนที่เป็นโลกียะสอนแต่คนอื่นแต่ไม่สอนตนเอง พอไม่ประพฤติปฏิบัติ ธรรมเพื่อละจึงไม่เกิด สิ่งที่เกิดคือธรรมที่เป็นไปเพื่อความมักมาก สะสม บำรุงกิเลส กามารมณ์ ๕  พระจึงเกิดปัญหาเหมือนปัจจุบันนี้

การเล่าเรียนของพระเณรที่เรียนในมหาวิทยาลัยสงฆ์ ร.ร. พระปริยัติฯ แผนกสามัญ ผิดวัตถุประสงค์ของการบวชแต่ก็เอื้อเฟื้อบุคคลสังคมศาสนา

- ในอดีตการศึกษาไทยยังไม่ทั่วถึง การที่ลูกคนจนจะได้เรียนสายสามัญเป็นเรื่องที่ยากปัญหาคือไม่มีเงินค่าเทอม จ่ายค่าครองชีพในขณะเรียน
- ค่านิยมในอดีตมองว่าคนที่บวชเรียนมาย่อมเป็นคนที่มีคุณธรรมมีความรู้เป็นบัณฑิต อดีตข้าราชการ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียงก็ล้วนมาจากสายพระ

จากประเด็นข้างต้นจึงมีที่มาของการบวชเรียนสายสามัญที่เราท่านคิดว่ากำลังเป็นปัญหา ปฏิเสธไม่ได้ว่าพระสงฆ์องค์สามเณรที่บวชแล้วจะไม่สึก
ในอดีตแม้แต่เจ้าฟ้าพระมหากษัตริย์ที่บวชหลายอายุพรรษาเมื่อถึงกาลท่านเหล่านั้นก็อนุเคราะห์โลกตามหน้าบทบาทสถาณการณ์ หรือเจ้านายท่านเห็นแววภิกษุผู้มีปัญญาท่านพิจารณาแล้วว่าถ้าสึกออกมาน่าจะทำประโยชน์แก่บ้านเมืองได้มากถึงกับไปเทียบเคียงให้สึก  สึกออกจากเพศพรรษชิตแล้วเจริญในหน้าที่การงานเป็นคุณแก่ชาติบ้านเมืองมามากก็นักมากมายหลายท่าน แม้ปัจจุบันก็เปิดช่องให้ผู้ที่มีวุฒิเปรียญธรรมสามารถสมัครสอบคัดเลือกเป็นข้าราชสายอนุสาวนาจารย์กองทัพ ทัณฑสถาน ฯลฯ เมื่อมีเหตุต้องสึกๆแล้วความรู้ท่านเหล่านั้นมิได้หายไปใหน......

- ในอีตมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งจะเปิดเน้นเฉาะคณะศาสนปรัชญา ( ศน.บ,พธ.บ. ) ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับหลักธธรมเป็นหลัก ต่อมาพระนิสิตเหล่าคณาจารย์ได้มองเห็นโอกาสข้างต้นจึงขอเปิดคณะต่างๆเพิ่มขึ้น เช่น นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ครุศาสตร์ สังคม ฯลฯ เพราะเมื่อท่านเหล่านี้สึกขาลาเพศออกไปก็สามารถนำวุฒิไปทำงานประกอบอาชีพเลี้ยงตนและครอบครัวได้ ( ส่วนมากจะมาจากลูกชนชั้นชาวบ้านชาวไร่ชาวนาธรรมดา )

- ส่วนที่ท่านไม่สึกท่านก็เป็นกำลังของศาสนาฝ่ายเผยแพร่ศีลธรรม สอนศีลธรรมในโรงเรียน ก้ถือว่าทำคุณต่อพระศาสนาต่อไป

- ปัจจุบันพระเณรที่สึกขาลาเพศส่วนมากท่านมุ่งสอบเข้าทำงานรับราชการ ( สมัยหนึ่งมีการสอบแข่งขัน ปรากฏว่านิสิตที่จบจาก มจร. ได้อันดับต้นๆจนเป็นที่ทีวิพากษ์วิจารณ์ ว่าผู้ที่บวชเอาเปรียบชาวบ้าน กินข้าวเขาแล้วยังไปแย่งอาชีพเขาอีก )สามเณรที่สอบเข้าคณะแพทย์ศาสตร์ได้ ก็มาจากสาย ร.ร. พระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ที่รู้จักกันดีคือ วัดศรีนวล จ. ขอนแก่น เป็น อบต ผู้ใหญ่กำนัน ฯลฯ อยู่ในส่วนภาคสังคมต่างๆมากมาก


ผมจึงอยากเล่าเรื่องราวให้ฟังตามความเห็นของผมครับ......
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่