การถ่วงดุลย์ของอำนาจสามฝ่ายตามระบอบการปกครองของไทยที่ไม่สมดุลย์

ระบอบการปกครองของประเทศไทย แยกอำนาจออกเป็นสามส่วน
- อำนาจบริหาร
- อำนาจนิติบัญญัติ
- อำนาจตุลาการ

จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแยกอำนาจทั้งสามออกจากกัน เพื่อให้คอยถ่วงดุลย์ซึ่งกันและกัน
ปัจจุบัน อำนาจบริหารกับอำนาจนิติบัญญัติจับมือกันหาผลประโยชน์ ถ้าฝ่ายบริหาร(รมต.)ไม่ยอม พวกนิติบัญญัติ(สส.)ก็อาจไม่ยกมือให้เวลาลงคะแนนไม่ไว้วางใจ มันจึงจำเป็นต้องซูเอี๋ยกันไปโดยปริยาย

ส่วนอำนาจตุลาการไม่ต้องพูดถึง...แตะต้องไม่ได้

ถามว่าที่อื่นเป็นยังไง ถ้าเป็นอเมริกาคร่าวๆ
หัวหน้าฝ่ายบริหารคือประธานาธิบดี มีสิทธิ์เลือกรัฐมนตรีเอง โดยสส.-สว.แทบไม่มีสิทธิ์จะแตะต้องประธานาธิบดีได้ ประชาชนจะเป็นคนตัดสินเท่านั้น อยู่ได้เต็มที่แปดปีไม่เกินไปกว่านั้น
สส.-สว. ทำหน้าที่ออกกฏหมายเท่านั้นไปยุ่งกับฝ่ายบริหารก็ไม่ได้ แต่สังกัดพรรคการเมืองเดียวกับประธานาธิบดีได้
ส่วนผู้พิพากษาใช้ลูกขุนตัดสินในเคสใหญ่ๆ โดยลูกขุนเป็นผู้ตัดสินว่าถูกหรือผิด ส่วนผู้พิพากษาเป็นผู้กำหนดโทษ ส่วนเรื่องยิบย่อยไกล่เกลี่ยกึ่งๆตัดสินด้วยผู้พิพากษาไปเลย(ออกทีวีด้วย) วันเดียวจบ

ถ้าอยากเป็นประเทศที่แข็งแกร่งก็คงต้องเริ่มเรียนรู้จากผู้ที่แข็งแกร่ง หากไม่เรียนรู้ก็ต้องลองผิดลองถูก
แต่ที่แน่ๆ การเมืองไทยภายใต้ระบอบการปกครองแบบนี้เละเทะสิ้นดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่