อยากจะบอกว่าไม่ใช่เด็กทุกคนเสมอไปนะ ที่จะวันๆเอาแต่นั่งเล่นipad เด็กที่สนใจการเมืองก็มีอยู่ค่ะ

หนูอายุ 17 ปี อยู่ม.6 แข่งyoung dpr award ยุวชนประชาธิปไตยสัมพันธ์มาตั้งแต่ม.5
ตอนช่วงม.5 เดินสายแข่งแทบจะทุกรายการที่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง
จากการที่ไปแข่งมาก็ทำให้เห็นนะ ได้เจอเพื่อน ได้คุยกัน
คือก็ทำให้เห็นว่ายังมีเด็กอีกจำนวนนึง ซึ่งไม่น้อยเลย ที่สนใจเรื่องการเมืองอย่างจริงจัง
ซึ่งส่วนตัวก็สนใจอยู่แล้ว
เพราะดูข่าวตลอด
ถึงชีวิตประจำวันจะมีดูหนังบ้าง ติดดาราบ้าง แต่ก็ดูข่าวการเมืองควบคู่มาตลอดค่ะ
ชอบคุยกับคุณพ่อ คุณครู เรื่องนี้ด้วย
ไม่รู้นะ แต่หนูคิดว่าการเมืองเป็นเรื่องที่น่าสนุก
และเป็นเรื่องของประชาชนทุกคน ที่ประชาชนทุกคนต้องรับรู้ และคอยสอดส่อง
รัฐธรรมนูญก็บอกไว้นะ ว่าประชาชนมีสิทธิที่จะคัดค้านหรือยื่นเสนอพรบ.หรืออะไรได้

ในรัฐธรรมนูญก็บอกเอาไว้ซะสวยหรู กับวิธีขั้นตอนทางการเมืองต่างๆ ข้อบังคับในการประชุมรัฐสภา
แต่ไม่เห็นจะมีใครปฏิบัติตามได้เลย 100%
เท่าที่เห็นก็มีแต่ปัญหา การใช้อารมณ์กัน ไม่มีสติเลย ไม่เคารพซึ่งกันและกันด้วย

บางทีก็แอบคิดว่า จะมีรัฐธรรมนูญไปทำไม ในเมื่อไม่เคารพกฏกติกากันเลย
บางทีก็แอบคิดว่า คนดีๆไปไหนหมด

สังคมไทย คนดีมีน้อย อยู่ยาก โดนกดขี่ให้จม หรือกลายเป็นแกะดำ
เพราะคนไม่ดีเยอะ เมื่อมีหลายคนเห็นด้วยกับคนไม่ดี เพียงเพราะต้องการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน
พลังของคนไม่ดีก็ยิ่งมีมาก

ซึ่งสิ่งเหล่านี้พบเห็นได้ในทุกๆที่ค่ะ
ตั้งแต่โรงเรียน สถานที่ราชการ ฯลฯ หลายๆอย่างง

รู้สึกไม่ดีจริงๆ เมื่อไหร่ประเทศไทยจะพัฒนาสักที

ในความคิดหนูนะ
คนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้แทน หรือคนบริหารประเทศนั้น
ต้องเป็นคนที่เสียสละมากๆ ต้องมีจิตอาสาที่แท้จริง เพราะต้องละทิ้งทุกสิ่ง ทั้งหน้าที่การงานที่เคยทำ สังคมเพื่อน เวลาให้ครอบครัวก็น้อยลง
ซึ่งเรื่องเงินเดือนที่ได้นั้น หนูว่ามันไม่ใช่ประเด็นหลักเลยค่ะ
เพราะนั่นไม่ใช่รายได้หลักของคุณ แต่เป็นเพียงค่าตอบแทนในการบริหารงานประเทศ
ซึ่งนักการเมืองสมัยนี้ เงินเดือนเฉยๆอาจจะไม่พอใช้ ต้องแสวงหากอบโกยรายได้ต่างๆนาๆ หนูว่านะ ถ้าอัปจนมาก ก็อย่ามาเป็นเลยดีกว่างานอาสา

แล้วอีกอย่าง ผู้สมัครรับเลือกตั้งอ่ะค่ะ
คนดีๆเขาไม่สมัครกันหรอ คนดีๆไปอยู่ไหน ที่เห็นส่วนใหญ่มักจะเป็นคนที่มีหน้ามีตาในสังคมอยู่แล้ว
เป็นคนที่คนในพื้นที่นั้นยกย่อง ซึ่งก็ไม่รู้แหล่ะว่าเขาเป็นคนดีจริงหรือเปล่า
แค่เห็นว่าภูมิฐาน มีชื่อเสียง ร่ำรวย ก็พากันเลือก ให้เข้ามาบริหารงานประเทศ
ให้เขาได้กอบโกยภาษีพ่อแม่ไปอีก

เพราะอย่างงี้ช่องว่างระหว่าง คนจน กับ คนรวย ของประเทศไทย จึงต่างกัน
และมีแนวโน้มว่าจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ตราบใดที่คนไทยยังไม่ปรับทัศนคติ
คนไทยชอบตัดสินคนที่ภายนอก และจากคำบอกเล่าของคนอื่น
และชอบอุปทานหมู่ด้วย
เสียงส่วนใหญ่ว่าอย่างไรก็ว่าตามนั้น
แล้วก็มาบ่นเวลาข้าวยากหมากแพง หรือปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น
โดยที่ไม่ได้นึกย้อนกลับไปเลย
คือท่านควรที่จะ ให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งมากกว่าานี้ไหม หรือยังไง

ค่ะ ยังไงสุดท้ายนี้ก็แค่อยากบอกพี่ๆน้าๆลุงๆป้าๆในบอร์ดราชดำเนินนี้
ว่า เด็กที่สนใจการเมืองยังมีอีกมากค่ะ เพียงแต่หลายคนก็น้อยใจ ท้อใจ
ที่ศึกษาการเมืองไทยไป ก็ยิ่งปวดหัว ไม่รู้หนทางจะแก้ไข
ไม่รู้ว่าเรียนไปแล้วจะมีโอกาสได้เอามาใช้อย่างที่ฝันไว้มั้ย
ไม่รู้ว่า ความหวังที่จะเปลี่ยนแปลงการเมืองไทย จะเป็นแค่หวังล้มๆแล้งๆรึเปล่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่