"ไม่มีวันที่ผมจะซื้อหุ้นในช่วงนี้หรอก เพราะช่วงนี้ตลาดหุ้นมันย่ำแย่เอามากๆ”

กระทู้สนทนา

5 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับหุ้น

มีหลายคนทีเดียวที่ชอบคุยเรื่องหุ้นให้คนอื่นฟัง  แม้ว่าการพูดคุยเรื่องหุ้นอาจจะดูดี  น่าตื่นเต้น  ดูมีความรอบรู้  แต่บางคนก็เข้าใจผิด  และไม่รู้จริง  

อมยิ้ม04ความเชื่อผิดๆ ข้อที่ 1: "การลงทุนในหุ้นของบริษัท X ของผม เป็นการลงทุนที่มั่นใจได้ 100%"

ความเข้าใจผิด หุ้นที่ร้อนแรง  ใครๆ ก็แย่งกันซื้อ ต้องเป็นการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนที่ยอดเยี่ยมแน่นอน

          ทำไมถึงเป็นความเชื่อที่ผิด  ไม่มีการลงทุนอะไรที่มั่นใจได้ 100%  บริษัทไหนๆ ก็อาจจะมีปัญหาร้ายแรงที่ซ่อนไว้จากผู้ลงทุน/ผู้ถือหุ้น  และด้วยการซ่อนปัญหา  ซ่อนตัวเลขที่ลงบัญชีให้ผิดๆ เพื่อแสดงกำไรสูงๆ  ราคาหุ้นจะได้สูงตามไปด้วย  สิ่งเหล่านี้ทำให้บริษัทใหญ่ๆ อย่าง Enron, WorldCom  พังทลายมาแล้ว

          แสดงว่าแม้กระทั่งบริษัทขนาดยักษ์ที่มีชื่อเสียง  มีผู้บริหารมืออาชีพที่ดีที่สุด ก็ยังพังทะลายได้จากหายนะที่ควบคุมไม่ได้ หรือจากการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในตลาด เช่น การมีคู่แข่งใหม่ หรือการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี่ และที่สำคัญที่สุดคือการการฉ้อโกง

          นอกจากนี้ เมื่อเราซื้อหุ้นด้วยความร้อนแรงของมัน  ด้วยข่าวลือ  ราคาหุ้นนั้นก็อาจสูงเกินกว่าความเป็นจริงซึ่งทำให้ยากที่จะได้รับผลตอบแทนสูงๆ ได้

          การป้องกันหายนะจากการลงทุนที่ดีที่สุดคือการกระจายการลงทุน และยิ่งต้องทำเช่นนั้นหากเราลงทุนในหุ้นเองโดยไม่ได้ลงทุนผ่านกองทุนรวมซึ่งมีการกระจายการลงทุนไว้อย่างดีแล้ว หากเราลงทุนเองก็ควรเรียนรู้วิธีหาบริษัทดีๆ ที่อาจจะไม่มีคนเห็นคุณค่าในวันนี้ เพราะราคาหุ้นยังไม่ร้อนแรง แต่มีโอกาสมากที่จะให้ผลตอบแทนสูงจากการลงทุนในระยะยาว  วิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นและเพิ่มผลตอบแทนให้เราได้

          ผู้ลงทุนที่มีประสบการณ์จะพูดว่า ผมเต็มใจที่จะลงทุนในบริษัทนี้เพราะเชื่อว่ามันจะเป็นการตัดสินใจลงทุนที่ยอดเยี่ยม แต่เพื่อความไม่ประมาท  ผมจะลงทุนด้วยเงินเพียง 5% ของเงินลงทุนทั้งหมด

อมยิ้ม04  ความเชื่อผิดๆ ข้อที่ 2: "ไม่มีวันที่ผมจะซื้อหุ้นในช่วงนี้หรอก เพราะช่วงนี้ตลาดหุ้นมันย่ำแย่เอามากๆ”

          ความเข้าใจผิด มีแต่คนโง่ๆ เท่านั้นที่จะซื้อหุ้นในช่วงที่ตลาดย่ำแย่อย่างนี้

          ทำไมถึงเป็นความเชื่อที่ผิด  หากหุ้นที่เราซื้อยังคงมีปัจจัยพื้นฐานที่มั่นคง  ราคาหุ้นที่ตกลงมาในปัจจุบันจะเป็นเพียงเพราะความกลัวของผู้ลงทุนในระยะสั้นๆ ซึ่งจะเหมือนเวลาร้านค้าติดป้ายลดราคา

          เป็นโอกาสอันดียิ่งที่จะแสวงหาหุ้นราคาถูกที่มีปัจจัยพื้นฐานดี  มีราคาต่ำกว่าที่มันควรจะเป็นมาไว้ในพอร์ตการลงทุนของเรา แต่อย่าลืมทำการบ้าน  เพราะไม่ใช่ว่าทุกอย่างที่ลดราคาจะดีไปหมด  เราต้องขยันหาความรู้และหาความจริงว่าอะไรทำให้ราคาหุ้นดีๆ ตกลงมามากขนาดนั้น  ต้องมั่นใจว่ามันเป็นเพราะตลาดโดยรวม  ไม่ใช่เพราะบริษัทนั้นๆ มีปัญหาใหญ่ๆ ที่เรายังไม่รู้  จำได้ไหมที่เคยแนะนำไปว่า Recession ที่เพิ่งเกิดขึ้นจากปัญหา Subprime และ CDOs จะทำให้คนมีเงินสดได้รับโอกาสในการซื้อของดีราคาถูก และร่ำรวยขึ้นมาได้

          จงจำไว้ว่าตลาดหุ้นเป็นตลาดที่มีวงจรหรือวัฏจักรของมัน  และในช่วงที่คนขายอย่างตื่นตระหนกมันไม่ได้หมายความว่าเราต้องทำตาม

          ผู้ลงทุนที่มีประสบการณ์จะพูดว่า ผมกำลังได้รับโอกาสที่ดีมากในการเลือกลงทุนในหุ้นดีๆ ที่ราคาตกลงมาเพราะตลาดหุ้นมันย่ำแย่ในวันนี้ ผมจะต้องรักการตัดสินใจซื้อหุ้นวันนี้แน่ๆ เมื่อทุกอย่างดีขึ้น และราคาหุ้นกลับขึ้นไปสูงอย่างที่มันควรจะเป็นในอนาคต

อมยิ้ม04 ความเชื่อผิดๆ ข้อที่ 3: "ผมมีการกระจายการลงทุนที่ดี เพราะผมลงทุนในกองทุนหุ้นที่มีหุ้นหลายๆ ตัวตามตลาด”

          ความเข้าใจผิด การลงทุนในหุ้นหลายๆ ตัว เป็นการกระจายการลงทุนที่ถูกต้องแล้ว

          ทำไมถึงเป็นความเชื่อที่ผิด  แน่นอนที่การซื้อกองทุนหุ้นย่อมดีกว่าซื้อหุ้นเพียง 2-3 ตัว แต่การจะมีพอร์ตการลงทุนที่ดี  พอร์ตการลงทุนนั้นจะต้องมีการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์หลายๆ ประเภทด้วย เช่น กองทุนพันธบัตร  กองทุนตราสารหนี้  มันนี่มาร์เก็ตฟันด์  กองทุนหุ้นในประเทศ  กองทุนหุ้นต่างประเทศ ฯลฯ

          การลงทุนในกองทุนที่ลงทุนในหุ้นหลายตัวเป็นการกระจายการลงทุนในหุ้นที่ดี  แต่การเป็นเจ้าของพอร์ตการลงทุนที่มีกองทุนหรือสินทรัพย์หลากหลายประเภท จะเป็นการกระจายการลงทุนของทั้งพอร์ตที่ดีที่สุด

          ผู้ลงทุนที่มีประสบการณ์จะพูดว่า ผมมีการกระจายการลงทุนในหุ้นที่ดีพอเพราะว่าผมลงทุนในกองทุนหุ้น แต่กองทุนหุ้นนั้นก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุนทั้งหมดของผม  ผมยังลงทุนในกองทุนตราสารหนี้  ทองคำ  อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ อีกด้วย  พอร์ตการลงทุนทั้งหมดของผมจึงลดความเสี่ยงไปได้มากเพราะมีการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์หลายๆ ประเภท

อมยิ้ม04ความเชื่อผิดๆ ข้อที่ 4: “ผมเพิ่งใช้บริการโบรกเกอร์ที่เจ๋งที่สุด ผมรู้ว่าผมจะรวยแน่ๆ”

           ความเข้าใจผิด คำแนะนำการลงทุน จากโบรกเกอร์เหล่านี้คือคำแนะนำที่ดีที่สุด  และจะทำให้เราร่ำรวย

          ทำไมถึงเป็นความเชื่อที่ผิด  การซื้อและขายหุ้นในแต่ละครั้งจะมีค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ที่เราต้องจ่าย ไม่ว่าจะซื้อขายผ่านโบรกเกอร์หรือผ่านอินเตอร์เน็ต  ยิ่งเราให้โบรกเอร์ตัดสินใจทำการซื้อขายหุ้นแทนเราได้  เรามักจะพบว่ามีการซื้อขายที่ถี่ไป  เพราะเขาได้รับคอมมิชชั่นจากการซื้อขายหุ้น  และนั่นจะทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนของเราลดลงไป

          มีความเสี่ยงสูงที่โบรกเกอร์จะบริหารพอร์ตลงทุนของเราผิดพลาด  เพราะมีวัตถุประสงค์ต่างกับเราที่เป็นเจ้าของเงิน  วัตถุประสงค์ของโบรกเกอร์คือการมีรายได้คอมมิชชั่นในการซื้อขายหุ้น และจะ ได้โบนัสมากๆ เมื่อทำได้ตามเป้าหมายหรือมากกว่า  การจะถึงเป้าหมายของเขาจึงต้องมีการซื้อขายบ่อยครั้ง  ความกดดันนี้อาจทำให้เขาจำเป็นต้องแนะนำการลงทุนที่ไม่เหมาะสมให้เรา และแม้ว่าจะผิดจรรยาบรรณ แต่สิ่งเหล่านี้ก็เกิดขึ้นบ่อยๆ ทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทย

          ดังนั้น แทนที่จะใช้บริการโบรกเกอร์แบบผิดๆ เพราะธุรกิจหลักทรัพย์โดยเฉพาะในบ้านเรามีการผลักดันให้มีการจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้โบรกเกอร์แบบนั้น ซึ่งทำให้เขาอาจแนะนำชักจูงให้เราลงทุนอย่างไม่เหมาะสมกับตนเอง เราจึงต้องเลือกใช้บริการจากผู้ที่แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นมาร์เก็ตติ้งโบรกเกอร์ที่มีคุณภาพและยึดมั่นในจรรยาบรรณ เราอาจเลือกใช้บริการผู้วางแผนการลงทุนเป็น 2nd Opinion ด้วยก็ได้ แต่ต้องไม่ลืมทำการบ้านด้วยตนเองด้วย

          ผู้ลงทุนที่มีประสบการณ์จะพูดว่า หากผมใช้โบรกเกอร์อย่างถูกต้อง  สินทรัพย์ที่ผมลงทุนก็จะทวีค่าเพิ่มขึ้นเนื่องจากคนเหล่านั้นจะทำหน้าที่แนะ นำการลงทุนที่ดี ที่เหมาะสมกับผม โดยไม่มีอคติจากค่าคอมมิชชั่นที่ได้รับ  และผมจะตัดสินใจลงทุนเอง

อมยิ้ม04ความเชื่อผิดๆ ข้อที่ 5: "วันนี้ผมได้กำไร 1 หมื่นบาทจากหุ้นที่ผมถืออยู่  เพราะราคามันขึ้นไป 5%”

          ความเข้าใจผิด เข้าใจผิดว่าเราทำเงินได้เมื่อราคาหุ้นขึ้น  และเราขาดทุนเมื่อราคาลดลง

          ทำไมถึงเป็นความเชื่อที่ผิด กำไรขาดทุนที่คำนวณได้เป็นเพียงตัวเลขในกระดาษตราบใดที่เรายังไม่ขายหุ้นออกไป  

          เราไม่ต้องไปตื่นเต้นหรือตระหนกตกใจจนเกินเหตุกับวัฏจักรของตลาดหุ้นที่ขึ้นๆ ลงๆ หากเราเชื่อมั่นในหุ้นดีๆ หรือกองทุนหุ้นดีๆ ที่เรามีอยู่  และควรจะคงการลงทุนระยะยาวไว้ จนกว่าราคาหุ้นจะขึ้นไปถึงหรือใกล้เคียงกับที่ควรจะเป็นโดยปัจจัยพื้นฐาน

          มีเวลาอีกมากที่จะขายหุ้นในระยะยาวในราคาที่ได้กำไรสูงกว่าวันนี้  มูลค่าของพอร์ตการลงทุนจะผันผวนรายวันตามราคาตลาด  แต่กำไรขาดทุนที่แท้จริงจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราขายหุ้นออกไปเท่านั้น และน่าเสียดายที่เราหลายๆ คนตัดสินใจขายไปบนความผันผวน  ไม่ใช่ขายด้วยมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น

          ผู้ลงทุนที่มีประสบการณ์จะพูดว่า

          มูลค่าพอร์ตการลงทุนของผมในวันนี้สูงขึ้น 1 หมื่นบาท เพราะเป็นวันที่ดีของตลาดหุ้น แต่ก็ไม่ได้กระทบอะไรผม  เพราะผมยังไม่คิดจะขายหุ้นที่ถือในพอร์ตในช่วงนี้

          สรุป

          ไม่น่าเชื่อเลยว่าแม้กระทั่งเพื่อนเรา ญาติเรา และเจ้านายเราที่ฉลาดที่สุดก็ยังเชื่อและพูดผิดๆ เกี่ยวกับหุ้นตาม 5 ข้อที่ยกตัวอย่างมาให้ และแม้เราจะพยายามอธิบายสิ่งที่ถูกต้องให้เขาฟัง เขาก็ยังไม่เชื่อและหาว่าเรานั่นแหละที่ผิด

          แต่อย่าไปกังวลเลยว่าใครจะพูดอะไร จะถูกจะผิด  จะโง่หรือฉลาด  เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในการลงทุนไม่ใช่การพูดที่ดูฉลาด  แต่เป็นการกระทำที่ฉลาดต่างหาก

อมยิ้ม04  อย่าทำผิดๆ ใน 5 ข้อที่ว่านี้ แล้วเราจะอยู่ใน track ที่ถูกต้องของการลงทุนที่จะทำให้เราได้รับผลตอบแทนที่ดีตามเป้าหมายการลงทุนที่เราต้องการ

เครดิตบทความโดย วรวรรณ ธาราภูมิ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.บัวหลวง

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่