ชีวิตความรัก (มหาลัยฯ)

ชีวิตความรัก (มหาลัยฯ)

เมื่อผมเข้ามหาวิทยาลัย ชีวิตความรักใสๆแบบนักเรียนของผมก็เริ่มเปลี่ยนไป เจออะไรต่างๆมากมาย ทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดี อยากนำมาเล่าสู่กันฟังและเป็นบทเรียนให้กับเพื่อนๆได้ทราบว่าเป็นอย่างไรบ้าง อ่านกันเพลินๆนะครับ แต่ก็เป็นชีวิตจริงของผมเอง เริ่มกันเลย...



ปี 1
    ผมเข้ามาครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ด้วยตัวคนเดียว ไม่มีเพื่อนที่แอดมิดชัน หรือสอบตรงติดที่เดียวกับผมเลย ผมได้เข้าเรียนในคณะวิศวะ ผมมาจากบ้านนอกที่ห่างไกลจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ถึง 700 กว่ากิโลเมตร ผมมาที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ที่นี่ตัวคนเดียว ผมไม่เคยเจอโลกกว้างอะไรเช่นนี้มาก่อน บุคลิกของผมเป็นคนเรียบร้อย หน้าตา การพูดจาซื่อๆตรงๆ ผิวเหลือ-ขาว หน้าตาคมเข้ม ในตาดูเหมือนผู้หญิง ท่าทางบางทีก็ชอบตุ้งติ้งเหมือนผู้หญิง(ชอบทำตลกๆให้เพื่อนๆได้สนุกมากกว่า) แต่ผมเป็นผู้ชายแท้แน่นอนนะ และมักมีเสน่ห์ต่อเพศเดียวกัน คือมักจะมีพวกเก้ง กวาง มาชอบมองอยู่เสมอๆ
    พอผมเข้ามาได้ไม่ถึงเดือนเรื่องความรักของผมก็ได้ดำเนินขึ้น เมื่อผมไปสมัครเข้าชมรมละคร ผมเองก็ชอบการแสดง การเขียนบท เป็นส่วนตัวอยู่แล้ว ซึ่งในวันนั้นก็มีเพื่อนๆปี 1 เข้ามาสมัครกันพอสมควร ผมไปกับเพื่อนชายที่เรียนคณะเดียวกันอีก 2 คน พอนั่งฟังรุ่นพี่พูดเกี่ยวกับชมรมเสร็จ ก็มีสาวประเภทสองคนนึงมาขอเบอร์ผม เขาหน้าตาก็โอเคนะ ผิวสีแทน ผมสั้น ตาแวววาว เป็นประกาย เอ้ยไม่นะ ไม่แน่นอน ผมไม่ได้ชอบเขา และเขาก็ไม่ได้มาจีบผม เขาถามผมว่า

สาวสอง : นี่เธอๆเพื่อนเราให้มาขอเบอร์น่ะ ได้ปะ
ผมเอง : คนไหนหรอ
สาวสอง : คยที่นั่งอยู่ใกล้ๆเก้าอี้สีดำตัวนั้นไง
ผมเอง : อืม...คนนี้หรอ

    และเขาก็ชี้ให้ดูผู้หญิงคนที่นั่งอยู่ไม่ไกล ผู้หญิงคนนี้เขาไม่ได้เรียนคณะเดียวกันกับผม หน้าตาเธอสวยแบบคมเข้ม เธอสูง ผอมบาง ขาว จมูกโด่ง หน้าคม คล้ายๆกับผู้หญิงทางภาคใต้ ถือว่าเธอสวยเลยทีเดียว แต่ผมก็ปฏิเสธการให้เบอร์โทรเขาไป ด้วยเหตุที่ผมยังไม่กล้าเปิดใจ และยังเขินอาย และเมื่อเจอเธอในมหาวิทยาลัยผมก็มักจะหลบหน้าเธอ และแอบมองเธอซะมากกว่า ถามว่าผมอยากให้เบอร์โทรมั้ย หลังจากที่แอบมองเธอผมก็เริ่มจะชอบเธอเข้าแล้วล่ะ แต่ทำไงได้ผมปฏิเสธไปตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว และก็ไม่กล้าเข้าไปคุยกะเธอ จากนั้นไปไม่ถึง 3 เดือน ผมก็เห็นผู้หญิงคนนี้ไปเดินควงกับรุ่นพี่ปี 3 พลาดแล้วเรามัวแต่กลัวอะไรเนี่ย เสียดายเนอะ ผู้หญิงสวยๆแบบนี้เราจะไปหาจีบได้ที่ไหนกัน แต่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร เพราะเพิ่งเจออะไรแบบนี้ครั้งแรก คิดไว้ว่าครั้งต่อไปหากได้เจอใครที่ถูกใจหรือมีใครมาขอเบอร์แบบนี้ต้องลองเปิดใจคุยบ้างแล้วล่ะ
    ในระหว่างนั้นไม่กี่วัน ก็มีผู้หญิงอีกคนนึงซึ่งเรียนคณะเดียวกับผม ฝากเพื่อนที่เรียนเอกเดียวกันกับผมมาถามเหมือนกันว่า อยากได้เบอร์ผม ซึ่งผมไม่เคยเห็นหน้าผู้หญิงคนนี้มาก่อนเลย แต่เธอฝากบอกเพื่อนผมมาเห็นผมประจำ ผมก็ชั่งใจอยู่นานหลายวันเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ให้เบอร์ไป โดยคิดว่าคุยๆไปก่อนละกัน พอไม่กี่วันได้เจอเขาตัวจริง ในตอนนั้นเป็นช่วงค่ำแล้ว เราเจอกันที่สนามบาสเพราะไปเชียร์กีฬาเฟรชชี่ ไฟสปอตไลท์ส่องแสงจ้า ผมเป็นคนแพ้แสง มองไกลๆก็ถือว่าเธอสวยระดับหนึ่ง แต่พอมองใกล้ๆก็แปลกๆเหมือนกัน แปลกในที่นี้คือดูเหมือนเธอไปทำศัลยกรรมมา ซึ่งก็เป็นความจริงเธอบอกว่าทำจมูกและกรีดตามา เธอผิวขาว ตัวสูงกว่าผม ดัดฟัน หน้าตาเธอคล้ายๆลูกครึ่งฝรั่ง แต่ไม่ใช่ลูกครึ่ง ผมก็ไม่รู้ว่าอดีตหน้าตาเขาเป็นยังไง คงไม่ต่างจากที่เห็นมากเท่าไหร่ พอได้คุยกับผู้หญิงคนนี้ไปสักอาทิตย์นึง ผมก็รู้สึกโอเค ได้เจอกันบ้างในมหาวิทยาลัยตอนเย็นๆ ดูเหมือนเขาให้ความสนใจผมมาก ดูแลเอาใจใส่ และคอยเป็นห่วงดีมาก ซื้อขนมมาฝาก เขียนคำว่ารักตัวเล็กๆเรียงกันเป็นรูป LOVE มาให้ผมด้วย และเขาชอบมาจับไม้จับมือผม และชอบมาควงแขนผม ทั้งๆที่เราแค่เพิ่งคุยกันไม่กี่วัน ผมก็รู้สึกดีนะที่ได้คุยกับเธอ คำพูดของเธอทำให้ผมเคลิ้มเลยทีเดียว พอได้คุยกันประมาณ 2 อาทิตย์เท่านั้นล่ะ ผมทราบจากเพื่อนผู้ชายในกลุ่มซึ่งเค้าเล่าต่อๆกันว่าผู้หญิงคนนี้คุยกับผู้ชายหลายคนทั้งรุ่นเดียวกันและรุ่นพี่เยอะมาก และได้ข่าวที่ไม่คาดคิดก็คือ เธอเป็นผู้หญิงเก็บแต้ม ผมถึงกับตกใจ ดีนะที่ผมไม่พลาดพลั้งเสียแต้มไปให้เธอ พอผมรู้เรื่องราวจริงๆที่ผมพบเห็น และจากเพื่อนๆเล่าให้ฟัง และเพื่อนได้เตือนให้ผมห่างๆไป ผมจึงตีตัวออกห่าง หยุดคุยกับเธอไปในที่สุด ผมไม่ชอบการกระทำขอเธอ เธอเจ้าชู้ และไม่ได้แคร์ใครเลย ผมมองว่าผมโชคร้ายที่ต้องเจอเรื่องราวแบบนี้ แต่ทำยังไงได้ ในเมื่อสังคมที่นี่มีอีกหลายๆอย่างที่ผมไม่เคยพบ เจอมาก่อน เพื่อนผู้ชายส่วนหนึ่งบอกผมว่าเสียดายทำไมไม่จัดไป ส่วนตัวแล้วผมไม่ใช่คนแบบนั้น ผมที่เป็นคนที่ค่อนข้างจะมีแนวคิดในการใช้ชีวิตที่ชัดเจน อะไรที่ถูกที่ควรผมก็จะทำ อะไรที่คิดว่าทำแล้วเกิดผลเสียก็จะเลี่ยงหนีไป ผมไม่ได้เสียดายเลยสักนิดที่ไม่ได้แจกแต้มให้เธอ...
    พอมาถึงเทอม 2 ช่วงสอบมิดเทอมเสร็จเรียบร้อยผมก็ไปฉลองกับเพื่อนๆตามปกติ และก็ไปต่อกันที่ร้านคาราโอเกะ ซึ่งตอนนั้นผมออกอาการหน้าแดง มึนๆแล้ว เพื่อนร้องคาราโอเกะในห้องก็ไม่ได้ไปร้องกับเขา เพราะไม่ค่อยชอบร้องเพลงสักเท่าไหร่ เสียงไม่ไพเราะอย่างใครเขาก็มีเพื่อนอีกกลุ่มนึงชวนไปแอบส่องสาวๆห้องคาราโอเกะซึ่งเป็นห้องกระจกห้องข้างๆ พวกเธอมากันสามคนผมมองเข้าไปแป๊ปเดียวเท่านั้นล่ะ ก็นั่งดูเขาอยุ่ที่หน้าห้อง จนเพื่อนไปขอเบอร์สาวหนึ่งในสามคนนั้นให้ผม และหลังจากนั้นผมก็ได้คุยกับเธอมาเรื่อยๆ เธอเป็นผู้หญิงตัวสูง ผอมบาง จมูกโด่ง ผมยาว ก็ถือว่าสวยนะ แต่พอคุยไปได้สองอาทิตย์ ก็พอได้รู้จากเธอเองว่าเธอมีแฟนแล้ว ผมก็เลยกินแห้วล่ะครานี้ แต่ก็ยังคุยกับเธอเสมือนเพื่อนคนนึงอยู่นะ แต่ก็พอรู้ว่าเธอแอบมีใจให้ผมแน่ๆเลย แต่ก็คิดลึกเกินไปกว่านั้นไม่ได้เพราะติดอยุ่ที่ว่าเธอมีแฟนแล้ว พอมาถึงช่วงใกล้ปิดเทอมสำหรับการใช้ชีวิตปี 1 ของผมก็เริ่มหมดไป น้องๆ ม.6 ที่เตียมกำลังจะเลือกคณะเพื่อเข้ามหาวิทยาลัย ในช่วงนั้นก็มีน้องผู้หญิงที่โรงเรียนเดิมของผม ขอคำปรึกษาเรื่องจะเรียนต่อ เพราะน้องก็เริ่มสับสนว่าตัวเองถนัดหรือชอบคณะไหน สาขาวิชาไหนมากกว่ากันแน่ ผมก็แนะนำในฐานะรุ่นพี่คนนึงที่ยินดีให้คำปรึกษาเรื่องเหล่านี้ เพราะว่าตอนมัธยมปลายผมสอบติดหลายที่อยู่เหมือนกัน แต่สุดท้ายก็เลือกวิศวะ น้องคนนี้ตัวเล็ก ขาว จมูกโด่ง สวยมากเท่าที่ผมได้พบเจอในชีวิตความรักของผม น้องเขาโทรมาหาผมบ่อยมากทั้งเรื่องเรียนต่อและเรื่องอื่นๆ ในช่วงซัมเมอร์ผลประกาศก็ออกมา น้องเขาก็โทรมาบอกว่าได้ที่มหาวิทยาลัยแถวๆภาคเหนือ คณะเศรษฐศาสตร์ ผมก็ยินดีกับน้องเขาด้วย และด้วยความที่น้องกำลังจะเป็นเฟรชชี่ก็โทรมาถามเรื่องต่างๆที่น้องใหม่จะได้พบเจอ เมื่อถึงเวลาเปิดเรียนเข้าปี 1 ของน้อง และผมกลายมาเป็นปี 2 มาอ่านเรื่องราวปี 2 ของผมกับน้องโรงเรียนคนนี้ต่อนะ ความรักมันเริ่มลึกซึ้งเข้าไปทุกทีแล้ว ตอนนี้ผมต้องไปทำธุระก่อนแล้วล่ะ ^^

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่